ทีมเศรษฐกิจเดินหน้าฟื้นเศรษฐกิจปี 65

กรุงเทพฯ 23 ก.พ.-ทีมเศรษฐกิจมุ่งฟื้นเศรษฐกิจปี 65 ผลักดันการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ในเขตอีอีซี หนุนเศรษฐกิจดิจิทัล เดินหน้าขยายระบบ 5 จีครอบคลุมทั้งภาคอุตสาหกรรม ครัวเรือน ขุนคลังอาคม ยอมรับเงินลงทุนในเขตอีอีซี ช่วยดันจีดีพีโตร้อยละ 4


นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวในงานสัมมนา “เศรษฐกิจไทยปี 2565 ความท้าทายและโอกาสใหม่” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หลังวิกฤติโควิด-19 ว่า รัฐบาลได้มุ่งควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ในปี 65 ไม่ให้กระทบต่อเศรษฐกิจไทยเสียหายขึ้น โดยพอใจยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนในปี 64 จำนวน 6.4 แสนล้านบาท ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนและต่างชาติ เริ่มดีขึ้น สถาบันจัดอันดับเครดิตมูส์ดี้ และแอสแอนด์พี ยังคงอันดับเดิม สะท้อนจากการขอรับส่งเสริมการลงทุน เศรษฐกิจไทยในปี 65 จึงมีสัญญาณทางบวกมากขึ้น ทำให้ไทยเปิดประเทศได้มากขึ้นผ่านหลายมาตรการ โดยเฉพาะการมุ่งลงทุนในเขตอีอีซี

ยอมรับรัฐบาลเป็นห่วงอัตราเงินเฟ้อ จากราคาสินค้าแพง ต้นทุนราคาน้ำมันสูง จึงได้เข้าไปคุมเข้มการกักตุนสินค้า ส่วนราคาพลังงานจากปัจจัยภายนอก ยังต้องตรึงราคาน้ำมันไม่ให้กระทบต่อทุกส่วน และใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้าน และหวังว่าปัญหายูเครนไม่บานปลาย จะทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ตามเป้าหมาย เมื่อโครงสร้างพื้นฐาน รถไฟฟ้า 2 เส้นทางทยอยก่อสร้างแล้วเสร็จ การผลักดันการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า การสร้างสถานีชาร์จให้เพิ่มขึ้น มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตยายนต์ และมุ่งส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมกลุ่มเป้าหมาย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัล


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เศรษฐกิจปี 64 ฟื้นตัวขยายตัวร้อยละ 1.6 จากมาตรการคลายล็อคหลายด้าน นับเป็นสัญญาที่ดี การส่งออกขยายตัวดีขึ้น ดังนั้นในปี 65 ทุกภาคส่วนมองสอดคล้องกันว่าเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว ต้องผลักดันอุตสาหกรรมเป้าหมาย 12 สาขาในเขตอีอีซีเพิ่มมูลค่าการผลิต สนามบินอูตะเภา ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ เพื่อให้จีดีพีโตร้อยละ 4 โดยผลักดันเทคโนโลยี หุ่นยนต์ในภาคอุตสาหกรรม รวมถึงผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัล ให้นำไปใช้ในทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน การโอนเงิน ธุรกรรมทางการเงิน ผลักดันการใช้ระบบ 5 จี การทำตามต้องตกลงลด CO2 ด้วยการผลักดันการใช้รถยนต์ไฟฟ้า ด้วยการลดภาษีสรรพสามิต ลดอาการศุลกากร การให้เงินอุดหนุนซื้อรถยนต์ไฟฟ้า มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า

การพัฒนาพลังงานหมุนเวียน การดูแลสุขภาพผ่านสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับโลก จึงเป็นจุดหมายของต่างชาติเข้ามารักษาในไทย จึงเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยว และอสังหาริมทรัพย์ทำให้ต่างชาติเข้ามามากขึ้น ส่วนภาคการเงิน ตลาดทุน สินทรัพย์ดิจิทัล หวังให้เป็นแหล่งระดมทุนอีกทางหนึ่ง โดยสถาบันการเงินต้องปรับตัวรองรับโลกยุคใหม่ ในการระดมทุนด้วยประชาชนด้วยกันเอง โดยไม่ผ่านตัวกลาง ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ หาทุนผ่านกองทุนร่วมลงทุน คลังพร้อมให้สิทธิ์ประโยชน์ภาษี เพื่อส่งเสริมการลงทุนในสตาร์ทอัพ ที่สำคัญ ต้องส่งเสริมความยั่งยืนทางการเงิน การคลัง เมื่อเฟดต้องปรับเพิ่มดอกเบี้ยอาจกระทบต่อไทย การบริหารหนี้สาธารณะต้องดูแลไม่ให้ถึงเพดานร้อยละ 70 สอดรับกับการหารายได้จากเก็บภาษี นำมาฟื้นเศรษฐกิจไทย

