ก.พลังงาน ขอให้ประชาชน”วางใจ”เล็งหาเงินกู้อุดหนุนค่าพลังงาน

กรุงเทพฯ 7 ก.พ.- ก.พลังงาน ขอให้ประชาชน “วางใจ” เตรียมหลายมาตรการอุดหนุนเฉพาะกลุ่ม เล็งหาเงินกู้อุดหนุนเพิ่ม ส่วนลดภาษีโยน “คลัง” พิจารณา วอนรถบรรทุกเข้าใจสถานการณ์ ส่วนราคาแอลพีจีอาจขยับ 1 บาท/กก. หลังสิ้น มี.ค. และจะเพิ่มเงินช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจาก 45 บาทเป็น 100 บาท ด้านก๊าซธรรมชาติฯ ขอให้มั่นใจ “มั่นคง” แต่ค่าไฟฟ้าอาจแพงกว่าเดิมที่ประเมินจะขึ้น 16 สต./หน่วย ทุก 4 เดือน สั่ง ปตท.เร่งแผนเปิดใช้คลังแอลเอ็นจี “หนองแฟบ”


นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพลังงาน แถลงสถานการณ์ราคาพลังงานที่ขยับสูงขึ้นทั้งหมดตามตลาดโลกทั้ง น้ำมัน-ก๊าซหุงต้ม-ก๊าซแอลเอ็นจี-ถ่านหิน ในขณะที่ สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย จะมีการชุมนุม 8 ก.พ.เรียกร้องให้ดูแลราคาและกดดันปรับเปลี่ยน รมว.พลังงาน ท่ามกลางปัญหาก๊าซฯลดลงเกินคาดการณ์จากปัญหาช่วงเปลี่ยนผ่านสัมปทานแหล่งเอราวัณที่ทำให้ก๊าซฯหายไปจากแผนงานเดิม 500  ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และเกิดปัญหาล่าสุดที่ สหภาพยุโรป-สหรัฐประกาศจะคว่ำบาตรเมียนมาร์ ซึ่งล่าสุดโททาล ประกาศถอนตัวจากโครงการยาดานา ที่เป็นแหล่งก๊าซที่ส่งมากให้ไทยราว 600-650 ล้านลูกบาศ์กฟุตต่อวัน 

นายกุลิศ กล่าวว่า ขอให้กลุ่มรถบรรทุก -แท็กซี่เอ็นจีวี เข้าใจสถานการณ์ราคาน้ำมันแพงเกินคาดการณ์ ที่ราคาน้ำมันดิบขณะนี้อยู่เลย 90 เหรียญต่อบาร์เรล ก.พลังงานบริหารงานเข้าช่วยเหลือโดย อุดหนุนราคาดีเซลไม่เกิน 30  บาทต่อลิตร ด้วยเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุน 3.79 บาท/ลิตร ซึ่งหากปล่อยราคาตามกลไกตลาดก็จะสูงกว่า 34 บาท/ลิตร ในขณะเดียวกัน กระทรวงพลังงานตามติดสถานกาณ์ราคาทุกด้าน และเตรียมแผนงานช่วยเหลือ ขอให้ประชาชนวางใจ มาตรการเหล่านี้ จะยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ โดย รมว.พลังงานจะเปิดเผยประมาณกลางเดือนหรือปลายเดือน กุมภาพันธ์ นโยบายหลัก คือ จะเน้นช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนเป็นรายกลุ่มไป ซึ่งจะต้องใช้เงินช่วยเหลือเพิ่มมากขึ้น มากกว่าที่ประมาณการณ์ไว้ว่า กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะต้องกู้มาดูแลราคาพลังงานที่ 3 หมื่นล้านบาท โดยที่มาของเงินกำลังหารือกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณว่าจะนำเงินส่วนใดมาดูแล เช่น อาจจะมาจากงบกลางของรัฐบาล  ที่เป็นรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เป็นต้น


