นนทบุรี 31 ม.ค.- รัฐมนตรีพาณิชย์จัดทีมโปรโมท 7 แผนในปี 65 ขยายตลาดฮาลาล หลังผู้นำ 2 ประเทศประกาศฟื้นความสัมพันธ์
นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุขที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า หลังจากการเยือนของนายกรัฐมนตรีไทย ระหว่างวันที่ 25-26 มกราคม 2565 ตามคำเชิญของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมารรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบียนั้น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ วิเคราะห์สถานการณ์การค้าของไทยกับซาอุดีอาระเบียทันที และจากข้อวิเคราะห์และรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมือง เจดดาห์ ระบุว่า เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบีย พระองค์เป็นมกุฎราชกุมารและเป็นว่าที่กษัตริย์แห่งซาอุดีอาระเบียองค์ต่อไป ดังนั้น จึงเขื่อว่าการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ทั้ง 2 ประเทศในครั้งนี้จะเป็นผลดีค่อการเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุน การท่องเที่ยวและอื่นๆระหว่างกันได้มากขึ้นอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ การรื้อฟื้นดังกล่าวจะนำไปสู่ความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกันที่จะเกิดความคล่องตัวในหลายด้าน เช่น การผ่อนปรนการเข้าออกประเทศ การผ่อนปรนมาตรการทางการค้า การสั่งซื้อสินค้าจากประเทศไทยเพิ่มขึ้น การร่วมลงทุนและการนำแรงงานฝีมือจากประเทศไทยเข้าไปทำงานในซาอุดีอาระเบีย โดยแผนงานและกิจกรรม ที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างไทยวางแผน ได้แก่ 1.การจัดกิจกรรมสัมมนาให้ความรู้ด้านการตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคเปิดกว้างทางวัฒนธรรมของซาอุภายใต้ยุทธศาสตร์ Saudi Vision 2030
2.การจัดคณะผู้แทนการค้านักธุรกิจทั้งจากไทยไปซาอุฯ และจากซาอุฯ มาเยือนประเทศไทย เพื่อกระชับความสัมพันธ์และสร้างเครือข่ายระหว่างกัน 3.การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าไทยร่วมกับซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำในซาอุฯ เช่น ข้าว อาหารฮาลาลและผลไม้ เป็นต้น เพื่อให้สินค้าได้เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภค มากยิ่งขึ้น 4.การเชิญผู้ประกอบการไทยร่วมงานแสดงสินค้าในซาอุฯ เช่น งานแสดงสินค้าอาหารและสินค้าฮาลาล Saudi Food Expo 5.การประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์สินค้าอาหารสินค้าฮาลาล ผ่านช่องทางออนไลน์ 6.การเชิญผู้นำจากซาอุฯ ร่วมเจรจาการค้าผ่านออนไลน์ Online business Matching 7.การเชิญผู้นำจากประเทศซาอุฯ ร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติของไทย
อย่างไรก็ตาม ได้กำหนดทั้งรูปแบบปกติ หรือรูปแบบไฮบริด และรูปแบบออนไลน์ ซึ่ง 7 แผนงานนี้จะมีขึ้นในปี 2565 ดังนั้น อยากแนะนำให้ติดตามข่าวสารโดยผ่านทุกช่องทางของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งซาอุดีอาระเบียเป็นตลาดการค้าที่มีโอกาสเติบโตสูง เพราะนอกจากประเทศซาอุแล้ว ยังเป็นประตูการค้านำสู่อีกหลายประเทศในภูมิภาคด้วย จึงเป็นโอกาสของประเทศไทยจะร่วมทำดารค้าและการลงทุน การท่องเที่ยวและอื่นๆอีกมากมาย โดยที่เห็นได้ชัด คือ การทำฟาร์มเน้นเลี้ยงกุ้ง ปลา ไก่ การทำธุรกิจโรงพยาบาล โรงแรม ร้านอาหาร กิจการเฟรนด์ไชส์ ขณะเดียวกันนักธุรกิจซาอุดีอาระเบียสนใจลงทุนในประเทศไทยทางด้านกิจการที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหาร พลังงาน และเมืองแร่ เช่นกัน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการค้าระหว่างไทยกับซาอุฯ ในปี 2564 มีมูลค่า 7,301 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 31.8% แยกเป็นการส่งออก 1,638 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยนำเข้ามา 5,662 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญของไทย คือ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ตู้เย็น-ตู้แช่แข็งและส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล เคมีภัณฑ์ เครื่องซักผ้า-เครื่องซักแห้งและส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ ผลไม้กระป๋องและแปรรูป เม็ดพลาสติก ข้าวและผลิตภัณฑ์ พลาสติก อาหารสัตว์เลี้ยง กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ น้ำมันดิบ เคมีภัณฑ์ ปุ๋ย ยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ น้ำมันสำเร็จรูป สินแร่โลหะอื่นๆและเศษโลหะ เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย