การบินไทย แจงปัญหาราคาน้ำมันจากวิกฤติรัสเซีย-ยูเครน โดนทุกสายการบิน

กรุงเทพฯ 28 ก.พ.-ผู้บริหาร บมจ.การบินไทย ยืนยันวิกฤติขัดแย้ง รัสเซีย –ยูเครน ในเรื่องเส้นทางบินไม่มีปัญหา เพราะไม่มีเส้นทางบินไปรัสเซีย ส่วนผลกระทบเรื่องราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น เป็นสิ่งที่ทุกสายการบินโดนทุกแห่ง พร้อมระบุปัจจัยสำคัญหลังจากนี้ คือการฟื้นรายได้จากการเปิดบินหลังเปิดประเทศ กลับมาเปิดบินเพิ่มขึ้น


นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันท์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บมจ. การบินไทย กล่าวถึงวิกฤติความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและ ยูเครน ขณะนี้ ในเรื่องเส้นทางบิน ส่งผลกระทบกับการบินไทยน้อยมาก เนื่องจากไม่มีเส้นทางบินไปรัสเซีย ที่ผ่านมาการบินก็เป็นเที่ยวบินเช่าเหมาลำ หรือชาร์เตอร์ไฟลท์ ส่วนผลกระทบจากปัญหาราคาน้ำมัน ก็เป็นสิ่งที่ทุกสายการบินต้องเผชิญอยู่แล้ว ในขณะเดียวกันปัจจุบันการิบนไทย ได้มีการปรับฝูงบิน ใช้เครื่องบินรุ่นที่ประหยัดพลังงานมากกว่าในอดีต ก็ทำให้ภาระต้นทุนพลังงานลดลง ทั้งนี้ยืนยันว่า ปัจจุบันสำคัญต่อการบินไทยขณะนี้ เป็นเรื่องการเปิดประเทศ ทั้งขอบงไทย และประเทศต่างๆทั่วโลก ซึ่งหากมีการเปิดประเทศมาก โอกาสที่จะเพิ่มการบินหลังสถานการณ์โควิด- 19 ก็จะเพิ่มมากขึ้น โอกาสที่จะเพิ่มรายได้ก็จะสูงไปด้วย

“ที่ผ่านมาเห็นได้ชัดเจนจากมาตรการ Test & Go ที่ไทยนำมาใช้ ก็ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยมากขึ้น เมื่อยกเลิกไป ก็ทำให้นักท่องเที่ยวลดลง เมื่อไทยนำโครงการ Test & Go กลับมาใช้อีกครั้ง ก็เชื่อว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมามากขึ้นแน่นอน” นายปิยสวัสดิ์


ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ การบินไทย ระบุด้วยว่า นักท่องเที่ยวกลุ่มสำคัญที่จะมีผลต่อการเพิ่มรายได้ ของการบินไทย คือนักท่องเที่ยวในภูมิภาค เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ซึ่งจีน อาจยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการเปิดให้คนเดินทางออกมาท่องเที่ยว แต่ในส่วนของญี่ปุ่นเกาหลี ก็คาดว่าในปลายปีนี้จะมีความชัดเจน ส่วนเส้นทางบินที่การบิน เตรียมเปิดบิน หรือ เพิ่มความถี่ เช่น เส้นทางบินไปอินเดีย ออสเตรเลีย รวมถึงการเปิดบินไปซาอุดิอาระเบีย ด้วย

ส่วนความคืบหน้าเรื่องแผนฟื้นฟูกิจการนั้น นายปิยสวัสดิ์ ระบุว่า จะมีการปรับแผนอีกครั้ง หลังจากที่ มีความชัดเจนว่า การกำหนดที่มาของเงินกู้เดิม ในส่วนของ เงินกู้ 25,000 ล้านจากภาครัฐ ภาครัฐจะไม่ใส่เงินเข้ามา ก็จะเหลือในส่วนเงินกู้จากสถาบันการเงินอีก 25,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะลงนามสัญญาสินเชื่อใหม่ได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ โดยเงินกู้ส่วนนี้ ก็จะนำมาใช้ ในเรื่อง ชำระคืนหนี้ค่าตั๋วเครื่องบิน เรื่องการจ่ายชดเชยพนักงาน ที่เข้าโครงการร่วมใจจากองค์กร ที่จะต้องดำเนินการทยอยชำระจนถึงสิ้นปี และใช้จ่ายเรื่องกระแสเงินสดต่างๆ

