ย้ายหัวหน้า อช.เสม็ด-ตะรุเตา เปิดทางแก้ปัญหาในพื้นที่

กรุงเทพฯ 1 ก.พ. – “อรรถพล” สั่งย้ายหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดและตะรุเตา เพื่อเปิดทางให้หัวหน้าคนใหม่เข้าแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่


นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ได้ลงนามในคำสั่งโยกย้ายให้นายนิทัศน์ นุ่นสง นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ ส่วนจัดการต้นน้ำ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (สบอ. 2) (ศรีราชา) หัวหน้าอุทยานเขาชะเมา-เขาวง จังหวัดระยองและจันทบุรี ไปทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง แทนนายชาณุ เดชธัญญนนท์ เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส ส่วนจัดการต้นน้ำ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ. 3) (บ้านโป่ง) ที่ย้ายให้ทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานเขาชะเมา-เขาวง จนกว่าการสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อร้องเรียนการเก็บค่าธรรมเนียมจะแล้วเสร็จ อีกทั้งยังพบว่า ยังมีความไม่ไว้วางใจในหลายๆ เรื่องระหว่างผู้ประกอบการและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ จึงต้องการให้หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดคนใหม่ไปทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการว่า ทุกฝ่ายที่ใช้ประโยชน์ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ต้องหาข้อตกลงที่เหมาะสมร่วมกัน จะหวังให้จำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามามากๆ แต่ไม่คำนึงถึงการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไม่ได้ ต้องร่วมกันจัดระเบียบนักท่องเที่ยวและรูปแบบการท่องเที่ยว ย้ำต่อหัวหน้าคนใหม่ ว่า จะต้องดูแลพื้นที่ให้ดี ใช้งบประมาณอย่างโปร่งใส เงินรายได้จากค่าธรรมเนียมต้องจัดเก็บตามระเบียบและส่งรัฐให้ครบถ้วนทุกบาททุกสตางค์

ขณะนี้สภาพของเกาะเสม็ดใกล้เคียงกับเกาะหลีเป๊ะในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จังหวัดสตูล หากปล่อยไว้ จะมีปัญหาแบบเดียวกันและจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวไม่เดินทางไป จึงต้องเร่งจัดระเบียบ โดยได้เปลี่ยนหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแห่งชาติตะรุเตาด้วย ออกคำสั่งให้นายมงคล แดงกัน นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ ส่วนฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 6 (สบอ. 6) (สงขลา) ไปทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตาแทนนายพันธ์พงศ์ คงแก้ว เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สบอ. 6 ที่ย้ายไปปฏิบัติราชการที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 (สบอ .5) (นครศรีธรรมราช)


นายอรรถพลกล่าวต่อว่า การเปลี่ยนตัวหัวหน้าอุทยานแห่งชาติทั้ง 2 แห่งในขณะนี้ยังไม่ได้ระบุว่า มีการกระทำผิด จนกว่าผลการสอบสวนข้อเท็จจริงจะแล้วเสร็จ แต่ต้องการให้เกิดความไว้วางใจในพื้นที่เพื่อจะแก้ปัญหาต่างๆ ได้รวดเร็ว

นายอรรถพล กล่าวต่อว่า ได้รับรายงานจากนายนรินทร์ ประทวนชัย รองอธิบดีกรมอุทยานฯ ซึ่งร่วมกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล ซึ่งมี พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานคณะกรรมการ ว่า ประธานคณะกรรมการมอบให้กรมอุทยานฯ กรมที่ดิน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตรวจสอบการบุกรุกลำรางสาธารณะ และดำเนินคดีทุกราย หากพบมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานใดปล่อยปละละเลยให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รายนั้นด้วย

สำหรับโรงแรมที่ก่อสร้างและดำเนินกิจการโดยไม่มีใบอนุญาต ให้ดำเนินคดีและสั่งรื้อถอนตามขั้นตอน กรณีเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเก็บภาษีโรงแรม/ที่พักที่มิได้รับอนุญาต ให้ดำเนินคดีเจ้าหน้าที่รายนั้นด้วย


พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ จะร่วมกับกรมบังคับคดีและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องปักป้ายบังคับคดีในรายที่ยังไม่ได้ทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่เรียบร้อยแล้ว 8 แห่ง รวมถึงกำหนดให้กรมอุทยานฯ และกรมที่ดินรังวัดหมายแนวเขต นส. 3 เลขที่ 11 ให้แล้วเสร็จ ส่วนกรมธนารักษ์ แจ้งความดำเนินคดีเอกชนที่บุกรุกพื้นที่ธนารักษ์ (โรงเรียน) 5 ราย เนื้อที่รวม 0-0-76 ไร่ และมอบหมายให้โรงเรียนตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองดำเนินการเจรจากับเอกชนเพื่อรื้อถอนรั้วปิดกั้นทางเดินของนักเรียน อีกทั้งกำหนดเป้าหมายให้กรมอุทยานฯ และกรมที่ดินรังวัดหมายแนวเขต นส. 3 เลขที่ 11 ให้แล้วเสร็จ

ส่วนที่กรณีผู้ประกอบการบนเกาะเสม็ดร้องเรียนเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดเรียกเก็บเงินค่าดำเนินการรถยนต์ เรียกเก็บรถจักรยานยนต์เช่าและจักรยานยนต์รับจ้าง รวมถึงการเรียกเก็บจากผู้ที่ต่อเติมก่อสร้างบนเกาะเสม็ดร้อยละ 10 จากงบประมาณก่อสร้าง และเรียกเก็บเงินจากผู้ที่ใช้คราดและไม้กวาดไปกวาดหญ้าริมถนนนั้น นายก้องเกียรติ เต็มตำนาน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (สบอ. 2) (ศรีราชา) กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจากรักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานฯ ให้ ตรวจสอบหาข้อเท็จจริงต่างๆ และจัดประชุมผู้ประกอบการ เพื่อทำความเข้าใจให้ชัดเจนในทุกประเด็น จึงเชิญผู้ประกอบการชมรมรถสองแถว ชมรมวินมอเตอร์ไซด์รับจ้าง กลุ่มผู้ประกอบกิจการเรือรับนักท่องเที่ยว กลุ่มกิจการขายผ้า กลุ่มกิจการขายของที่ระลึก กลุ่มแม่ค้าหาบเร่ กลุ่มกิจการนวดแผนโบราณมาประชุมร่วมกัน โดยชี้แจงถึงการปฏิบัติงานและการจัดเก็บค่าธรรมเนียมประเภทต่างๆ ว่า เป็นไปตามที่ประกาศในกฎกระทรวง ปี 2566 หากการดำเนินกิจการใดที่กฎกระทรวงมิได้กำหนดก็จะไม่มีการเก็บเงินแต่ประการใดๆ โดยเฉพาะค่าธรรมเนียมต่างๆ เป็นตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ ปี พ.ศ. 2562 และเรื่องการกำหนดแหล่งท่องเที่ยวที่ต้องชำระเป็นพิเศษ โดยปัจจุบัน อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด มีการเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษจากชาวต่างชาติเพิ่มคนละ 100 บาทในพื้นที่เกาะทะลุ เกาะกุฎี เกาะขาม-เกาะกรวย หากผู้ใดมีหลักฐานชัดเจนว่า เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ เรียกเก็บเงินส่วนอื่นที่ไม่ใช่ค่าธรรมเนียมตามกฎกระทรวง ขอให้แจ้งมา จะดำเนินการลงโทษอย่างเด็ดขาด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 163 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 20 ส.ค. – หนีไม่รอด รวบโจรสวมชุดไรเดอร์ บุกเดี่ยวชิงทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทอง 163 บาท พบของกลางบางส่วนซุกตู้ลำโพงในบ้าน จากกรณีคนร้ายแต่งตัวคล้ายไรเดอร์ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทอง พร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน ก่อนกระโดดข้ามตู้หน้าร้าน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 163 บาท เป็นทองคำรูปพรรณประเภทสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท ประมาณ 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท, น้ำหนัก 3 บาท ประมาณ 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท ประมาณ 24 เส้น น้ำหนักรวม 48 บาท (รวมสร้อยข้อมือ 79 เส้น) ก่อนวิ่งขึ้นรถ จยย.ที่จอดอยู่ด้านหน้า […]

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“ทศพล” รุดมอบมาลัย “ภูมิธรรม” หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่

กองบินตำรวจ 20 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เตรียมแถลงจับยาเสพติดลอตใหญ่ “ทศพล” รุดมอบมาลัย หลัง ครม.ชงนั่งผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 8.00 น. ที่กองบินตำรวจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เดินทางมาขึ้นเครื่อง เพื่อไปแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดล็อตใหญ่ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พลตํารวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการ รมว.มหาดไทย ร่วมเดินทางด้วย ทั้งนี้เมื่อนายภูมิธรรมเดินทางมาถึง นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการ กระทรวงมหาดไทย ที่ ครม. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. แต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้นำพวงมาลัยมามอบให้นายภูมิธรรมและปลัดกระทรวงมหาดไทย และร่วมเดินทางกับคณะด้วย โดยมีสีหน้ายิ้มแย้ม อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางเลขาธิการ ป.ป.ส. ได้รายงานสถานการณ์ยาเสพติดให้นายภูมิธรรมรับทราบ.-319.-สำนักข่าวไทย

มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง

กทม.19ส.ค.-มท.ชง ครม.แต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กลอต 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำพู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” นั่งพ่อเมืองปากน้ำ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง อาทิ นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้ว่าฯ สมุทรปราการ นายจุมพฎ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าฯ บึงกาฬ เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าฯ ตาก เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นผู้ว่าฯ ชลบุรี นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ผูกเนกไทเหลือง มาฟังคำตัดสินคดี ม.112

กทม. 22 ส.ค.-“ทักษิณ” มาก่อนเวลา สวมสูท-ผูกเนกไทเหลือง มาฟังคำตัดสินคดี ม.112 ก่อนสวมกอด “พินทองทา” และโบกมือทักทายสื่อฯ-มวลชนเสื้อแดง ก่อนขึ้นห้องพิจารณาที่ 902 ด้านตำรวจ สน.พหลฯ จัดกำลังดูแลความเรียบร้อยตามความเหมาะสม ต่อมาเวลา 09.20 น. นางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนกลางนายทักษิณชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงศาลอาญารัชดา โดยจอดรถบริเวณด้านข้างอาคารศาลอาญา จากนั้นในเวลาไล่เลี่ยกันนายทักษิณ เดินทางมาถึงศาลอาญาด้วยรถยนต์ส่วนตัว โดยมาด้วยชุดสูทสีกรมท่า เสื้อเชิ้ตสีขาวผูกเนกไทสีเหลือง ก่อนจะสวมกอดกับลูกสาว และเดินเข้าไปบริเวณด้านในอาคารศาลอาญารัชดาทันทีเพื่อเข้าสู่ห้องพิจารณาคดีที่ 902 ในเวลา 10.00 น. ตามที่ศาลนัดพิพากษาตัดสินคดีวันนี้ ขณะที่มาตรการรักษาความปลอดภัย พันตำรวจเอกมารุต สุดหนองบัว ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ให้ข้อมูลว่า ในวันนี้เจ้าหน้าที่ศาลอาญาได้ประสานขอกำลังสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ให้เข้ามาช่วย ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งตำรวจสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ทั้งในและนอกเครื่องแบบได้เข้ามาช่วยดูแลรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่โดยมีการวางกำลังเสริมกับตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลตามความเหมาะสม โดยก่อนหน้านี้ทางกลุ่มแกนนำมวลชนเสื้อแดงได้มีการประสานกับฝ่ายสืบสวนว่าจะเข้ามาจัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ให้กำลังใจ และจับภาพรวมการข่าวก็ยังไม่พบอะไรที่น่าเป็นกังวล ขณะเดียวกันพบมีมวลชนจำนวนหนึ่งเดินทางมาปักหลักที่บริเวณลานจอดรถของศาลอาญาพร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีแดง และสกรีนข้อความให้กำลังใจพร้อมรูปของนายทักษิณ เป็นการให้กำลังใจเดินทางมาให้กำลังใจนายทักษิณเดินทางมาจากในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ซึ่งตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศาลอาญาได้มีการกันพื้นที่ เพื่อให้กลุ่มมวลชนอยู่ พื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ให้เพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชน และเจ้าหน้าที่ที่เดินทางมาที่ศาลอาญา.-420.-สำนักข่าวไทย

ฝ่ายกัมพูชามาถึงแล้ว ร่วมประชุม RBC ชุดใหญ่ที่สระแก้ว

สระแก้ว 22 ส.ค.-การประชุม RBC ระดับกองเลขาฯ ไทย-กัมพูชา รอข้ามคืน ฝ่ายกัมพูชาส่งข้อเสนอให้ผู้บังคับบัญชาตรวจ ก่อนเปิดโต๊ะเจรจา ‘ตี1’ เสร็จ ‘ตี2’ นำเข้า RBC วงใหญ่ 10 โมงเช้าวันนี้ ซึ่งฝ่ายกัมพูชามาถึงแล้วตามกำหนด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) ในระดับกองเลขานุการ ที่สโมสรนายทหาร มณฑลทหารบกที่ 19 ซึ่งเดิมกำหนดในเวลา 14.00 น. วันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา มาถึงเวลา 18.00 น. กองทัพภาคที่ 1 และกองทัพบก ชี้แจงว่า การประชุมยังดำเนินการอยู่ ผ่านทางโทรศัพท์และอีเมล ซึ่งฝ่ายกัมพูชาต้องให้ผู้บังคับบัญชาของตัวเองพิจารณา ก่อนขึ้นโต๊ะเจรจากับฝ่ายไทย จนถึงเวลาประมาณ 00.05 ของวันที่ 22ส.ค. พลโท ซอ กึมปะ รองผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 ประธานคณะทำงาน และคณะของฝ่ายกัมพูชา เดินทางมาถึง สโมสร […]

ประชุม RBC ระดับเลขาฯ ไม่ยกเลิก หลังมีข่าวส่อแววล่ม

สระแก้ว 21 ส.ค.- ไม่ล่ม! การประชุม RBC ระดับเลขานุการ ยังไม่ยกเลิก กระบวนการหารือยังคงดำเนินต่อไป แม้ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวส่อล่ม เนื่องจากฝ่ายกัมพูชายังไม่เดินทางมาเข้าร่วม ภายหลังการประชุม คณะกรรมการร่วมชายแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 หลายฝ่ายจับตาไปที่การประชุมของกองทัพภาคที่ 1 ซึ่งจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.) แต่ปรากฏว่าวันนี้ เมื่อถึงเวลาประชุม RBC ระดับเลขานุการ ทางฝ่ายกัมพูชายังไม่ได้เดินทางมา บรรยากาศที่สโมสรนายทหาร มณฑลทหารบกที่ 19 จ.สระแก้ว การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย – กัมพูชา (RBC) สมัยวิสามัญ ซึ่งตามกำหนดในเวลา 14.00 น. จะมีการประชุม กองทัพภาคที่ 1 นำโดย พลตรี สุรวิชญ์ แดงจันทร์ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 เป็นประธานคณะทำงาน ฝ่ายไทย ขณะกัมพูชา นำโดย พลโท ซอ […]

ล่า 18 วัน รวบแล้วมือยิง “กำนันเล้น”

ตรัง 21 ส.ค.- เหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธสงครามเอ็ม 16 ยิงถล่มกำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิตคารถ เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดวันนี้ตำรวจรวบตัวคนร้ายได้แล้ว หลังหนีกบดานนานถึง 18 วัน พร้อมเตรียมสอบสวนหามูลเหตุจูงใจ ติดตามจากรายงาน -สำนักข่าวไทย