เชียงใหม่ 17 ส.ค.-นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือเผย ฟาร์มและเขียงหมูได้รับผลกระทบจากมีผู้จำหน่ายเนื้อหมูไม่ทราบที่มาในราคาถูกผิดปกติ ขอให้ภาครัฐเร่งตรวจสอบ เกรงส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการเลี้ยงหมูของประเทศในระยะยาว
นายสุนทราภรณ์ สิงห์รีวงศ์ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือว่า พบความผิดปกติเนื่องจากปริมาณหมูที่ส่งเข้าพื้นที่ภาคเหนือมีมากเกินความเป็นจริง ที่ผ่านมามีหมูเข้าเชือดในพื้นที่ประมาณ 2,000-3,000 ตัวต่อเดือนและมีการนำเข้าซากหมู (หมูที่เชือดแล้ว) ประมาณ 2-3 ล้านกิโลกรัมต่อเดือน แต่ในเดือนกรกฎาคม 2565 มีการนำเข้า “ซากหมู” สู่ภาคเหนือเพิ่มขึ้นเป็น 5 ล้านกิโลกรัมต่อเดือน โดยมีใบอนุญาตขนย้าย
โบรกเกอร์หรือผู้ประกอบการที่เป็น shop จำหน่ายหมูโดยเฉพาะซึ่งมาจากจังหวัดที่เป็นแหล่งเลี้ยงหมูแหล่งใหญ่เช่น นครปฐม ราชบุรี สุพรรณบุรี ขายหมูเนื้อแดงเพียงกิโลกรัมละ 170 บาท หากซื้อมาก ราคายิ่งลด ซึ่งน่าแปลกใจมากเพราะผลผลิตหมูในประเทศไทยยังขาดทุกพื้นที่ เกษตรกรเพิ่งกลับมาเลี้ยงใหม่ หลังประสบปัญหาโรคอหิวาต์แอฟริการในสุกร (ASF) กว่าที่ปริมาณผลผลิตจะเข้าสู่ภาวะสมดุลคือประมาณสิ้นปีนี้ แต่กลับมีปริมาณหมูในตลาดเพิ่มขึ้นผิดปกติ อีกทั้งราคาหมูหน้าฟาร์มอยู่ที่ 109 บาทต่อกิโลกรัม ดังนั้นราคาขายปลีกจะอยู่ที่ประมาณ 218 บาท แต่หมูไม่ทราบที่มาดังกล่าวกลับขายถูกกว่ามาก จึงมีความเป็นไปได้มากว่า เป็นหมูเถื่อนที่ลักลอบนำเข้า แล้วสวมใบเคลื่อนย้าย
สถานการณ์นี้ส่งผลกระทบให้การขายหมูมีชีวิตในฟาร์มเริ่มช้าลง 30% เช่น เขียงเคยเข้ามาจับ 3 ตัวต่อวันก็จับเหลือเพียง 1-2 ตัวต่อวัน ผู้เลี้ยงต้องเลี้ยงหมูที่ยังขายไม่ได้ต่อไป เมื่อน้ำหนักหมูเกิน 100 กิโลกรัมยิ่งทำให้ต้นทุนการเลี้ยงยิ่งสูงขึ้น ทั้งที่เกษตรกรต้องแบกรับต้นทุนในการยกระดับมาตรฐานฟาร์มให้ป้องกันโรคได้ดียิ่งขึ้นอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบรุนแรงต่อเขียงเนื่องจากมีหมูถูกมาตีตลาด จึงนับว่า เป็นการทำลายแผนการฟื้นฟูอุตสาหกรรมหมูไทยทั้งระบบ
ทางสมาคมติดตามและตรวจสอบพบว่า หมูที่ลักลอบนำเข้ามาผ่านด่านศุลกากรจะบรรจุเป็นกล่องมาในตู้คอนเทนเนอร์ ระบุต้นทางมาจากประเทศเยอรมนีบ้าง สเปนบ้าง สำแดงเท็จเป็นปลาและอาหารสัตว์หรืออาหารทะเลเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจเรื่องโรคระบาดและการขอใบอนุญาตขนย้ายซากสัตว์จากกรมปศุสัตว์ เมื่อนำเข้ามาได้แล้วก็จะกระจายนำไปฝากห้องเย็นเดือนละไม่ต่ำกว่า 1,000 ตู้ ทั้งที่จังหวัดสมุทรสาคร นครปฐม สมุทรปราการ และห้องเย็นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ผ่านมากรมปศุสัตว์ตรวจจับบ้าง แต่นับว่า เป็นจำนวนประปราย ไม่มากนัก
นายสุนทราภรณ์กล่าวว่า สาเหตุที่หมูในต่างประเทศโดยเฉพาะยุโรปและสหรัฐอเมริกาถูกกว่าหมูในทวีปเอเซียรวมถึงไทยเพราะราคาอาหารสัตว์ถูกกว่า ต้นทุนอาหารสัตว์คิดเป็น 70% ของการเลี้ยงทำให้ต้นทุนการผลิตต่ำกว่าหมูไทย ส่วนเครื่องในที่ต่างประเทศไม่กิน จะส่งมาขายที่ไทยจึงเป็นการกำจัดขยะด้วย ผู้ประกอบการร้านอาหาร หมูกระทะ และชาบูเลือกซื้อหมูที่ถูกกว่า แต่มีข้อน่าเป็นห่วงว่า หมูเถื่อนไม่ผ่านขั้นตรวจโรคระบาดอาจทำให้ระบาดเข้าไปในฟาร์มและส่งผลกระทบต่อสุขภาพผู้บริโภค
ทั้งนี้ขอเรียกร้องให้ภาครัฐเร่งแก้ปัญหาอย่างจริงจังกว่าที่เป็นอยู่เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรายเล็กและรายย่อยที่กำลังกลับเข้ามาเลี้ยงใหม่ซึ่งจะเป็นการทำร้ายเกษตรกรซ้ำเติมจนถึงขั้นประกอบอาชีพต่อไม่ได้.-สำนักข่าวไทย