กยท. ครบรอบ 7 ปี ชูแนวคิด “Greener Better”

กรุงเทพฯ 15 ก.ค. – กยท. จัดกิจกรรมวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบปีที่ 7 ภายใต้แนวคิด “Greener Better” สร้างความแข็งแกร่งให้ยางพาราไทย หนุนชาวสวนยางให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ตั้งเป้าใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมขับเคลื่อนภาคเกษตร พร้อมเปิดแผนการบริหารยางพาราอย่างยั่งยืน เชื่อมมิติเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม


นายกุลเดช พัวพัฒนกุล ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทยกล่าวว่า 7 ปีที่ผ่านมา กยท. เป็นองค์กรกลางที่มีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการยางพาราทั้งระบบ เน้นทำงานแบบบูรณาการร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียขององค์กร ทั้งพี่น้องชาวสวนยาง สถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง ผู้ประกอบกิจการยาง ภาครัฐ ภาคธุรกิจ ตลอดจนภาคการศึกษา 

ในปีที่ผ่านมา กยท. มีผลงานเป็นที่ประจักษ์หลายโครงการ ที่เด่นชัดคือ โครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางที่ทำต่อเนื่องมาตลอด 3 ปี เพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวสวนยางในช่วงภาวะวิกฤติโควิดตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โครงการชะลอยาง ช่วยให้ชาวสวนยางสามารถเก็บผลผลิตและขายในช่วงที่ราคาเหมาะสม เป็นการชะลอการขายยางในช่วงที่ราคายางปรับตัวลงได้ รวมถึงการเพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้ทั้งชาวสวนยาง สถาบันเกษตรกร และผู้ประกอบกิจการยาง พร้อมผลักดันให้เกิดความมั่นคงในอาชีพการทำสวนยางระยะยาว เช่น ส่งเสริมพัฒนาอาชีพเสริม ตามความต้องการของตลาด สนับสนุนการปลูกยางแบบสวนยางยั่งยืน  


“กยท. สามารถปลดล็อคความเหลื่อมล้ำด้านสิทธิประโยชน์ของชาวสวนยางให้ทั่วถึงเท่าเทียมกัน โดยการจัดสวัสดิการให้พี่น้องชาวสวนยาง ถือเป็นเกษตรกรเพียงกลุ่มเดียวของประเทศไทยที่ได้รับสิทธิสวัสดิการ สิ่งนี้คือผลงานสำคัญของ กยท. ที่จะเป็นต้นแบบให้หน่วยงานอื่นได้ศึกษา เพื่อจัดทำให้เกษตรกรกลุ่มอื่นๆ ต่อไปในอนาคต” ประธานกรรมการ กยท. กล่าว

นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กล่าวว่า ปัจจุบันองค์กรชั้นนำต่างๆ ให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืนมากขึ้น กยท. จึงกำหนดแนวทาง ‘Greener Better’ ด้วยการสร้างนวัตกรรมทั้งผลิตภัณฑ์และสังคม ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม โดยผลักดันโครงการบริหารจัดการ Carbon credit ในสวนยาง เพื่อลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มรายได้ เนื่องจากยางพาราสามารถกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 4.22 ตันต่อไร่ ถือเป็นโมเดลสำคัญให้กับพืชอื่นในการบริหารจัดการเรื่อง Carbon credit ต่อไป

นอกจากนี้ กยท. ยังเร่งขับเคลื่อนโครงการนวัตกรรมทางการแพทย์และผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตลอดจนห่วงโซ่ยางพารา เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ได้แก่ นวัตกรรม“มาตรฐานยางเครปบางสีน้ำตาลเกรดพรีเมียม” โดยใช้ กรดอินทรีย์ท่ีปลอดภัยต่อผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม ทำให้ก้อนยางไม่ก่อมลพิษกลิ่นและน้ำเสีย ส่วนผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมทางการแพทย์ได้แก่ หุ่นจำลองสำหรับฝึกเจาะหาก้อนเนื้อที่ผิดปกติในขาผู้ป่วย หุ่น CPR (หุ่นฝึกช่วยชีวิต) ซึ่ง กยท. ได้แจกหุ่น CPR ให้หน่วยงานทางการแพทย์ สาธารณสุข หน่วยกู้ชีพและสถานศึกษารวม 80 ตัวในโอกาสครบรอบวันสถาปนา กยท. ครบ 7 ปีด้วย


ผู้ว่าการ กยท. กล่าวเพิ่มเติมว่า ก้าวต่อไปของ กยท. คือขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยางให้สามารถเพิ่มมูลค่า แข่งขันได้ สร้างงาน สร้างรายได้ สร้างเศรษฐกิจฐานราก ด้วยพลังของคนรุ่นใหม่ ในการขับเคลื่อนและเชื่อมโยงอุตสาหกรรมยางในแต่ละพื้นที่ เพื่อยกระดับ Welfare economy ของคนที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานยางพารา และในโอกาสครบรอบ 7 ปี วันสถาปนาการยางแห่งประเทศไทย จึงได้ประกาศแผนการบริหารยางพาราอย่างยั่งยืน ทั้งด้านเศรษฐกิจ ด้วยการทำสวนยางให้เกิดความคุ้มค่า ปฏิบัติตามหลักวิชาการ เช่น ปลูกดูแลรักษา กรีดยาง เก็บผลผลิต โค่น รวมถึงขนส่งอย่างถูกวิธี ด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยการส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ อนุรักษ์แหล่งที่อยู่ของพืชและสัตว์ ควบคุมการใช้สารเคมี สร้างระบบการจัดการขยะที่ดี และ ด้านสังคม ด้วยการไม่สร้างผลกระทบต่อชุมชน เพิ่มคุณภาพชีวิต ดูแลและคุ้มครองความปลอดภัยของแรงงาน และมีการจ้างงานตามกฎหมายให้ค่าจ้างเป็นธรรมเพื่อสร้างความยั่งยืนให้อุตสาหกรรมยางพาราของไทย และเพื่อเกษตรกรชาวสวนยาง ตลอดจนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย

ภายในงาน กยท. ได้มอบรางวัลสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางดีเด่นระดับประเทศ ประจำปี 2564/2565 เพื่อสนับสนุน และสร้างความภาคภูมิใจ และเป็นแรงผลักดันให้สถาบันเกษตรกรชาวสวนยางมีการพัฒนาไปสู่ความเข้มแข็งและยั่งยืน โดยคัดเลือกสถาบันเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางที่มีความโดดเด่น ในการบริหารจัดการที่ประสบความสำเร็จในทุกมิติ รวมถึงรางวัลสมาชิกเกษตรกรชาวสวนยางพาราต้นแบบ ที่คัดเลือกจากความเป็นผู้นำ และสามารถเป็นต้นแบบถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านยางพาราให้แก่บุคคลทั่วไปได้รวม 15 รางวัล.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ พระราชทานเงินจากเงินเดือนทหารของพระองค์ฯ ให้ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 10 มิ.ย.-สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานเงินจากเงินเดือนทหารของพระองค์ฯ พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค ให้ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา วานนี้ (9 มิ.ย.68) สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานสิ่งของให้ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 ณ วังศุโขทัย เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับทหารชายแดน ประกอบด้วย เงินจากเงินเดือนทหารของพระองค์ฯ , พระ และสิ่งของอุปโภคบริโภค เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตย ที่ชายแดนไทย-กัมพูชา.-313.-สำนักข่าวไทย

พล.อ.สุจินดา คราประยูร นายกฯ คนที่ 19 ถึงแก่อสัญกรรม

กทม. 10 มิ.ย.- พล.อ.สุจินดา คราประยูร นายกรัฐมนตรีไทยคนที่ 19 ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคชรา ที่ รพ.พระมงกุฎฯ อายุ 91 ปี เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.สุจินดา คราประยูร เสียชีวิตอย่างสงบ ด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 เวลา 01.57 น. ที่ รพ.พระมงกุฎฯ ด้วยโรคชรา สิริอายุ 91 ปี 10 เดือน 4 วัน กำหนดการพิธีศพ จะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป สำหรับ พล.อ.สุจินดา คราประยูร (เกิด 6 สิงหาคม พ.ศ. 2476) เป็นนายทหาร และนายกรัฐมนตรีคนที่ 19 และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการทหารสูงสุด หนึ่งในคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ […]

“อ.เฉลิมชัย” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ

9 มิ.ย. – “อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์” เปิดใจเหตุลาออกจากศิลปินแห่งชาติ ให้เหตุผลเป็นความตั้งใจว่าครบ 70 ปี จะลาออกทุกตำแหน่ง เพื่อเดินทางท่องเที่ยว แต่ยังพร้อมช่วยกระทรวงและวงการศิลปะ จากกรณี อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ จิตรกรรม ประกาศระหว่างบรรยายในงาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 สู่ Thailand Biennale, Phuket 2025 ที่ จ.ภูเก็ต ว่าได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติ เมื่อวันที่ 30 พฤษาคมที่ผ่านมา เพื่อใช้ชีวิตอย่างอิสระ เนื้อหาในจดหมายที่ถูกเผยแพร่ออกมาซึ่งเขียนด้วยลายมือของ อ.เฉลิมชัย ถึงกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ลงวันที่ 30 พฤษภาคม มีใจความสำคัญว่า “เหตุผลของการลาออก เนื่องด้วยข้าพเจ้ามีอายุมากแล้ว จึงได้ประกาศหยุดสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ เพราะปรารถนาที่จะพักผ่อน ท่องเที่ยว หาความสุขในบั้นปลายของชีวิต ข้าพเจ้ารู้สึกส่วนตัวว่า เมื่อศิลปินแห่งชาติได้หยุดสร้างสรรค์ผลงานแล้วก็ไม่ควรที่จะมีตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้อีกต่อไป ข้าพเจ้าจึงขอให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรมโปรดพิจารณาตัดชื่อข้าพเจ้าออกจากทำเนียบศิลปินแห่งชาติด้วย” ภายหลัง อ.เฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุของการลาออกจากการเป็นศิลปินแห่งชาติว่า […]

“อนุทิน” สั่งเร่งตรวจสอบหลุมหลบภัยแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

กทม. 9 มิ.ย. – “อนุทิน” สั่งการผู้ว่าฯ 7 จังหวัดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เร่งตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยประชาชน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรมว.มหาดไทยและโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เพื่อตรวจติดตามความพร้อมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ติดต่อกับชายแดนประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา และได้รับทราบข้อมูลต่างๆในพื้นที่ ล่าสุด ได้มีข้อสั่งการให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และจังหวัดตราด เร่งดำเนินการตรวจสอบจำนวนหลุมหลบภัยในพื้นที่ทั้งหมด โดยสำรวจว่ามีหลุมหลบภัยที่สามารถใช้งานได้ในสภาพดีจำนวนกี่แห่ง จำนวนหลุมหลบภัยที่ชำรุดและต้องการขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมกี่แห่ง รวมทั้งสำรวจความต้องการในการก่อสร้างหลุมหลบภัยในพื้นที่เพิ่มเติม พร้อมระบุสถานที่และประมาณการงบประมาณที่ต้องการขอรับการสนับสนุน รายงานมายังกระทรวงมหาดไทย ภายในวันที่ 10 มิ.ย. 2568 ทั้งนี้ เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชน รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นต่อไป .319.-สำนักข่าวไทย