กรุงเทพฯ 7 ก.พ.- ก.พลังงาน ขอให้ประชาชน “วางใจ” เตรียมหลายมาตรการอุดหนุนเฉพาะกลุ่ม เล็งหาเงินกู้อุดหนุนเพิ่ม ส่วนลดภาษีโยน “คลัง” พิจารณา วอนรถบรรทุกเข้าใจสถานการณ์ ส่วนราคาแอลพีจีอาจขยับ 1 บาท/กก. หลังสิ้น มี.ค. และจะเพิ่มเงินช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจาก 45 บาทเป็น 100 บาท ด้านก๊าซธรรมชาติฯ ขอให้มั่นใจ “มั่นคง” แต่ค่าไฟฟ้าอาจแพงกว่าเดิมที่ประเมินจะขึ้น 16 สต./หน่วย ทุก 4 เดือน สั่ง ปตท.เร่งแผนเปิดใช้คลังแอลเอ็นจี “หนองแฟบ”
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพลังงาน แถลงสถานการณ์ราคาพลังงานที่ขยับสูงขึ้นทั้งหมดตามตลาดโลกทั้ง น้ำมัน-ก๊าซหุงต้ม-ก๊าซแอลเอ็นจี-ถ่านหิน ในขณะที่ สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย จะมีการชุมนุม 8 ก.พ.เรียกร้องให้ดูแลราคาและกดดันปรับเปลี่ยน รมว.พลังงาน ท่ามกลางปัญหาก๊าซฯลดลงเกินคาดการณ์จากปัญหาช่วงเปลี่ยนผ่านสัมปทานแหล่งเอราวัณที่ทำให้ก๊าซฯหายไปจากแผนงานเดิม 500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และเกิดปัญหาล่าสุดที่ สหภาพยุโรป-สหรัฐประกาศจะคว่ำบาตรเมียนมาร์ ซึ่งล่าสุดโททาล ประกาศถอนตัวจากโครงการยาดานา ที่เป็นแหล่งก๊าซที่ส่งมากให้ไทยราว 600-650 ล้านลูกบาศ์กฟุตต่อวัน
นายกุลิศ กล่าวว่า ขอให้กลุ่มรถบรรทุก -แท็กซี่เอ็นจีวี เข้าใจสถานการณ์ราคาน้ำมันแพงเกินคาดการณ์ ที่ราคาน้ำมันดิบขณะนี้อยู่เลย 90 เหรียญต่อบาร์เรล ก.พลังงานบริหารงานเข้าช่วยเหลือโดย อุดหนุนราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ด้วยเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุน 3.79 บาท/ลิตร ซึ่งหากปล่อยราคาตามกลไกตลาดก็จะสูงกว่า 34 บาท/ลิตร ในขณะเดียวกัน กระทรวงพลังงานตามติดสถานกาณ์ราคาทุกด้าน และเตรียมแผนงานช่วยเหลือ ขอให้ประชาชนวางใจ มาตรการเหล่านี้ จะยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ โดย รมว.พลังงานจะเปิดเผยประมาณกลางเดือนหรือปลายเดือน กุมภาพันธ์ นโยบายหลัก คือ จะเน้นช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนเป็นรายกลุ่มไป ซึ่งจะต้องใช้เงินช่วยเหลือเพิ่มมากขึ้น มากกว่าที่ประมาณการณ์ไว้ว่า กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะต้องกู้มาดูแลราคาพลังงานที่ 3 หมื่นล้านบาท โดยที่มาของเงินกำลังหารือกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณว่าจะนำเงินส่วนใดมาดูแล เช่น อาจจะมาจากงบกลางของรัฐบาล ที่เป็นรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เป็นต้น
นอกจากต้องหาเงินกู้แล้ว ในส่วนของราคาก๊าซหุงต้ม ที่ตรึงราคา 318 บาท/ถัง/ 15 กก. มา 2 ปี จนถึงสิ้นเดือนมีนาคม ก็อาจจำเป็นต้องขยับราคาขึ้น ตามแผนคือ ขึ้น 1 บาท/กก. ทุกไตรมาส หรือปรับขึ้นเป็น 333 บาท/ถังขนาด 15 กก. แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ราคาในช่วงนั้น และปัญหาค่าครองชีพของประชาชนว่าจะเอื้ออำนวยในการขึ้นราคาหรือไม่ และหากช่วยเหลือเป็นรายกลุ่ม ก็อาจจะเพิ่มเงินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเป็น 100 บาท/คน/3 เดือน จากเงินช่วยเหลือปัจจุบันอยู่ที่ 45 บาท โดยในส่วนของเงินเพิ่ม 55 บาทนี้ ทางกระทรวงพลังงานก็จะพยายามหาเงินช่วยเหลืออยู่
ส่วนราคาเอ็นจีวีขณะนี้ บมจ.ปตท.ช่วยตรึงราคาราว 3 บาท/กก.ตรึงราคาที่ 15.59 บาท/กก.จนถึงกลางเดือน มี.ค. ซึ่งกรณีกลุ่มแท็กซี่เรียกร้องขอราคา 10.50 บาท/กก. ทางกระทรวงพลังงาน กำลังพิจารณาช่วยเฉพาะกลุ่มและให้ประชาชนได้รับประโยชน์ โดยจะดูเรื่องการช่วยรถสาธารณะเป็นหลัก ซึ่ง ปตท.มีโครงการลมหายใจเดียวกันช่วยเหลือแท็กซี่ก็กำลังดูเพิ่มเติมว่าจะช่วยอย่างไร โดย ปตท.ช่วยตรึงราคาตั้งแต่ พ.ย. 64- กลางเดือน มี.ค..65 เป็นเงินราวเกือบ 1.5พันล้านบาท
ทั้งนี้ กลุ่ม ปตท.โดย PRISM ประเมินราคาน้ำมันดิบดูไบ เฉลี่ยปีนี้ปรับขึ้นเป็น 78-80 เหรียญ/บาร์เรล และประเมินราคาช่วง ก.พ.-เม.ย. อยู่ที่ประมาณ 88-93 เหรียญต่อบาร์เรล ในขณะที่ราคาพลังงานอื่นๆก็ขยับขึ้นเกินคาด เป็นผลจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวจากโควิด-19 ,ปัญหาขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ปัญหารัสเซีย-ยูเครน,ค่าเงินบาทอ่อนค่า โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 30 ม.ค.64 กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ติดลบกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท โดยอุดหนุนก๊าซหุงต้มไปแล้ว 24,669 ล้านบาท และประเมินว่า หากยังอุดหนุนดีเซลและแอลพีจีในราคาเช่นนี้ต่อไป เงินกองทุนฯจะไหลออกราว กว่า 8 พันล้านบาท/เดือน กรอบเงินกู้กองทุนฯ ที่ 3 หมื่นล้านบาทก็จะไม่เพียงพอ
“กรณีจะลดภาษีน้ำมัน เช่น ดีเซล 2 บาท/ลิตรหรือไม่ เป็นอำนาจดูแลของก.คลัง แต่หากน้ำมันเกิน 100 เหรียญ ทางคลังก็คงจะหารือว่าจำเป็นจะลดหรือไม่ ในขณะที่ แอลพีจี หากช่วยเหลือเป็นรายกลุ่ม และเพื่อลดภาระของชาวบ้านก็อาจจะเพิ่มเงินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเป็น 100 บาท/คน/3 เดือน จากปัจจุบันอยู่ที่ 45 บาท แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นกับว่าเงิน จะมาจากส่วนใด เช่น งบกลาง เป็นต้น ” ปลัดกระทรวงพลังงานกล่าว
ด้านค่าไฟฟ้า นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ยอมรับว่าต้นทุนแอลเอ็นจี และปัญหาก๊าซขาดแคลนก็กระทบต่อต้นทุนค่าไฟฟ้าให้สูงขึ้นจากคาดการณ์ เดิมจะขึ้นอีก 16 สตางค์/หน่วย ทุกงวด ในปี 65 (ทุกปีจะมีการปรับทุก 4 เดือน )ซึ่งพยายามบริหารต้นทุนให้ต่ำที่สุด และจะเร่งให้ ปตท.ใช้คลังนำเข้าแอลเอ็นจีแห่งที่ 2 “หนองแฟบ”ให้เร็วขึ้นจากปลายปี65 ที่7.5 ล้านตันต่อปี เป็นกลางปีนี้ ที่ประมาณ 2.5 ล้านตันต่อปี
นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า ในส่วนของก๊าซเอราวัณที่ลดลงกว่าคาดการณ์ 500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน คาดว่าจะต้องนำเข้าแอลเอ็นจีมาทดแทน 1.8 ล้านตัน ส่วนปัญหายาดานา ในขณะนี้กำลังวางแผนไม่ให้ไทยได้รับผลกระทบ เช่น ขอความร่วมมืผู้ผลิตแหล่งในประเทศยืดระยะเวลาซ่อมบำรุงออกไป และขอให้ผลิตก๊าซเพิ่ม เช่น แหล่งอาทิตย์ แหล่งบี8/32 รวมทั้งแหล่งเจดีเอ
นายกุลิศ กล่าวว่า ในส่วนของบมจ. ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ. ) จะเข้าไปถือหุ้นแห่งยาดานาทดแทน โททาล หรือไม่นั้น เรื่องนี้ คงจะต้องพิจารณาอย่างรอบครอบ และเป็นเรื่องระหว่างประเทศ ซึ่งจะต้องหารือกับทางกระทรวงการต่างประเทศด้วย .-สำนักข่าวไทย