ย้ายหัวหน้า อช.เสม็ด-ตะรุเตา เปิดทางแก้ปัญหาในพื้นที่

กรุงเทพฯ 1 ก.พ. – “อรรถพล” สั่งย้ายหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดและตะรุเตา เพื่อเปิดทางให้หัวหน้าคนใหม่เข้าแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่


นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ได้ลงนามในคำสั่งโยกย้ายให้นายนิทัศน์ นุ่นสง นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ ส่วนจัดการต้นน้ำ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (สบอ. 2) (ศรีราชา) หัวหน้าอุทยานเขาชะเมา-เขาวง จังหวัดระยองและจันทบุรี ไปทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง แทนนายชาณุ เดชธัญญนนท์ เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส ส่วนจัดการต้นน้ำ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ. 3) (บ้านโป่ง) ที่ย้ายให้ทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานเขาชะเมา-เขาวง จนกว่าการสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อร้องเรียนการเก็บค่าธรรมเนียมจะแล้วเสร็จ อีกทั้งยังพบว่า ยังมีความไม่ไว้วางใจในหลายๆ เรื่องระหว่างผู้ประกอบการและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ จึงต้องการให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดคนใหม่ไปทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการว่า ทุกฝ่ายที่ใช้ประโยชน์ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ต้องหาข้อตกลงที่เหมาะสมร่วมกัน จะหวังให้จำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามามากๆ แต่ไม่คำนึงถึงการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไม่ได้ ต้องร่วมกันจัดระเบียบนักท่องเที่ยวและรูปแบบการท่องเที่ยว ย้ำต่อหัวหน้าคนใหม่ ว่า จะต้องดูแลพื้นที่ให้ดี ใช้งบประมาณอย่างโปร่งใส เงินรายได้จากค่าธรรมเนียมต้องจัดเก็บตามระเบียบและส่งรัฐให้ครบถ้วนทุกบาททุกสตางค์

ขณะนี้สภาพของเกาะเสม็ดใกล้เคียงกับเกาะหลีเป๊ะในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล หากปล่อยไว้ จะมีปัญหาแบบเดียวกันและจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวไม่เดินทางไป จึงต้องเร่งจัดระเบียบ โดยได้เปลี่ยนหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแห่งชาติตะรุเตาด้วย ออกคำสั่งให้นายมงคล แดงกัน นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ ส่วนฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 (สบอ. 6) (สงขลา) ไปทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตาแทนนายพันธ์พงศ์ คงแก้ว เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สบอ. 6 ที่ย้ายไปปฏิบัติราชการที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (สบอ .5) (นครศรีธรรมราช)


นายอรรถพลกล่าวต่อว่า การเปลี่ยนตัวหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทั้ง 2 แห่งในขณะนี้ยังไม่ได้ระบุว่า มีการกระทำผิด จนกว่าผลการสอบสวนข้อเท็จจริงจะแล้วเสร็จ แต่ต้องการให้เกิดความไว้วางใจในพื้นที่เพื่อจะแก้ปัญหาต่างๆ ได้รวดเร็ว

นายอรรถพล กล่าวต่อว่า ได้รับรายงานจากนายนรินทร์ ประทวนชัย รองอธิบดีกรมอุทยานฯ ซึ่งร่วมกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล ซึ่งมี พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานคณะกรรมการ ว่า ประธานคณะกรรมการมอบให้กรมอุทยานฯ กรมที่ดิน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตรวจสอบการบุกรุกลำรางสาธารณะ และดำเนินคดีทุกราย หากพบมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานใดปล่อยปละละเลยให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รายนั้นด้วย

สำหรับโรงแรมที่ก่อสร้างและดำเนินกิจการโดยไม่มีใบอนุญาต ให้ดำเนินคดีและสั่งรื้อถอนตามขั้นตอน กรณีเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเก็บภาษีโรงแรม/ที่พักที่มิได้รับอนุญาต ให้ดำเนินคดีเจ้าหน้าที่รายนั้นด้วย


พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ จะร่วมกับกรมบังคับคดีและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องปักป้ายบังคับคดีในรายที่ยังไม่ได้ทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่เรียบร้อยแล้ว 8 แห่ง รวมถึงกำหนดให้กรมอุทยานฯ และกรมที่ดินรังวัดหมายแนวเขต นส. 3 เลขที่ 11 ให้แล้วเสร็จ ส่วนกรมธนารักษ์ แจ้งความดำเนินคดีเอกชนที่บุกรุกพื้นที่ธนารักษ์ (โรงเรียน) 5 ราย เนื้อที่รวม 0-0-76 ไร่ และมอบหมายให้โรงเรียนตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองดำเนินการเจรจากับเอกชนเพื่อรื้อถอนรั้วปิดกั้นทางเดินของนักเรียน อีกทั้งกำหนดเป้าหมายให้กรมอุทยานฯ และกรมที่ดินรังวัดหมายแนวเขต นส. 3 เลขที่ 11 ให้แล้วเสร็จ