ทั้งนี้ นายปิยสวัสดิ์ ยืนยันว่า ในขณะนี้ยังมีความเป็นไปได้ ที่การบินไทย จะออกจากแผนฟื้นฟูกิจการได้เร็วกว่าแผนเดิม หรือ 5 ปี โดยมีปัจจัยสำคัญเรื่องปรับโครงสร้างทุน ที่จะทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นกลับมาเป็นบวก และมี EBITDA หรือ กำไรจากการดำเนินงานของบริษัทก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย กลับมาเป็นบวกต่อเนื่อง ตามที่กำหนดในแผนฟื้นฟู ด้วย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การบินไทย ได้ประกาศผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2564 โดยบริษัทฯ และบริษัทย่อยขาดทุนจากการดำเนินงานไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว 19,702 ล้านบาท ขาดทุนลดลงจากปีก่อน 15,712 ล้านบาท (44.4%) มีรายได้รวมทั้งสิ้น 23,747 ล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อน 24,684 ล้านบาท หรือ 51% สืบเนื่องจากรายได้ จากการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าลดลง 24,599 ล้านบาท (59.9%) และรายได้จากบริการอื่นๆ ลดลง 1,545 ล้านบาท แต่มีรายได้อื่นเพิ่มขึ้น 1,460 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการรับรู้รายได้ที่เกิดจากข้อตกลงระงับข้อพิพาทเรียกร้องค่าเสียหายที่เกี่ยวข้องกับการชำรุดของเครื่องยนต์ มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานรวม 43,449 ล้านบาท ต่ำกว่าปีก่อน 40,396 ล้านบาท (48.2%) เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่แปรผันตามปริมาณการผลิตและปริมาณการขนส่งที่ลดลง ตลอดจนการดำเนินมาตรการลดค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูกิจการและปฏิรูปธุรกิจ แต่ยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยรายได้ที่สูญเสียไป จากการที่ไม่สามารถทำการบินได้ตามปกติ โดยบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวสุทธิ เป็นรายได้จำนวน 81,525 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการ อาทิ การปรับโครงสร้างหนี้ การขายทรัพย์สินและเงินลงทุน การปรับโครงสร้างและขนาดองค์กร เป็นต้น ส่งผลให้บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 จำนวน 55,113 ล้านบาท

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมจำนวน 161,219 ล้านบาท ลดลงจากวันที่ 31 ธันวาคม 2563 จำนวน 48,078 ล้านบาท (23%) หนี้สินรวม 232,470 ลดลงจากวันที่ 31 ธันวาคม 2563 จำนวน 105,492 ล้านบาท (31.2%) .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ยกหูคุยนายกฯ มาเลเซีย ร่วมแก้น้ำท่วมลุ่มแม่น้ำโก-ลก

นายกฯ ยกหูจากเยอรมนีคุย “นายกฯ มาเลเซีย” เตรียมความพร้อมร่วมมือแก้ปัญหาน้ำท่วมลุ่มแม่น้ำโก-ลก ผลักดันโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่-ด่านบูกิตกายูฮิตัม คาดเสร็จภายใน ต.ค.นี้

นางสงกรานต์ปี 68 นาม “ทุงสะเทวี” ธัญญาหาร-ประชาชนสุขสมบูรณ์

ฝ่ายโหรพราหมณ์ กองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง ประกาศสงกรานต์ ปี 2568 วันที่ 14 เมษายน เป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์ ทรงนามว่า ทุงสะเทวี

ขนเหยื่อและแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากเมียวดีกลับจีน รอบ 2

เริ่มแล้วปฏิบัติการขนเหยื่อและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนจากเมืองเมียวดี กลับจีน รอบ 2 จำนวน 4 วัน 19 เที่ยวบิน รวมกว่า 1,400 คน

ฮั้วเลือก สว.

DSI รับเรื่อง “ฮั้วเลือก สว.” เป็นคดีพิเศษ

6 มี.ค. – คณะกรรมการคดีพิเศษมีมติรับการฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 (1) คือเข้าข่ายการฟอกเงิน ด้วยมติเห็นชอบ 11 เสียง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ร่วมประชุมพิจารณาคดีเรื่องสืบสวนที่ 151/2567 กรณีการคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่มีกระบวนการหรือพฤติการณ์ที่ไม่ได้เป็นไปด้วยสุจริตหรือเที่ยงธรรม เป็นคดีพิเศษหรือไม่ ซึ่งเป็นการนัดประชุมครั้งที่ 2 ภายหลังส่งเรื่องให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองด้านอาชญากรรมระหว่างประเทศและอาชญากรรมพิเศษ เป็นพิจารณาให้ได้ข้อยุติก่อนเสนอคณะกรรมการคดีพิเศษในวันนี้ โดยในช่วงการเปิดประชุม พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการ ได้รายงานว่า วันนี้มีผู้เข้าร่วมประชุม 19 คน ลาประชุม 3 คน ประกอบด้วย คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 2 คน คือ พล.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการสอบสวนคดีอาญา และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน […]