ก.ล.ต. ออกหลักเกณฑ์ SME-Startup ระดมทุนในวงกว้าง

กรุงเทพฯ 7 ม.ค.-ก.ล.ต. ออกประกาศเพื่อเปิดโอกาสให้วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) สามารถเสนอขายหุ้นต่อผู้ลงทุนในวงกว้างและเข้าจดทะเบียนในตลาดรองได้ ยกเว้นค่าธรรมเนียมต่าง ๆ มอบเป็นของขวัญปีใหม่ 65

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกประกาศรองรับให้ SME และ Startup ที่เป็นบริษัทมหาชนจำกัด สามารถเสนอขายหุ้นต่อผู้ลงทุนในวงกว้างได้ โดยผ่อนปรนหลักเกณฑ์ทั้งในตลาดแรกและตลาดรองเพื่อมิให้เป็นภาระกับ SME และ Startup แต่กิจการยังคงต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ในเรื่องการเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญต่อผู้ลงทุน และเนื่องจากกิจการ SME และ Startup ยังอยู่ในช่วงการเติบโตทางด้านธุรกิจ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงกว่ากิจการขนาดใหญ่ จึงจะมีการจำกัดให้เฉพาะผู้ลงทุนบางประเภทที่สามารถเข้าลงทุนได้ โดยต้องเป็นผู้ลงทุนที่มีความรู้ มีประสบการณ์ในการลงทุน รวมถึงมีฐานะในระดับหนึ่งที่สามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์การเสนอขายหุ้นต่อผู้ลงทุนในวงกว้างนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2565 เป็นต้นไป


นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า การออกหลักเกณฑ์ในครั้งนี้ นับเป็นก้าวที่สำคัญในการเพิ่มเครื่องมือในการระดมทุนผ่านตลาดทุนให้กับ SME และ Startup ซึ่ง ก.ล.ต. ได้ดำเนินนโยบายและผลักดันมาตรการส่งเสริม SME และ Startup ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2562 เป็นต้นมา โดยได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งหลักเกณฑ์นี้จะมีการลดภาระและหน้าที่ในเรื่องหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ให้กับกิจการ เช่น การไม่กำหนดให้ต้องยื่นคำขออนุญาต และการไม่กำหนดให้ต้องมีที่ปรึกษาทางการเงิน รวมถึงเพื่อส่งเสริมให้กิจการสามารถระดมทุนผ่านตลาดทุนได้โดยมีภาระค่าใช้จ่ายที่น้อยลง ก.ล.ต. จึงไม่กำหนดค่าธรรมเนียมใด ๆ เพื่อเป็นของขวัญวันปีใหม่กับกิจการ SME และ Startup ทุกแห่ง ที่ประสงค์จะเข้ามาระดมทุนในตลาดทุนตามหลักเกณฑ์ที่กล่าวมาข้างต้น

ก่อนหน้านี้ นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุว่า ในต้นปี 2565 จะเปิดให้บริการ LiVE Exchange ที่เป็นแหล่งระดมทุนสำหรับธุรกิจเอสเอ็มอี และสตาร์ตอัพ โดยร่วมมือกับ ก.ล.ต. พัฒนากฎเกณฑ์รองรับ เพื่อเพิ่มช่องทางการระดมทุนสำหรับผู้ประกอบการและเพิ่มทางเลือกการลงทุนให้ผู้ลงทุน ภายใต้แนวคิด Light-touch supervision โดยปรับกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสม.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เยี่ยมญาติตึกถล่ม

นายกฯ เยี่ยมให้กำลังใจญาติผู้ประสบภัยตึกถล่มที่ศูนย์พักคอย

นายกฯ เข้าเยี่ยมให้กำลังใจญาติผู้ประสบภัยตึกถล่มที่ศูนย์พักคอย “ขอให้ดูแลตัวเอง อย่าพึ่งป่วย”

กิจการร่วมค้าซีไอเอส

สั่งฟัน “กิจการร่วมค้าซีไอเอส” จ่อยกเลิกสัญญาจ้างสร้างเทอร์มินัลใหม่

“มนพร” รมช.คมนาคม สั่งฟัน “กิจการร่วมค้าซีไอเอส” เตรียมยกเลิกสัญญาจ้างสร้างเทอร์มินัลใหม่ “สนามบินนราธิวาส” พร้อมขึ้นแบล็คลิสต์เป็นผู้ทิ้งงาน ห้ามรับงานภาครัฐ หลังพบสร้างช้ากว่าแผน 60.76% งานอืดรวม 631 วัน มอบ ทย. ลุยตรวจสอบวัสดุอุปกรณ์ จี้ให้รายงานกลับมาภายใน 3 วัน ยันทุกโปรเจกต์ต้องผ่านมาตรฐาน-การตรวจเช็กจากวิศวกร

จำคุกชาวจีน

ศาลสั่งจำคุก 4 ชาวจีน ขนเอกสาร ตึก สตง.ถล่ม

ศาลพิพากษาจำคุก 4 ชาวจีน เข้าไปขนเอกสาร จากพื้นที่ อาคาร สตง. ถล่ม คนละ 2 เดือน ปรับ 6,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี

เริ่มใช้เครื่องจักรหนักเปิดซากอาคาร สตง.ถล่ม

102 ชั่วโมงแล้ว สำหรับปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุอาคาร สตง.ถล่ม หน่วยกู้ภัยจากนานาชาติให้ความหวังว่ายังมีโอกาสเจอผู้รอดชีวิต ทำให้การค้นหาวันนี้ต้องแข่งกับเวลาอย่างเต็มที่