ยอดใช้น้ำมันปีนี้สร้างสถิติต่ำสุดลดลงร้อยละ 8.7 เหตุโควิด-19

กรุงเทพฯ 29 ก.ค. – ยอดใช้น้ำมันของประเทศปี 63 คาดลดลงร้อยละ 8.7 สร้างประวัติการณ์ลดลงสูงสุดตั้งแต่ประเทศไทยเคยใช้น้ำมัน เหตุผลกระทบโควิด-19 ขณะที่ครึ่งปีแรกหดตัวถึงร้อยละ 13.8  รอ รมว.พลังงานคนใหม่ตัดสินใจยกเลิกแก๊สโซฮอล์ 91 และเดินหน้าบล็อกเชนซื้อบี 100 ส่วน 3 โรงกลั่นฝันสลายรัฐยืนยันประกาศมาตรฐานยูโร 5 คงเดิม 1 ม.ค.67


นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยว่า ภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันครึ่งแรกของปี 2563 (ม.ค.-มิ.ย.) ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 13.8 ส่วนทั้งปีคาดว่าจะสร้างสถิติใหม่ลดลงสูงสุดตั้งแต่ประเทศไทยเคยใช้น้ำมัน เนื่องจากผลกระทบของโควิด 19 ทำให้ ยอดใช้เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้วที่มียอดใช้ 157.33 ล้านลิตร นับว่าลดลงร้อยละ8.7 หรือมีการใช้ปีนี้เฉลี่ย 143.59ล้านลิตร/วัน โดยยอดการใช้นี้เป็นการประเมินจากผู้ค้าน้ำมันที่มีการประเมินยอดขายทั้งปี ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าผู้ค้าประเมินจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือจีดีพี จะลดลงเท่าใด จากที่ล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินจีดีพีไทยปีนี้ลดลงร้อยละ 8.1 ซึ่งปกติการใช้น้ำมันจะเติบโตใกล้เคียงกับจีดีพีของประเทศ โดยปลายปีที่แล้วคาดว่าการใช้น้ำมันปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 2-3

“การใช้น้ำมันของประเทศปกติจะโตใกล้เคียงกับจีดีพีของประเทศ โดยที่ผ่านมาเคยลดต่ำสุดช่วงวิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 ที่ลดลงร้อยละ 0.4 และเดิมคาดปีนี้ยอดใช้น้ำมันจะโตร้อยละ 2-3 แต่เมื่อเจอโควิด-19 ผู้ค้าน้ำมันประเมินใหม่ล่าสุดคาดการใช้ลดลงถึงร้อยละ 8.7” นางสาวนันธิกา กล่าว  


สำหรับการคาดการยอดใช้น้ำมันเชื้อเพลิงทั้งปี 2563 แยกเป็นผลิตภัณฑ์ คาดว่ากลุ่มเบนซินจะมียอดใช้ 31.18 ล้านลิตร/วัน ลดลงร้อยละ 3.1 กลุ่มดีเซลเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 หรือมียอดใช้เฉลี่ยน 67.66 ล้านลิตร/วัน น้ำมันเครื่องบินคาดว่าจะลดลงถึงร้อยละ 43.5 เหลือเพียง 10.93 ล้านลิตร/วัน  ก๊าซหุงต้มลดลง ร้อยละ 15.8 เหลือ 14.99 ล้าน กก./วัน  ก๊าซเอ็นจีวี ลดลงร้อยละ 4.8 เหลือ 5.13 ล้าน กก./วัน  โดยคาดว่าครึ่งหลังการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้น หลังจากช่วงครึ่งแรกลดลงหนักจากสาเหตุสำคัญมาจากภาครัฐได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19

ส่วนการประกาศบังคับใช้น้ำมันมาตรฐานยูโร 5 คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติยังคงประกาศตามเดิม 1 มกราคม 2567 แม้ว่า 3 โรงกลั่นน้ำมัน จากที่ประเทศไทยมี 6 โรงกลั่นฯ เสนอให้เลื่อนออกไป 1 ปี เพราะการก่อสร้างได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์ต่อต้านโควิด-19 ขณะที่มาตรฐานรถยนต์ยูโร 5 ทางคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมจะให้ประกาศใช้ในปี 2567 เช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้ทางกรมฯ ได้แจ้งให้ทุกโรงกลั่นฯรับทราบและเร่งรัดให้เดินหน้าตามแผน

สำหรับเรื่องที่เตรียมเสนอ รมว.พลังงานคนใหม่ มาพิจารณาเป็นเรื่องต่อเนื่อง เช่น การประกาศใช้อี 20 เป็นน้ำมันพื้นฐานของกลุ่มเบนซิน หากได้รับความเห็นชอบเมื่อใด ก็คาดว่าจะประกาศใช้ได้ในอีก 9 เดือนถัดไป ซึ่งจะมีการยกเลิกแก๊สโซฮอล์ 91 ควบคู่กันไป เพื่อทำให้ชนิดน้ำมันของประเทศไทยมีลดลง ส่วนไบโอดีเซล บี 10 จะเดินหน้าประกาศเป็นน้ำมันพื้นฐานตามแผน คือ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป โดยยอดใช้บี 10 มีความนิยมเพิ่มขึ้นคาดปลายปีจะมียอดใช้ 50 ล้านลิตร/วัน ต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะมียอดใช้ 57 ล้านลิตร/วัน เป็นผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ลดลง ทำให้ยอดใช้เชื้อเพลิงชีวภาพลดต่ำกว่าคาด นอกจากนี้ จะเสนอให้พิจารณาว่าจะเดินหน้าการนำบล็อกเชนมาซื้อขายบี 100 ต่อหรือไม่ หลังจากที่มีการทดลองรับซื้อด้วย 3 โรงงานบี 100 เมื่อวันที่ 15-19 กรกฎาคม 2563 ซึ่งใช้ราคาบี 100 ที่ 23.16 บาท/ลิตร สามารถซื้อผลปาล์มดิบได้ที่ 3.20-3.60 บาท/กก. เป็นราคาที่สูงกว่าราคาประกาศของกรมการค้าภายในที่ 2.70-3.40 บาท/กก. โดยขณะนี้กรมฯ กำลังรวบรวบผลดีผลเสีย เพื่อเสนอ รมว.พลังงานคนใหม่พิจารณาต่อไป


สำหรับภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันครึ่งแรกของปี 2563 (ม.ค.-มิ.ย.) ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 13.8 หรือมียอดใช้ 137.7 ล้านลิตร/วัน ขณะที่จำนวนสถานีบริการเชื้อเพลิงสิ้นไตรมาส 2/2563 รวมทุกประเภทอยู่ที่ 29,156 แห่ง โดยจำนวนปั๊มเปรียบเทียบระหว่างไตรมาส 2 และไตรมาส 1 ปี 63 ลดลงประมาณ 200 แห่ง

สำหรับยอดใช้น้ำมัน แยกเป็นรายผลิตภัณฑ์ ครึ่งแรกปี 2563 พบว่า กลุ่มเบนซินมียอดใช้เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 29.7 ล้านลิตร/วัน ลดลงร้อยละ 7.6  การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 65.6 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 4.9, การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 9.9 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 49.5 เนื่องด้วยยังคงอยู่ในช่วงมาตรการที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ประกาศห้ามอากาศยานทำการบินเข้าสู่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราวไปจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2563 จึงส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ, การใช้ LPG เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 15.0 ล้าน กก./วัน ลดลงร้อยละ 16.0 โดยการใช้ภาคขนส่งลดลงมากที่สุด เฉลี่ยอยู่ที่ 2.0 ล้าน กก./วัน ลดลงร้อยละ 30.6 รองลงมาเป็นภาคปิโตรเคมี ใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 6.0 ล้าน กก./วัน ลดลงร้อยละ 19.3 ภาคอุตสาหกรรมใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 1.6 ล้าน กก./วัน ลดลงร้อยละ 10.4 และภาคครัวเรือนเฉลี่ยใช้อยู่ที่ 5.4 ล้าน กก./วัน ลดลงร้อยละ 6.4 ,การใช้ NGV เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 4.0 ล้าน กก./วัน ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 28.4 

ส่วนการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงมีปริมาณรวมลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เฉลี่ยอยู่ที่ 918,547 บาร์เรล/วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 9.5 โดยการนำเข้าน้ำมันดิบเฉลี่ยอยู่ที่ 893,508 บาร์เรล/วัน ลดลงร้อยละ 4.3 คิดเป็นมูลค่าเฉลี่ย 40,269 ล้านบาท/เดือน เนื่องจากเดือนมิถุนายน 2563 ยังคงอยู่ในช่วงหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่น และโรงแยกก๊าซธรรมชาติ รวมถึงมาตรการล็อกดาวน์อย่างต่อเนื่อง  สำหรับน้ำมันสำเร็จรูปเป็นการนำเข้าน้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG โดยมีปริมาณนำเข้าลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 25,039 บาร์เรล/วัน คิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 69.4 คิดเป็นมูลค่านำเข้าเฉลี่ยรวม 1,253 ล้านบาท/เดือน การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป เฉลี่ยอยู่ที่ 203,647 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.7 คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวมเฉลี่ย 8,891 ล้านบาท/เดือน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว

สุรินทร์ 28 ส.ค.-รองผู้ว่าฯ สุรินทร์ เผยเด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าน้องเป็นคนไทย น้องยังต้องได้รับสิทธิตามอนุสัญญาหลักสิทธิเด็ก เข้ารับการศึกษาต่อไป นายประภาส ศรีจันทร์เวียง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า ขณะนี้ พมจ.สุรินทร์ ตม.สุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กำลังดูแลน้องอายุ 13 ปี ที่มีแม่เป็นชาวกัมพูชาและทั้งคู่ถูกแจ้งจับเนื่องจากเป็นคนต่างด้าวอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและไม่มีใบอนุญาต ได้รับรายงานว่า เด็กชาย อายุ 13 ปีรายนี้ เกิดที่ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ส่วนแม่ทำงานในบ่อนการพนันที่ช่องสะงำ จากนั้นก็ได้เดินทางกลับประเทศโดยถูกกฎหมาย และคลอดน้องที่ประเทศกัมพูชา ก่อนจะกลับมาประเทศไทยอีกครั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต และลอบอยู่ในประเทศไทย โดยน้องได้รับการศึกษาในประเทศไทยตั้งแต่ ป.1 จนกระทั่งปัจจุบันคือ ม.1 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการพาน้องอายุ 13 ปี ตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจาก พมจ.สุรินทร์ ได้รับข้อมูลจากฝ่ายแม่เด็กว่า พ่อที่แท้จริงของน้องคือ ชายไทยที่อยู่ด้วยกันในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันความจริงได้ นอกจากการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น เพื่อดำเนินการทางกฎหมายในขั้นตอนต่อไป เช่น หากพิสูจน์ได้ว่า น้องมีบิดา […]

มติสภาประชุมลับญัตติด่วน MOU43-44 ฝ่ายค้านชี้ปิดหูปิดตา ปชช.

28 ส.ค. – สภาฯ ถกญัตติด่วน “MOU 43-44” เพื่อไทยขอประชุมลับ หวั่นอภิปรายเนื้อหาล้ำเส้น กังวลกัมพูชารู้ทาง ด้านฝ่ายค้านยันต้องเปิดเผย ไม่ใช่ปิดหูปิดตาประชาชน สุดท้ายเปิดเผยเฉพาะผู้เสนอญัตติ ส่วนผู้อภิปรายเป็นประชุมลับ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่งเป็นประธานการประชุม หลังพิจารรณากระทู้ถามทั่วไปแล้วได้มีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา 5 ฉบับ ได้แก่ 1. น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใทย เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 ระหว่างไทยกัมพูชา 2.นายกรวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เสนอให้สภาฯทำการศึกษาบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ44 แก้ไขปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย กัมพูชา 3.นายสฤษพงศ์ ​เกี่ยวข้องสส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่าเนื่องจากตนได้เสนอญัตติดังกล่าวเป็นหนังสือไว้แล้ว ก็ขอให้นำมาอยู่ในวาระด่วนเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นเรื่องทำนองเดียวกัน 4.นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอเรื่องขอให้สภาฯพิจารณาศึกษMOU 43 และ44 […]

เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด

แม่ฮ่องสอน 28 ส.ค. – เส้นทางหลวง 108 ขุนยวม-แม่ฮ่องสอน ถูกตัดขาด คอสะพานห้วยโป่งถูกน้ำป่าซัดเสียหายกว้างกว่า 80 เมตร คาด 1 ก.ย.นี้ สามารถเปิดเส้นทางสัญจรได้ สภาพความเสียหายของพื้นที่ริมทางหลวง 108 บริเวณห้วยบ้านตำข่อน บ้านแม่จ๋า บ้านผาบ่องเหนือ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน หลังระดับน้ำลดลงเป็นปกติ ยังคงมีท่อนไม้ ต้นไม้กองทับถมอยู่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดนำรถและเครื่องจักรใหญ่เข้าเคลียร์ท่อนไม้ เศษไม้ที่กีดขวาง สามารถเปิดให้รถสัญจรไปมาได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวัง ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากน้ำป่าไหลหลาก เส้นทางหมายเลข 108 บริเวณสะพานห้วยโป่ง ต.ห้วยโป่ง ข้ามลำน้ำแม่จ๋า ซึ่งคอสะพานถูกน้ำป่าซัดได้รับความเสียหายเป็นแนวกว้าง ทำให้การสัญจรถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง จึงประสานศูนย์สร้างและบูรณะสะพานจังหวัดพิจิตร เพื่อขอสนับสนุนสะพานแบริ่ง หรือสะพานเหล็กสำเร็จรูป สำหรับใช้งานชั่วคราว ขณะที่วิศวกรจากศูนย์ฯ จะเข้าตรวจสอบความเสียหายของสะพานห้วยโป่ง เพื่อดำเนินการติดตั้งสะพานแบริ่ง หากไม่มีอุปสรรคคาดว่าสะพานจะพร้อมใช้งานและเปิดให้สัญจรได้อีกครั้งในวันจันทร์ที่ 1 กันยายนนี้ น้ำที่ท่วม 13 หมู่บ้านรวมทั้งตัว อ.แม่แจ่ม เริ่มลดลงส่วนที่ จ.เชียงใหม่ […]

จนท.ตรึงกำลังเข้มบ้านหนองจาน หวั่นเผชิญหน้า

สระแก้ว 28 ส.ค. – คนไทยรวมพลบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว แสดงพลังปกป้องแผ่นดินไทย เจ้าหน้าที่ตรึงกำลังเข้ม หวั่นเหตุเผชิญหน้า หลังชาวกัมพูชาท้าทาย ขณะที่ “กัน จอมพลัง” ขนรถดูดส้วม 14 คัน เสิร์ฟเขมร.-สำนักข่าวไทย