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดยุทศาสตร์ให้เศรษฐกิจยุคใหม่ มีสัดส่วนร้อยละ 30 ของระบบเศรษฐกิจ นับว่าสังคมไทย ใช้มือถือ 90 ล้านเครื่อง คนไทยใช้อินเตอร์เน็ตมากกว่าร้อยละ 70 เมื่อเทียบกับหลายประเทศ คนไทยใช้ระบบแบงก์กิ้งผ่านออนไลน์ อันดับ 1 ของโลก ใช้เล่นเกมส์อันดับ 2 ของโลก ซื้อสินค้าออนไลน์อันดับ 2 ของโลก ใช้อินเตอร์เน็ตนาน 8.44 ชั่วโมง อันดับ 9 ของโลก ยอมรับว่าทำให้มีปัญหาโจรกรรมไซเบอร์ การหลอกลวง สูงขึ้นตามไปด้วย ขณะนี้มีเรื่องร้องเรียน 7,951 เรื่อง สร้างความเสียหายกว่า 500 ล้านบาท โดยเฉพาะปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หากเดือดร้อนแจ้งสายด่วน 1212


นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการสำนักงานอีอีซี กล่าวว่า เศรษฐกิจไทย ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว เมื่อ GDP ขยายตัวร้อยละ 1.6 ในปี 64 คาดว่าในปี 65 ขยายตัวร้อยละ 4 เพราะโควิด-19 โอมิครอนไม่รุนแรงมากนัก คาดว่าจะใช้เวลา 12-15 เดือนในการฟื้นเศรษฐกิจไทย จากนี้ไปจึงต้องเตรียมตัวแผนลงทุนทุกด้าน เพราะคาดว่าการท่องเที่ยว ที่เคยทำรายได้เข้าประเทศ ต้องใช้เวลา 20 เดือน คาดว่าปี 65 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ 6 ล้านคน ปี 66 จำนวน 20 ล้านคน

เมื่อเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวแบบตัว K ซึ่งมีทั้งกลุ่มฟื้นตัว เช่น ภาคส่งออก ท่องเที่ยว บริการออนไลน์ แต่ยังมีกลุ่มรายย่อย ลูกจ้าง อาชีพอิสระ ยังรู้สึกว่ารายได้ยังไม่เพิ่ม นับเป็นกลุ่มที่รัฐบาลต้องเข้าไปช่วยเหลือ เพื่อให้มีรายได้เพิ่มและฟื้นตัว ขณะที่สำนักงานอีอีซี มุ่งส่งเสริมด้านเกษตร สมุนไพร การท่องเที่ยวชุมชนในเขตอีอีซี จากตัวอย่างของจีน รายได้มากกว่าร้อยละ 50 ของประเทศมาจากเขตเศรษฐกิจพิเศษ ไทยจึงต้องมุ่งสร้างเขตเศรษฐกิจอีอีซีให้มีแรงขับเคลื่อนมากขึ้น โดยมุ่งผลักดันการใช้ระบบ 5 จี ทั้งโรงงานนับหมื่นราย โรงแรม 300 แห่ง และให้กระจายลงสู่ชุมชน

เมื่อรัฐบาลเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งท่าเรือน้ำลึก สนามบินอู่ตะเภา รถไฟฟ้า ด้วยการลงทุน 3-4 ล้านล้านบาท มีแรงงานคุณภาพเข้าไปทำงานในเขตอีอีซี 1 ล้านคน เพื่อลดความแออัดของจังหวัดอื่นๆ เมื่อสมบูรณ์แบบจะทำให้จีดีพีขยายตัวร้อยละ 5 ในช่วง 7 ปี นำไปสู่ไทยกลายเป็นประเทศพัฒนาแล้ว