ส่วนที่กรณีผู้ประกอบการบนเกาะเสม็ดร้องเรียนเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดเรียกเก็บเงินค่าดำเนินการรถยนต์ เรียกเก็บรถจักรยานยนต์เช่าและจักรยานยนต์รับจ้าง รวมถึงการเรียกเก็บจากผู้ที่ต่อเติมก่อสร้างบนเกาะเสม็ดร้อยละ 10 จากงบประมาณก่อสร้าง และเรียกเก็บเงินจากผู้ที่ใช้คราดและไม้กวาดไปกวาดหญ้าริมถนนนั้น นายก้องเกียรติ เต็มตำนาน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (สบอ. 2) (ศรีราชา) กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากรักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานฯ ให้ ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงต่างๆ และจัดประชุมผู้ประกอบการ เพื่อทำความเข้าใจให้ชัดเจนในทุกประเด็น จึงเชิญผู้ประกอบการชมรมรถสองแถว ชมรมวินมอเตอร์ไซด์รับจ้าง กลุ่มผู้ประกอบกิจการเรือรับนักท่องเที่ยว กลุ่มกิจการขายผ้า กลุ่มกิจการขายของที่ระลึก กลุ่มแม่ค้าหาบเร่ กลุ่มกิจการนวดแผนโบราณมาประชุมร่วมกัน โดยชี้แจงถึงการปฏิบัติงานและการจัดเก็บค่าธรรมเนียมประเภทต่างๆ ว่า เป็นไปตามที่ประกาศในกฎกระทรวง ปี 2566 หากการดำเนินกิจการใดที่กฎกระทรวงมิได้กำหนดก็จะไม่มีการเก็บเงินแต่ประการใดๆ โดยเฉพาะค่าธรรมเนียมต่างๆ เป็นตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ ปี พ.ศ. 2562 และเรื่องการกำหนดแหล่งท่องเที่ยวที่ต้องชำระเป็นพิเศษ โดยปัจจุบัน อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด มีการเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษจากชาวต่างชาติเพิ่มคนละ 100 บาทในพื้นที่เกาะทะลุ เกาะกุฎี เกาะขาม-เกาะกรวย หากผู้ใดมีหลักฐานชัดเจนว่า เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ เรียกเก็บเงินส่วนอื่นที่ไม่ใช่ค่าธรรมเนียมตามกฎกระทรวง ขอให้แจ้งมา จะดำเนินการลงโทษอย่างเด็ดขาด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เปิดแนวปะทะพื้นที่ “อานม้า-ภูมะเขือ”

30 ก.ค. – กัมพูชากลับกลอก ละเมิดข้อตกลงอีก เปิดแนวปะทะ 2 พื้นที่ “อานม้า และภูมะเขือ” ขณะที่ ทบ.เผยทหารกัมพูชาใช้ปืนเล็ก สลับระเบิดขว้าง เมื่อคืนนี้ (29 ก.ค.) กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยก่อนอีกแล้ว ละเมิดข้อตกลงถึง 2 ครั้ง โดยเปิดแนวปะทะ 2 พื้นที่ที่ อานม้า และภูมะเขือ ทบ.เปิดเผยว่า ทหารกัมพูชาใช้ปืนเล็กสลับระเบิดขว้าง โดยเมื่อเวลา 20.45 น. แหล่งข่าวฝ่ายมั่นคงรายงานว่า ช่องอานม้า มีเหตุปะทะ กัมพูชาเปิดฉากยิง หวังยึดพื้นที่ ฝ่ายไทยตอบโต้ ขณะที่ช่วงเวลา 22.19 น. พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบขั้นต้นเกิดเหตุปะทะที่ภูมะเขือ และช่องอานม้า โดยมีปืนเล็กกับระเบิดขว้างเข้ามาที่ฐานฝั่งไทย ประมาณ 30 นาที ขณะที่เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์ไม่ต้องนอน ตามคาด! กัมพูชาละเมิดอีกแล้ว อานม้าปะทะภูมะเขือ […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสาน-กลาง-ตอ.ฝนตกหนัก กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 30 ก.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วน กทม.-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบน มีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า […]

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนาม ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 29 ก.ค.-เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทตาเหมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มีการปะทะรุนแรง และก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุในลักษณะต่างๆ เช่น การขึ้นมาร้องเพลง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ก็เชิญชวนให้คนไทยมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม โดยยืนยันว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย และได้รับความสนใจจากประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งนี้ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่เกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ด้วยเหตุว่ากัมพูชาพยายามจะเข้ามายึดพื้นที่ปราสาท ซึ่งเป็นจุดสูงได้เปรียบในเชิงจุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะเกิดเหตุปะทะในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และนำมาสู่การเจรจาหยุดยิงโดยรัฐบาล 2 ประเทศ เมื่อวานนี้ จนกระทั่งมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างฝ่ายทหารในพื้นที่ 2 ประเทศในวันนี้ และทำให้เสียงปืนสงบลง.-313.-สำนักข่าวไทย