หมอชิต 12 ก.ค.- บขส. คาดหยุดยาว 5 วัน มีผู้โดยสารใช้บริการเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ไม่น้อยกว่า 3 แสนคน เตรียมรถเสริมประมาณ 200 คัน กำชับเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก
นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคมและในฐานะประธานกรรมการบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวว่า สำหรับวันหยุดยาวเนื่องในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาที่จะถึงนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบหมายให้ บขส.ดูแลอำนวยความสะดวกเรื่องการเดินทาง ไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้างและกำชับเรื่องมาตรการความปลอดภัย ทั้งอุบัติเหตุ และสุขอนามัย โดยเฉพาะช่วงนี้โควิด-19 กลับมาระบาดอีกครั้ง
ในส่วนการให้บริการขณะนี้ บขส.เตรียมรถให้บริการระหว่างเมืองหรือรถขนาดใหญ่ได้เตรียมไว้ให้บริการวันละ 800 เที่ยว ส่วนรถตู้รวม 3,000 เที่ยว และคาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการไปกลับต่อวันไม่น้อยกว่า 6 หมื่นคน/วัน โดยตลอด 5 วัน คาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการ บขส.เดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวและกลับเข้ามากรุงเทพฯ ไม่น้อยกว่า 3 แสนคน และยังได้เตรียมรถเสริมไว้อีกประมาณ 200 คัน
อย่างไรก็ตาม วันนี้ได้มีการกำชับให้เจ้าหน้าที่ ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร และตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสารและคนขับ และเน้นย้ำเรื่องการสวมใส่แมสก์กับพนักงานประจำรถ
ส่วนเรื่องราคาน้ำมัน บขส. ได้ซื้อวอลุ่มใหญ่และได้รับการช่วยเหลือลดค่าการตลาดจาก ปตท. จึงทำให้ บสข.สามารถตรึงราคาค่าโดยสารได้เป็นเวลา 3 เดือน (ก.ค.-ก.ย.) ส่วนรถร่วม บขส.ได้อนุมัติให้ปรับขึ้นราคา 5 สตางค์/คน/เที่ยวกทม. ซึ่งก็ขึ้นราคาอยู่ในฐานราคาน้ำมันประมาณ 30 บาท ซึ่งเป็นอัตราค่าเฉลี่ยในช่วง 4 ปี ทั้งนี้ ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการรถร่วมให้ช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนไปก่อน ในส่วนมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พบว่า ที่สถานีขนส่งฯ หมอชิต 2 มีการดำเนินการตามมาตรการ COVID Free Setting สำหรับบริการขนส่งสาธารณะ อาทิ มีการเช็ดทำความสะอาดในจุดที่สัมผัสบ่อย ทั้งเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วและห้องน้า
ส่วนการที่ ครม. ไฟเขียวให้ บขส. สามารถขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์เพิ่มจากการขนส่งผู้โดยสารอย่างเป็นทางการ เพื่อชดเชยรายได้-สู้ภาวะขาดทุน จากธุรกิจเดินรถโดยสารประจำทางที่ลดลงจากโควิด รองปลัดกระทรวงคมนาคม เผยว่า เรื่องนี้ บขส.รอมานานถึง 63 ปี ซึ่งเรามีจุดแข็งที่มีสถานีขนส่งอยู่ทั่วประเทศ จึงคาดว่าแต่ละปีจะมีรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยปีนี้คาดว่าจะมีรายได้กว่า 210 ล้านบาท และจะโตขึ้นไม่น้อยกว่าปีละ 15% ขณะนี้อยู่ระหว่างปรับระบบฐานข้อมูลแทร็กกิ้งสินค้า โดย บขส.ได้เร่งประสาน ไปรษณีย์ไทย-ผู้ประกอบการเอกชน ขยายจุดกระจายสินค้า ให้ถึงมือประชาชน สามารถขนส่งสินค้าได้อย่างทั่วถึง และราคาไม่สูงมาก เนื่องจากใช้ต้นทุนไม่สูงเพราะใช้สิ่งที่มีอยู่แล้วทั้งรถและสถานีขนส่ง.-สำนักข่าวไทย