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า หลายองค์กรด้านเศรษฐกิจคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกในปี 65 ขยายตัวร้อยละ 4-5 ในส่วนของ กกร.คาดการณ์ว่าจีดีพีไทยขยายตัวร้อยละ 3-4.5 แม้การท่องเที่ยว และสาขาอื่นเริ่มฟื้นตัวบ้างแล้ว แต่กำลังซื้อภาคครัวเรือนยังมีปัญหา เพราะมีสัดส่วนร้อยละ 46.3 ในปี 62 เพิ่มเป็นร้อยละ 52.7 ในปี 64 หนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนเพิ่ม 1.5 เท่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และยังต้องส่งเสริมให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งทุน โดยต้องหาหลักประกันหรือแหล่งทุนรูปแบบอื่น เช่น การ ใช้ระบบ Credit scoring card มาให้บริการเติมสภาพคล่องให้กับเอสเอ็มอี

การออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ การพัฒนาตอบโจทย์โลกแห่งอนาคต ปัจจุบันยังขาดแรงงานด้านเทคโนโลยี สถาการศึกษาต้องเร่งผลิตบุคคลากรออกมารองรับความต้องการตลาดแรงงานให้ทัน เพราะตลาดต้องการแรงงานยุคใหม่ เช่น นักพัฒนาเกมส์ แอนนิเมชั่น นักวิเคราะห์ข้อมูล นักวิทยาศาสตร์ 87,000 ราย แต่ไทยผลิตได้เพียง 30,000 ราย เมื่อไทยฟื้นตัวจากโควิด-19 โรดแมพในช่วง 3 ปี ข้างหน้า สมาคมธนาคารไทย พร้อมประสานร่วมกับหลายหน่วยงานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดรายชื่อทหาร 3 นาย บาดเจ็บ เหยียบกับระเบิด

สุรินทร์ 27 ส.ค.-เปิดรายชื่อทหาร 3 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บ เหยียบกับระเบิด บริเวณเนิน 350 ใกล้ปราสาทตาควาย ขณะออกลาดตระเวน เมื่อวันที่ 27 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการที่ หน่วยทหารจาก พัน.ร.22 ได้จัดกำลังพลออกลาดตระเวนระหว่างฐานปฏิบัติการ บริเวณหน้าบังเกอร์ 11-12 ด้านทิศตะวันตกของปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้เหยียบกับระเบิดแสวงเครื่องชนิด PMN-2 ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1.พลทหาร อดิสร ป้อมกลาง สังกัดสนาม มว.3 ร้อย.ร.221 บาดเจ็บข้อเท้าขวาขาด ขณะนี้อยู่ระหว่างลำเลียงทางอากาศจาก รพ.พนมดงรัก ไปยัง รพ.สุรินทร์ พร้อมชุด Sky Doctor2.จ.ส.อ. ณัฐพงศ์ สีชิน สังกัดสนาม มว.3 ร้อย.ร.221 ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่แผ่นหลัง อาการบาดเจ็บเล็กน้อย ส่งกลับเข้ารับการรักษาที่ รพ.พนมดงรัก3.พลทหาร ธรรณ์ณธร เทากระโทก สังกัดสนาม มว.3 […]

มทภ.2 ประณามกัมพูชา หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิด

กทม. 27 ส.ค.- มทภ.2 ประณามกัมพูชา ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง-อนุสัญญาออตตาวาไม่หยุด หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิดข้อเท้าขาด 1 นาย ชี้ทุ่นระเบิดมีโครงสร้างพลาสติก เครื่องตรวจหาไม่เจอ เมื่อวันที่ 26 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวประณามกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและอนุสัญญาออตตาวา ต่อเนื่อง หลังวันนี้ เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว พล.ท.บุญสิน ระบุว่า เนิน 350 ปราสาทตาควาย เป็นพื้นที่ที่ทหารกัมพูชาวางกำลังหนาแน่น และมีทุ่นระเบิดรอบพื้นที่ โดยวันนี้ทหารไทยออกลาดตระเวน ซึ่งเครื่องตรวจวัตถุระเบิดตรวจหาไม่เจอ เนื่องจากทุ่นระเบิดดังกล่าวโครงสร้างเป็นพลาสติก คาดเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่ เบื้องต้นได้ทำหนังสือประท้วงไปทางฝ่ายกัมพูชาแล้ว และเตรียมกำหนดแผนทางการทหารต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