นอกจากต้องหาเงินกู้แล้ว ในส่วนของราคาก๊าซหุงต้ม ที่ตรึงราคา 318 บาท/ถัง/ 15 กก. มา 2 ปี จนถึงสิ้นเดือนมีนาคม ก็อาจจำเป็นต้องขยับราคาขึ้น ตามแผนคือ ขึ้น 1 บาท/กก. ทุกไตรมาส หรือปรับขึ้นเป็น 333 บาท/ถังขนาด 15 กก. แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ราคาในช่วงนั้น และปัญหาค่าครองชีพของประชาชนว่าจะเอื้ออำนวยในการขึ้นราคาหรือไม่ และหากช่วยเหลือเป็นรายกลุ่ม ก็อาจจะเพิ่มเงินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเป็น 100 บาท/คน/3 เดือน จากเงินช่วยเหลือปัจจุบันอยู่ที่ 45 บาท โดยในส่วนของเงินเพิ่ม 55 บาทนี้ ทางกระทรวงพลังงานก็จะพยายามหาเงินช่วยเหลืออยู่

ส่วนราคาเอ็นจีวีขณะนี้  บมจ.ปตท.ช่วยตรึงราคาราว 3 บาท/กก.ตรึงราคาที่ 15.59 บาท/กก.จนถึงกลางเดือน มี.ค. ซึ่งกรณีกลุ่มแท็กซี่เรียกร้องขอราคา 10.50 บาท/กก. ทางกระทรวงพลังงาน กำลังพิจารณาช่วยเฉพาะกลุ่มและให้ประชาชนได้รับประโยชน์ โดยจะดูเรื่องการช่วยรถสาธารณะเป็นหลัก ซึ่ง ปตท.มีโครงการลมหายใจเดียวกันช่วยเหลือแท็กซี่ก็กำลังดูเพิ่มเติมว่าจะช่วยอย่างไร โดย ปตท.ช่วยตรึงราคาตั้งแต่ พ.ย. 64- กลางเดือน มี.ค..65 เป็นเงินราวเกือบ 1.5พันล้านบาท

ทั้งนี้ กลุ่ม ปตท.โดย PRISM ประเมินราคาน้ำมันดิบดูไบ เฉลี่ยปีนี้ปรับขึ้นเป็น 78-80 เหรียญ/บาร์เรล และประเมินราคาช่วง ก.พ.-เม.ย. อยู่ที่ประมาณ 88-93 เหรียญต่อบาร์เรล ในขณะที่ราคาพลังงานอื่นๆก็ขยับขึ้นเกินคาด เป็นผลจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวจากโควิด-19 ,ปัญหาขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ปัญหารัสเซีย-ยูเครน,ค่าเงินบาทอ่อนค่า โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 30 ม.ค.64 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ติดลบกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท โดยอุดหนุนก๊าซหุงต้มไปแล้ว 24,669 ล้านบาท และประเมินว่า หากยังอุดหนุนดีเซลและแอลพีจีในราคาเช่นนี้ต่อไป เงินกองทุนฯจะไหลออกราว กว่า 8 พันล้านบาท/เดือน กรอบเงินกู้กองทุนฯ ที่ 3 หมื่นล้านบาทก็จะไม่เพียงพอ


“กรณีจะลดภาษีน้ำมัน เช่น ดีเซล 2 บาท/ลิตรหรือไม่ เป็นอำนาจดูแลของก.คลัง แต่หากน้ำมันเกิน 100 เหรียญ ทางคลังก็คงจะหารือว่าจำเป็นจะลดหรือไม่ ในขณะที่ แอลพีจี หากช่วยเหลือเป็นรายกลุ่ม และเพื่อลดภาระของชาวบ้านก็อาจจะเพิ่มเงินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเป็น 100 บาท/คน/3 เดือน จากปัจจุบันอยู่ที่ 45 บาท แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นกับว่าเงิน จะมาจากส่วนใด เช่น งบกลาง เป็นต้น ” ปลัดกระทรวงพลังงานกล่าว

ด้านค่าไฟฟ้า  นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ยอมรับว่าต้นทุนแอลเอ็นจี และปัญหาก๊าซขาดแคลนก็กระทบต่อต้นทุนค่าไฟฟ้าให้สูงขึ้นจากคาดการณ์ เดิมจะขึ้นอีก 16 สตางค์/หน่วย ทุกงวด ในปี 65 (ทุกปีจะมีการปรับทุก 4 เดือน )ซึ่งพยายามบริหารต้นทุนให้ต่ำที่สุด และจะเร่งให้ ปตท.ใช้คลังนำเข้าแอลเอ็นจีแห่งที่ 2 “หนองแฟบ”ให้เร็วขึ้นจากปลายปี65 ที่7.5 ล้านตันต่อปี เป็นกลางปีนี้ ที่ประมาณ 2.5 ล้านตันต่อปี

นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า ในส่วนของก๊าซเอราวัณที่ลดลงกว่าคาดการณ์ 500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน คาดว่าจะต้องนำเข้าแอลเอ็นจีมาทดแทน 1.8 ล้านตัน ส่วนปัญหายาดานา ในขณะนี้กำลังวางแผนไม่ให้ไทยได้รับผลกระทบ เช่น ขอความร่วมมืผู้ผลิตแหล่งในประเทศยืดระยะเวลาซ่อมบำรุงออกไป และขอให้ผลิตก๊าซเพิ่ม เช่น แหล่งอาทิตย์ แหล่งบี8/32 รวมทั้งแหล่งเจดีเอ 

นายกุลิศ กล่าวว่า ในส่วนของบมจ. ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ. ) จะเข้าไปถือหุ้นแห่งยาดานาทดแทน โททาล หรือไม่นั้น เรื่องนี้ คงจะต้องพิจารณาอย่างรอบครอบ และเป็นเรื่องระหว่างประเทศ ซึ่งจะต้องหารือกับทางกระทรวงการต่างประเทศด้วย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

บุรีรัมย์สั่งอพยพชาวบ้านเพิ่ม 3 อำเภอ

บุรีรัมย์ 27 ก.ค.-บุรีรัมย์ ประกาศให้ชาวบ้านอพยพเพิ่มอีก 3 อำเภอ หลังพื้นที่ปะทะและรัศมีอาวุธขยายไปไกลขึ้น ทั้งวัด โรงเรียน ศูนย์พักพิงชั่วคราว และ รพ.อีก 2 แห่ง ต้องอพยพผู้ป่วยด่วน เหลือเพียงหน่วยรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ช่วงเวลาบ่าย 2-3 โมง เมื่อวานนี้ ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีเสียงปืน เสียงระเบิดดังเป็นระยะ และมีกระสุนปืนใหญ่ ตกในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จึงประกาศให้ชาวบ้านในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.ละหานทราย อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.โนนดินแดง อพยพไปอยู่ตามบ้านญาติ หรือศูนย์พักพิงที่ห่างไกลจากรัศมีวิถีกระสุนปืนใหญ่ และอาวุธหนัก บางครัวเรือนก็มีลูกหลานมารับออกไปแล้ว ส่วนชาวบ้านที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ทางเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ก็ได้จัดรถไปช่วยอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ด้วย ด้าน โรงพยาบาลในพื้นที่ 2 แห่ง คือ รพ.ละหานทราย และ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ก็มีการอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลเช่นกัน รวมถึงให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกจากพื้นที่ เหลือไว้แค่หน่วยที่จะรับผู้ป่วยฉุกเฉิน […]

Trump says he is seeking a ceasefire between Thailand, Cambodia

“ทรัมป์” โยงเรื่องการค้ากับหยุดยิงไทย-กัมพูชา

เอดินบะระ 27 ก.ค.-  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ พูดคุยกับผู้นำของทางการไทยและกัมพูชา โดยโยงเรื่องการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐกับเรื่องหยุดยิงของทั้ง 2 ประเทศ ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ในระหว่างการเยือนสกอตแลนด์เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ไทยและกัมพูชา 3 โพสต์ติดต่อกัน โพสต์แรกระบุว่า ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี มาเนตกัมพูชาและนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษานายกรัฐมนตรีของไทย เรื่องการหยุดยิงและยุติสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ สหรัฐซึ่งกำลังหารือทางการค้ากับทั้ง 2 ประเทศอยู่ในขณะนี้ไม่ต้องการทำข้อตกลงกับประเทศใดประเทศหนึ่งหากยังมีการสู้รบกันอยู่ กัมพูชาจะแสดงท่าทีเรื่องหยุดยิงหลังจากที่เขาได้คำตอบจากไทยในเรื่องนี้ นายทรัมป์ระบุด้วยว่า สถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาทำให้เขานึกถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างปากีสถานกับอินเดียที่ได้รับการยับยั้งเป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมง ประธานาธิบดีทรัมได้โพสต์ข้อความใหม่ว่า ได้สนทนากับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ฝ่ายไทยต้องการหยุดยิงและสันติภาพเช่นเดียวกับกัมพูชา และหลังจากนั้นไม่นานผู้นำสหรัฐโพสต์ข้อความที่ 3 ว่า เพิ่งเสร็จสิ้นการสนทนากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและแจ้งเรื่องที่ได้หารือกับทางการไทย ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการหยุดยิงและสันติภาพ และต้องการกลับมาเจรจาทางการค้ากับสหรัฐ โดยตกลงจะพบหารือและหาทางหยุดยิงโดยทันที ด้านนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย เปิดเผยกับสื่อที่เมืองปุตราจายาเมื่อวานนี้ว่า จะเดินหน้าผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งยังคงมีการยิงปะทะกันอยู่ เขาได้ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียประสานงานกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชา และหากเป็นไปได้ เขาจะเข้าไปประสานงานด้วยตัวเองเพื่อหยุดยั้งการสู้รบ รอยเตอร์รายงานว่า กัมพูชาสนับสนุนข้อเสนอของนายอันวาร์ ส่วนไทยระบุว่า เห็นชอบในหลักการ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ “กัมพูชา” เปิดฉากยิงทหารไทยแต่เช้าตรู่

กทม. 27 ก.ค.-โฆษก ทบ.ลั่น หยุดยิงไม่ได้ กัมพูชาโจมตีทหารไทยแต่เช้าตรู่ หลัง “ทรัมป์” ขอให้หยุดยิง พบบ้านเรือนประชาชนเสียหายจากจรวดBM-21 เมื่อวันที่ 27 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณี โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หารือ นายกฯ กัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกฯ หากไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาเรื่องภาษีสหรัฐนั้น ว่า กัมพูชายังไม่หยุดยิง และยังตอบโต้มาอยู่ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันนี้ มีจรวดตกนอกเขตปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ เมื่อเวลา 04.30 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทย ด้วยเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 แต่ด้วยเป้าหมายของทางกัมพูชาไม่ใช่พื้นที่ทางทหาร แต่เป็นบ้านเรือนประชาชน รวมถึงสถานพยาบาล และชุมชน โดยเมื่อ เวลา 06.30 น. กระสุนปืนใหญ่ (ไม่ทราบชนิด) ตกบริเวณพื้นที่ บ้านตาโสร์ ม.10 ต.บ้านพลวง อ.ปราสาท จ.สรินทร์ […]

“ภูมิธรรม” เผยเห็นชอบข้อเสนอ “ทรัมป์” แต่กัมพูชาต้องจริงใจหยุดยิง

กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผยคุย “ทรัมป์” เห็นชอบข้อเสนอหยุดยิง แต่ต้องการเห็นความตั้งใจจริงของกัมพูชาและเร่งหารือทวิภาคี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านfacebook Phumtham Wechayachai เมื่อคืนวานนี้ (27 ก.ค.) ว่า ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที เพื่อยุติความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นบริเวณชายแดน ฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีจากสหรัฐฯ พร้อมยืนยันว่า “ในหลักการ ฝ่ายไทยเห็นชอบต่อการหยุดยิง” อย่างไรก็ดี ไทยยังต้องการเห็น “ความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องดังกล่าว” ไทยจึงได้ขอให้สหรัฐฯ ช่วยถ่ายทอดจุดยืนนี้ไปยังกัมพูชา โดยเสนอให้มีการหารือแบบทวิภาคีโดยเร็วที่สุด และให้กัมพูชาแสดงความจริงจังและจริงใจ เพื่อกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนในการหยุดยิง ซึ่งจะนำไปสู่การยุติข้อพิพาทอย่างสันติและยั่งยืนในระยะยาว การเจรจาดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางความพยายามของนานาชาติในการไกล่เกลี่ยความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา สำหรับข้อความที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Phumtham Wechayachai ระบุว่า “เมื่อครู่ที่ผ่านมา ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เสนอให้ประเทศไทยและกัมพูชาดำเนินการหยุดยิงโดยทันที ผมได้กล่าวขอบคุณต่อความห่วงใยและความปรารถนาดีของฝ่ายสหรัฐฯ และยืนยันว่า […]