คปภ. เปิดตัวโครงการศึกษาการยกร่างกฎหมายประกันภัยสุขภาพ (ภาคสมัครใจ)


กรุงเทพฯ 21 ส.ค. – คปภ. เปิดตัวโครงการศึกษาการยกร่างกฎหมายประกันภัยสุขภาพ (ภาคสมัครใจ) โดยเฉพาะ เพื่อปลดล็อคความลักลั่นประกันภัยสุขภาพฝั่งประกันชีวิต และประกันภัยสุขภาพฝั่งประกันวินาศภัย ย้ำเป็นโอกาสทองที่จะช่วยให้ประกันภัยสุขภาพเติบโตอย่างยั่งยืน และได้รับความเชื่อมั่นจากประชาชน


นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานเปิดการประชุมเพื่อรับฟังการนำเสนอข้อมูล แนวทางการศึกษาวิจัยและแผนการดำเนินงานโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการด้านสุขภาพด้วยการประกันภัย ซึ่งจัดโดยสายกฎหมายและคดี สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ร่วมกับ ศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563 ณ โรงแรมสวิสโฮเต็ล กรุงเทพฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากฎหมาย รวบรวมข้อมูล รวมทั้งวิเคราะห์สภาพปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการบริหารจัดการด้านสุขภาพ จากผู้แทน กระทรวงสาธารณสุข กรมการแพทย์ กรมอนามัย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สมาคมประกันชีวิตไทย และสมาคมประกันวินาศภัยไทย เพื่อนำไปสู่การยกร่างกฎหมายเฉพาะประกันภัยสุขภาพ (ภาคสมัครใจ)
เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า ระบบประกันภัยสุขภาพมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างหลักประกันด้านสุขภาพให้แก่ประชาชนและการบริหารจัดการด้านสุขภาพในระดับมหภาคของภาครัฐ ซึ่งที่ผ่านมาสำนักงาน คปภ. ได้ส่งเสริมให้มีผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ตอบสนองความต้องการและรองรับวิถีการใช้ชีวิตของประชาชนอย่างต่อเนื่อง เช่น การประกันภัยที่สนับสนุนการรักษาสุขภาพ การประกันภัยที่รองรับสังคมผู้สูงอายุ Long-Term Care Product และ Remote Treatment รวมทั้งผลักดันการประกันภัยสุขภาพภาคเอกชน (Private Health Insurance) ให้ประชาชนเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากการประกันภัยสุขภาพมากขึ้นในราคาที่เหมาะสม ด้วยการส่งเสริมความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ประกันภัยสุขภาพ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้เอาประกันภัย การร่วมมือกับบริษัทเอกชนในกลุ่มธุรกิจ Value Chain ของสังคมผู้สูงอายุ รวมทั้งการมีส่วนร่วมในการกำหนดมาตรฐานค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาล
การจัดทำแผนผู้สูงอายุแห่งชาติ การนำระบบประกันภัยสุขภาพภาคเอกชนเสริมเติมสิทธิค่ารักษาพยาบาลให้กับระบบหลักประกันภัยสุขภาพ 3 ระบบหลัก คือระบบหลักประกันภัยสุขภาพแห่งชาติ ระบบประกันสังคม และระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ
จากการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพในทุกมิติ ส่งผลทำให้เบี้ยประกันภัยสุขภาพ มีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นได้จากเบี้ยประกันภัยสุขภาพ (ประกันชีวิตและประกันวินาศภัย) ในปี 2561 มีเบี้ยประกันภัยรวมทั้งสิ้น 82,735,873,156.49 บาท เมื่อเทียบกับเบี้ยประกันภัยสุขภาพ (ประกันชีวิตและประกันวินาศภัย) ในปี 2562 มีเบี้ยประกันภัยรวมทั้งสิ้น 91,459,365,462.10 บาท เพิ่มขึ้น 8,723,492,305.61 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 10.54
และเมื่อเปรียบเทียบเบี้ยประกันภัยสุขภาพ (ประกันชีวิตและประกันวินาศภัย) ในไตรมาสแรกของปี 2562 มีเบี้ยประกันภัยรวมทั้งสิ้น 23,832,097,072.76 บาท กับไตรมาสแรกของปี 2563 มีเบี้ยประกันภัยรวมทั้งสิ้น 29,408,063,533.41 บาท ซึ่งเพิ่มขึ้น 5,575,966,460.65 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 23.40
อย่างไรก็ตาม การผลักดันให้ระบบประกันภัยมีบทบาทในการสนับสนุนระบบเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืนนั้นจำเป็นต้องมีการพัฒนากฎหมายแม่บทที่เกี่ยวกับการประกันภัยสุขภาพ (ภาคสมัครใจ) หรือพระราชบัญญัติประกันภัยสุขภาพ (ภาคสมัครใจ) เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยมีพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 พระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 และพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ดังนั้นผู้เอาประกันภัยจึงสามารถซื้อกรมธรรม์ประกันภัยสุขภาพเดี่ยว (stand – alone) ได้จากบริษัทประกันวินาศภัย แต่หากซื้อประกันภัยสุขภาพกับบริษัทประกันชีวิต จะต้องซื้อเป็นเอกสารแนบท้ายกรมธรรม์ประกันชีวิตเท่านั้น ทำให้เกิดความลักลั่นของผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ ประชาชนเกิดความสับสน และเป็นข้อพิพาทร้องเรียนมายังสำนักงาน คปภ. อยู่เนือง ๆ ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยและเพิ่มประสิทธิภาพรวมถึงยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภคเกี่ยวกับการประกันภัยสุขภาพอย่างครอบคลุมและยั่งยืน สำนักงาน คปภ. จึงจัดทำโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการด้านสุขภาพ ด้วยการประกันภัย เพื่อศึกษากฎหมายประกันภัยสุขภาพ รูปแบบการประกันภัยสุขภาพและมาตรการภาครัฐเกี่ยวกับการบริหารจัดการด้านสุขภาพของประเทศต่าง ๆ เช่น ไทย เดนมาร์ก ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี และไต้หวัน เพื่อให้เห็นภาพรวมข้อดีข้อเสียของระบบประกันภัยสุขภาพ อันจะนำไปสู่การเสนอแนะแนวทางการจัดทำพระราชบัญญัติประกันภัยสุขภาพ (ภาคสมัครใจ) ที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย


เลขาธิการ คปภ. กล่าวด้วยว่า การศึกษาวิเคราะห์ข้อมูล ข้อกฎหมายในมิติต่าง ๆ เพื่อนำไปสู่การยกร่างพระราชบัญญัติประกันภัยสุขภาพ (ภาคสมัครใจ) ในครั้งนี้ จะทำให้ประเทศไทยมีเครื่องมือเข้าไปเสริมระบบประกันสุขภาพภาคบังคับที่เป็นกลไกของรัฐ โดยกฎหมายเฉพาะฉบับนี้จะมีบทบาทหลัก 2 ประการ คือ ประการแรก ช่วยคุ้มครองสิทธิประโยชน์ประชาชนให้ได้รับประโยชน์จากระบบประกันภัยสุขภาพ (ภาคสมัครใจ) อย่างเป็นธรรม โดยไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ และประการที่ 2 ช่วยส่งเสริมและพัฒนาระบบประกันสุขภาพให้เกิดประสิทธิภาพและเข้มแข็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีผู้สูงอายุ เนื่องจากปัจจุบัน โครงสร้างประชากรของประเทศไทยมีสัดส่วนผู้สูงอายุมากขึ้น ทำให้หน่วยงานภาครัฐมีภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเพิ่มสูงขึ้น โดยภาระค่าใช้จ่ายดังกล่าวนี้ มีผลกระทบ
ทั้งในส่วนของประชาชนและรัฐบาลที่ต้องรับผิดชอบ ทั้งนี้ผู้เอาประกันภัยรวมถึงผู้สูงอายุ อาจไม่ได้รับความคุ้มครองจากการประกันภัยสุขภาพอย่างครอบคลุมและเพียงพอ กฎหมายประกันภัยสุขภาพ (ภาคสมัครใจ) จึงมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างประสิทธิภาพการบริหารจัดการด้านสุขภาพ คุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชน ลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลและการบริหารจัดการด้านสุขภาพของประชาชนและภาครัฐ
“การจัดประชุมครั้งนี้ ถือเป็นการ Kickoff หรือจุดเริ่มต้นในการขับเคลื่อนเพื่อนำไปสู่การยกร่างพระราชบัญญัติประกันภัยสุขภาพ (ภาคสมัครใจ) โดยสำนักงาน คปภ. มีความมุ่งหวังว่าโครงการนี้จะเป็นประโยชน์ในการผลักดันให้ระบบประกันภัยร่วมเป็นกลไกในการขับเคลื่อนระบบสาธารณสุข คุณภาพชีวิตของประชาชน และพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่ดีขึ้นต่อไป” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบเจ้าบ่าวลอบขนยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด

ปราจีนบุรี 17 พ.ค. – ตำรวจสกัดจับพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุนปืน 10 นัด รถกระบะ 1 คัน นาทีเจ้าหน้าที่สกัดจับนายธนธรรม หรือ เม่น เจ้าบ่าวซึ่งเพิ่งผ่านพิธีแต่งงานไปไม่นาน และเป็นหนึ่งในแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ โดยจับกุมได้บริเวณถนนบ้านหนองหอย อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 5 ล้านเม็ด, อาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก, กระสุนปืน 10 นัด และรถกระบะ 1 คัน ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผยขบวนการนี้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากริมแม่น้ำโขง จ.อำนาจเจริญ มาซุกซ่อนไว้ที่บ้านในปราจีนบุรี เพื่อเตรียมกระจายไปยังพื้นที่ปทุมธานี เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวจนพบว่าจะมีการเดินทางไปยัง จ.อุบลราชธานี เพื่อรับยาเสพติด กระทั่งกลุ่มผู้ต้องหารู้ตัวว่าถูกสะกดรอย จึงเร่งความเร็วรถหลบหนี ก่อนพุ่งชนรถเจ้าหน้าที่ และถูกสกัดจับไว้ได้ ขณะที่รถยนต์ 2 […]

ไรเดอร์ชกเบ้าตาแตก ฉุนเมาปักหมุดมั่วแถมลวนลาม

พัทยา 17 พ.ค.- ไรเดอร์ฉุน ชกนักท่องเที่ยวชาวอินเดียจนเบ้าตาแตก พยานบอกผู้ก่อเหตุฉุนปักหมุดผิดทำขี่วนหลายรอบ แถมถูกลวนลามจึงทนไม่ไหว นักท่องเที่ยวชาวอินเดีย อายุประมาณ 35-40 ปี นอนบาดเจ็บ คิ้วซ้ายและเบ้าตาซ้ายแตกเลือดอาบหน้าอยู่ในอาการมึนเมา เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงประมาณตี 1 วันนี้ ในซอยเทพประสิทธิ์ 17 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่จะมาถึง แต่พลเมืองดีบันทึกภาพไว้ได้ จึงมอบให้ตำรวจเป็นหลักฐาน สอบถามพนักงานรักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ แห่งหนึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเป็นไรเดอร์ส่งผู้โดยสาร และเล่าให้ตนฟังว่านักท่องเที่ยวคนนี้มึนเมาอย่างหนัก แถมปักหมุดสถานที่ส่งผิดที่ ผู้ก่อเหตุก็พยายามวนหาอยู่หลายครั้ง เท่านั้นยังไม่พอ ผู้บาดเจ็บได้ลวนลามผู้ก่อเหตุ จนผู้ก่อเหตุโมโหและจอดรถชกหน้าทันที ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บจะเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองพัทยา หลังรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว .-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ข่าวแนะนำ

อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง นอนคุกคืนแรกเครียด ไม่กินมื้อเย็น

กรมราชทัณฑ์ 18 พ.ค. – อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง นอนคุกคืนแรกเครียด ไม่กินมื้อเย็น ส่วน “เปรมชัย” กักโรคอยู่แดนพยาบาลเรือนจำ ภายหลังวานนี้ (17 พ.ค.) พนักงานสอบสวนนำตัว 3 ผู้ต้องหา คดียักยอกเงินวัดไร่ขิง ได้แก่ นายแย้ม อินทร์กรุงเก่า หรือ อดีตพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง นายเอกพจน์ ภูฆัง หรือ อดีตพระมหาเอกพจน์ ภูฆัง พระลูกวัดคนสนิทของอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และ น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ โบรกเกอร์เว็บพนันออนไลน์ ฝากขังศาลครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน และส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้ออกหมายขังระหว่างสอบสวน ให้ขัง น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ ที่ทัณฑสถานหญิงกลางโดยได้ดำเนินการรับตัวและนำตัวกักโรคโควิด-19 ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดต่อในแดนระหว่างพิจารณาคดี เบื้องต้นตรวจสุขภาพร่างกายปกติ […]

ฝนตกหนักบนดอยสุเทพ น้ำหลากท่วมชุมชนเขตเทศบาลเชียงใหม่

เชียงใหม่ 18 พ.ค.-ฝนตกหนักบนดอยสุเทพ และในตัวเมืองเชียงใหม่ นานนับชั่วโมง ทำให้น้ำป่าไหลหลากลงมาตามลำห้วย และเอ่อล้นท่อระบายน้ำ ท่วมขังชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนกาดก้อม ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังกังวล กลัวจะเหมือนปีที่ผ่านมา ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ทำให้รถเล็ก ที่จะผ่านเส้นทางบริเวณดังกล่าว ผ่านลำบาก รถจักรยานยนต์ เครื่องยนต์ดับหลายคัน ระดับน้ำสูง 30 เซนติเมตร ขณะที่ชาวบ้านขอความร่วมมือผู้ที่ขับรถยนต์ผ่านเส้นทางเข้าในชุมชน ขอให้ชะลอความเร็ว เนื่องจากเกิดคลื่นน้ำ ทะลักเข้าไปในบ้าน ทรัพย์สินจะเสียหาย หากเป็นไปได้ ให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง ไปใช้เส้นทางอื่นแทน ขณะนี้ระดับน้ำยังคงสูงขึ้น เนื่องจากฝนยังไม่หยุดตก ทำให้การสัญจรบางเส้นทางลำบาก นอกจากนั้นยังมีน้ำท่วมขังถนนอีกหลายสาย รอการระบาย ทำให้มีประชาชนติดค้างตามร้านค้าร้านอาหารข้างทางเพื่อหลบฝน ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาและเร่งระบายน้ำ หลังจากนั้นประมาณ 2-3 ชั่วโมง ระดับน้ำน่าจะลดลง ล่าสุดเช้าวันนี้ ระดับน้ำลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว บางจุดยังมีน้ำขังบนถนนเล็กน้อย ถนนตามชุมชนมีแต่ขยะและถุงขยะลอยมากับน้ำท่วม ทำให้รถขยะของเทศบาลนครเชียงใหม่ เร่งเก็บเศษขยะและถุงขยะ อย่างไรก็ตามประชาชนส่วนใหญ่ยังกังวลเกี่ยวกับเรื่องน้ำท่วม กลัวจะเหมือนปีที่ผ่านมา ขณะที่ผู้รับเหมาดูดตะกอนดินทรายในแม่น้ำปิง ได้นำเรือดูดทรายลำแรกจากจังหวัดอ่างทอง มาถึง ลงในน้ำปิง ตรงข้ามกับสำนักงานแขวงนครพิงค์ ย่านวังสิงห์คำ ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ […]

รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัท เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้าน

กทม. 18 พ.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง รวบแม่บ้านควบตำแหน่งกรรมการบริษัทชิปปิ้ง เลี่ยงภาษีกว่า 180 ล้านบาท พบก่อเหตุคล้ายกันในบริษัทฯ อีก 2 แห่ง รวมรัฐเสียหายกว่า 430 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) นำเจ้าหน้าเข้าจับกุม นางสมบุญ อายุ 54 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1051/2568 ลงวันที่ 18 กุมภาพันธ์2568 ในความผิดฐาน “ร่วมกันเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่มกระทำการใดๆ โดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทำนองเดียวกัน ที่ลานจอดรถหน้าอพาร์ทเมนต์ พื้นที่ ม.2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พฤติการณ์ ของ น.ส.สมบุญ ผู้ต้องหา ตรวจสอบพบว่า เป็นหนึ่งในกรรมการ บริษัท แห่งหนึ่งประกอบกิจการเป็นตัวแทนนำเข้าสินค้าและดำเนินพิธีการศุลกากรเพื่อนำสินค้าออกจากท่าเรือ แต่จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าบริษัทฯดังกล่าวมีพฤติการณ์ปิดบังซ่อนเร้นที่มาของรายได้ รวมถึงค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ โดย บริษัทมักจะไม่มีการออกใบกำกับภาษีขายและใบเสร็จรับเงินสำหรับค่าบริการให้แก่ลูกค้าแต่อย่างใด และการจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างของบริษัทฯ มักจะจ่ายเป็นเงินสดให้ลูกจ้างเป็นรายสัปดาห์ […]

ตำรวจเร่งตรวจสอบบัญชีธนาคารวัดไร่ขิง กว่า 20 บัญชี

กทม. 18 พ.ค.-ตำรวจเร่งตรวจสอบบัญชีธนาคารวัดไร่ขิง กว่า 20 บัญชี หาความเชื่อมโยงการยักยอกเงินของอดีตเจ้าอาวาส เบื้องต้นพบมีอีก 7 บัญชี ที่ใช้กล่าวหาการกระทำความผิด เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบและสอบปากคำพยาน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด คดียักยอกเงินวัดไร่ขิง วันนี้ (18 พ.ค.68) พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ให้ข้อมูลว่า ทางพนักงานสอบสวนยังคงเดินหน้ารวบรวมพยานหลักฐานเส้นทางการเงิน สอบปากคำพยานและผู้ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีวัดไร่ขิง จำนวนหลายบัญชีทยอยเข้ามาสอบปากคำ โดยตั้งศูนย์ปฏิบัติงานที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน จากข้อมูลการสอบสวนปัจจุบัน พบความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินระหว่างนายแย้ม กับ นางสาวอรัญญาวรรณหลายช่องทาง ช่วงปี 2563 ถึง ปี 2567 รวมเป็นเงินกว่า 300 ล้านบาท -แยกออกเป็นบัญชีส่วนตัวของอดีตพระแย้ม โอนเงินให้นางสาวอรัญญาวรรณในช่วงปี 2566 รวมกัน 80 ล้านบาท-ใช้บัญชีของอดีตพระเอกพจน์ หรือนายเอกพจน์ โอนเงิน และตระเวณนำเงินสดไปฝากตู้ธนาคารต่าง ๆ ให้นางสาวอรัญญาวรรณ หลายรายการรวมแล้วกว่า 200 ล้านบาท-และพบว่ามีชื่อบัญชีบุคคลอีก 1 บัญชี โอนเงินให้ นางสาวอรัญญาวรรณ […]