“อดีต ผอ.ขนมจีนน้ำปลา” นอนคุก 20 ปี 60 เดือน หลังศาลฎีกายกคำร้องลดโทษ

สุราษฎร์ธานี 27 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้องลดโทษ ปิดคดีอดีต ผอ.โรงเรียนบ้านท่าใหม่ จ.สุราษฎร์ธานี ปมให้เด็กอนุบาลกินขนมจีนราดน้ำปลา หลังสู้นาน 5 ปี สุดท้ายรับโทษจำคุก 20 ปี 60 เดือน นายสุชาติ กรวยกิตานนท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 8 เป็นประธานแถลงผลคดีที่กล่าวหาอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าใหม่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ทุจริตเงินอุดหนุนค่าอาหารกลางวันนักเรียนของโรงเรียนบ้านท่าใหม่ ให้เด็กอนุบาลกินขนมจีนราดน้ำปลา และจัดทำเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการจัดซื้อวัสดุเครื่องบริโภคเพื่อประกอบอาหารกลางวันเป็นเท็จ ซึ่งถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2563 และได้ส่งไปให้อัยการสูงสุด ฟ้องผู้ถูกกล่าวหาต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 และมีคำพิพากษาให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิด รวม 77 กระทง จำคุก 192 ปี 6 เดือน เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว คงจำคุก 50 ปี ซึ่งอดีต ผอ.คนดังกล่าว ได้ยื่นอุทรณ์ขอลดโทษ ภายหลังศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาแก้เป็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน […]

ยังไม่พบผู้เสียหายและทำผิดกฎหมาย จากกรณีสแกนม่านตาแลกรับเงิน

ทำเนียบ 27 ส.ค.-รองโฆษกรัฐบาล เผยตรวจสอบล่าสุดยังไม่พบผู้เสียหายและทำผิดกฎหมาย จากกรณีสแกนม่านตาแลกรับเงิน เตือนประชาชนอย่าประมาท นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่ได้ระบุถึงจากข้อมูลของสภาองค์กรของผู้บริโภคที่มีการรายงานว่าพบการชักชวนให้ประชาชนสแกนม่านตาแลกรับเงิน 500-1,000 บาท ในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศไทย โดยอ้างถึงว่าจะไปแลกเหรียญคริปโต ซึ่งผู้ที่สแกนม่านตาจะได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินรายละ 1,000 บาท ภายใน 24 ชั่วโมง ขณะที่ผู้แนะนำสมาชิกจะได้รับเงิน 500 บาทต่อราย สูงสุดไม่เกิน 10 ราย ล่าสุดมีความคืบหน้าว่า สำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPC) ตรวจสอบของตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า การดำเนินงานของผู้ให้บริการในปัจจุบันถูกต้องตามกฎหมาย และคล้ายกับการดำเนินการในหลายประเทศ ในปัจจุบัน และได้มีการเตรียมประสานกระทรวงดีอีและหน่วยงานอื่นหามาตราการควบคุมข้อมูลอ่อนไหว และยังไม่พบผู้เสียหายหรือกระทำผิดกฎหมาย ทั้งนี้หากพบการละเมิดหรือนำข้อมูลไปใช้ในทางมิชอบ จะดำเนินคดีทันที นายอนุกูล กล่าวว่า เพื่อสร้างความตระหนักรู้เท่าทันต่อความสำคัญของความปลอดภัยที่เหมาะสม รัฐบาลขอย้ำว่า ข้อมูลส่วนบุคคลทางชีวภาพ ถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคลขั้นสูงสุด การยินยอมให้เก็บ หรือสแกนจึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงความเสี่ยง ดังนี้ 1. การรั่วไหลของข้อมูล หากข้อมูลรหัส Iris Code […]

ข่าวแนะนำ

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]

พลทหารเหยียบกับระเบิดพื้นที่ปราสาทตาควาย

สุรินทร์ 27 ส.ค.-พลทหารเหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ขาขวาท่อนล่างขาด เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว รายละเอียดอื่นๆ จะรายงานให้ทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย