เฝ้าระวังเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด หวั่นผลกระทบจากเหตุน้ำมันรั่ว

ระยอง 27 ม.ค. – กรมอุทยานฯ เฝ้าระวังผลกระทบจากเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลใต้ทะเล โดยสำรวจอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดและบริเวณโดยรอบ ขณะนี้ยังไม่พบคราบน้ำมันเคลื่อนตัวสู่หาดในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ แต่จะติดตามว่า ความเร็วและทิศทางลมที่เปลี่ยนแปลงแต่ละช่วงเวลาจะส่งผลให้ตำแหน่งที่คราบน้ำมันเคลื่อนสู่ฝั่งเปลี่ยนแปลงไปที่จุดใด


นายรวมศิลป์ มานะจงประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) กล่าวว่า หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดยังคงติดตาม ตรวจสอบ และประเมินสถานการณ์เหตุน้ำมันดิบรั่วไหลใต้ทะเลบริเวณมาบตาพุด จ. ระยอง โดยร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ผอ.ศร.ชล ภาค 1 หัวหน้าสำนักงาน ปภ. จังหวัดระยอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น โดยตรวจสอบบริเวณท่าเรือเทศบาลตำบลบ้านเพ พร้อมทั้งนั่งเรือสำรวจพื้นที่โดยรอบ รวมถึงบริเวณใกล้เคียงกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติ​เขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบ

ทั้งนี้รายงานที่ได้รับพบว่า น้ำมันดิบที่รั่วไหลกินพื้นที่ 1 ตารางกิโลเมตรจากเรือ DTH China สัญชาติฮ่องกง คราบน้ำมันที่เกิดขึ้นประกอบด้วย


  • ฟิล์มน้ำมันสีเงิน ความหนา 0.0001 มิลลิเมตร ประมาณ 80% ของพื้นที่ 1 ตารางกิโลเมตร
  • น้ำมันสีน้ำตาลเข้ม ความหนา 0.1 มิลลิเมตร ประมาณ 20% ของพื้นที่ 1 ตารางกิโลเมตร

ก่อนหน้านี้กรมควบคุมมลพิษใช้แบบจำลอง OilMap เพื่อทำนายการเคลื่อนตัวของคราบน้ำมันในทะเลซึ่งบ่งชี้ว่า อาจเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งทะเลบริเวณหาดแม่รำพึงจนถึงบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดในวันพรุ่งนี้ (28 ม.ค.) เวลาประมาณ 17.00 น. แต่ต้องติดตามว่า ข้อมูลความเร็วและทิศทางของกระแสน้ำและกระแสลมในแต่ละช่วงเวลาที่เปลี่ยนแปลงไปจะทำตำแหน่งสู่ชายฝั่งเปลี่ยนไปบริเวณใด

นอกจากนี้ยังต้องเฝ้าระวังผลที่จะเกิดขึ้นจากการใช้สารขจัดคราบน้ำมัน (Dispersant) ที่ฉีดพ่นลงไปบนคราบน้ำมัน ซึ่งอาจส่งผลให้น้ำมีสารปิโตรเลียมไฮโดรคาร์บอนสูงขึ้น โดยเฉพาะน้ำที่ใกล้ผิวน้ำอาจมีพิษต่อปลาและสัตว์น้ำ จึงรอผลตรวจสอบตัวอย่างน้ำที่ใกล้ผิวน้ำเพื่อวัดค่าความเข้มข้นปิโตรเลียมไฮโดรคาร์บอน (Petroleum Hydrocarbon, TPH) ตามมาตรฐานที่กรมควบคุมมลพิษกำหนดค่ามาตรฐานปิโตรเลียมไฮโดรคาร์บอนในน้ำทะเลเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติต้องไม่เกิน 0.5 ไมโครกรัมต่อลิตร ส่วนการปนเปื้อนสารมลพิษอื่นๆ คาดว่า ไม่มีโดยเฉพาะสารปรอทมีความเข้มข้นต่ำ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย

เร่งล่า 4 คนร้ายซุ่มยิงตำรวจ สภ.ยะรัง เสียชีวิต 2 นาย ขณะที่ ผบ.ตร. อาลัยตำรวจกล้า สั่งต้นสังกัดดูแลสิทธิประโยชน์ เลื่อนเงินเดือนและชั้นยศ

นักโทษกลับใจ

อดีตนักโทษกลับใจ หลังติดคุก 30 ปี โทรคุยกับพ่อทั้งน้ำตา

อดีตนักโทษชีวิตโตมาในคุก ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ อายุ 49 ปี ร่ำไห้กับตำรวจ ขอให้ช่วยพากลับบ้านที่จากมา 30 ปี ตำรวจโทรศัพท์หาพ่อ ให้ 2 พ่อลูกคุยกันทั้งน้ำตา

ตำรวจจีนพาผู้ต้องสงสัยฉ้อโกง 200 ราย กลับจากเมียนมา

พลเมืองจีน 200 รายที่ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง ถูกส่งตัวจากเมืองเมียวดีในเมียนมากลับจีนแล้วเมื่อวานนี้ ภายใต้การคุ้มกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน

เด็ก 12 สูบบุหรี่ไฟฟ้า-ดื่มน้ำกระท่อม ทำปอดหาย

ย่าช็อก หลานวัย 12 ปี อาการวิกฤติ ปอดหายเกือบทั้งหมด ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หลังสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อมตั้งแต่ ป.4

ข่าวแนะนำ

บ่อนดังย่านดอนเมืองปิดเงียบ ขึ้นป้ายห้ามเข้าออก

บ่อนดังย่านดอนเมืองปิดเงียบ ขึ้นป้ายพื้นที่ส่วนบุคคลห้ามเข้าออก พบปิดกิจการตั้งแต่ 16 มี.ค.63 ขณะที่มีกล้องวงจรปิดติดตั้งโดยรอบ

ฮั้วเลือก สว.67

ประธานวุฒิสภา นำทีมแถลงด่วน โต้คดีฮั้วเลือก สว.67

ประธานวุฒิสภา นำทีมแถลงด่วน โต้คดีฮั้วเลือก สว.67 เชื่อเป็นเกมการเมือง หวังเกิดวิกฤต รธน. เพื่อรื้อใหม่ทั้งฉบับ ขู่ใช้ช่องทางกฎหมายกลับ หากทำเสียหาย-บั่นทอนความเชื่อมั่น เพื่อปกป้องศักดิ์ศรี จวก “ทวี” กล่าวหาอั้งยี่ ซ่องโจรทำวุฒิเสื่อมเสีย พร้อมเปิดเวทีซักฟอก

ไทยเข้าฤดูร้อน

กรมอุตุฯ ประกาศเข้าสู่ฤดูร้อนของไทย 28 ก.พ.68

กรมอุตุนิยมวิทยา เตือน 23-25 กุมภาพันธ์นี้ ไทยตอนบนอากาศแปรปรวน ภาคใต้ฝนตกหนัก ส่วนอ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร พร้อมประกาศประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ 28 ก.พ.68 จนถึงกลางเดือน พ.ค.

“ไทย จีน เมียนมา” จับมือโชว์ภารกิจราบรื่น ส่งชาวจีนกลับประเทศ

“ไทย จีน เมียนมา” จับมือโชว์แสดงผลภารกิจราบรื่น ส่งชาวจีนเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลับประเทศ 200 คน ปรับแผนจีนส่งเครื่องบินรับอีก 400 คน สองวันติด “ภูมิธรรม” เผยพร้อมเสนอนายกฯ เซ็นตั้ง ศปช.ส่วนหน้า ทำงานให้ชัดเจน มีกฎหมายรองรับผู้ปฏิบัติ ย้ำไทยไม่ตั้งศูนย์อพยพรองรับเหยื่อที่เหลือ แต่ประสานให้ต้นทางรับกลับทันที