ตรวจเข้มผักนำเข้าผ่านเส้นทางรถไฟลาว-จีน พบไม่แจ้งในรายการพืช

กรุงเทพฯ 6 ม.ค. – “รมช. มนัญญา” กำชับตรวจเข้มผักนำเข้าผ่านเส้นทางรถไฟลาว-จีน ป้องศัตรูพืชและเชื้อโควิด-19 ปนเปื้อนผลผลิต ล่าสุดด่านตรวจพืชหนองคายตรวจพบกะหล่ำปลีสีม่วงที่ไม่แจ้งในรายการพืชและไม่มีใบรับรองสุขอนามัยพืช 2 รายการ เตรียมทำลายใน 14 วัน พร้อมส่งหนังสือแจ้งเตือนไปยังจีนแล้ว


นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า สั่งการให้กรมวิชาการเกษตรเข้มงวดตรวจสอบทั้งศัตรูพืชและเชื้อโควิด-19 ในสินค้าที่นำเข้าจากจีนทางเส้นทางรถไฟลาว-จีนอย่างเคร่งครัด โดยเส้นทางรถไฟสายนี้เปิดบริการตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม  2564 จึงมีการนำเข้าผักสดและดอกไม้สดจากจีนผ่านด่านตรวจพืชหนองคายอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้การตรวจดังกล่าวเป็นการป้องกันไม่ให้มีศัตรูพืชต่างถิ่นและเชื้อโควิด-19 ปนเปื้อนมากับสินค้านำเข้าจากจีนซึ่งเป็นแนวปฏิบัติเดียวกับที่จีนได้ตรวจสอบสินค้านำเข้าจากไทย

นายภัสชญภณ  หมื่นแจ้ง  รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตรเปิดเผย ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม 2564 – วันที่ 3 มกราคม 2565 ด่านตรวจพืชหนองคาย  กรมวิชาการเกษตรรายงานการตรวจสินค้านำเข้าจากจีนมีปริมาณการนำเข้าผ่านด่านตรวจพืชหนองคาย 159 ชิปเม้นท์ ปริมาณรวม 2,292 ตัน มูลค่ารวม 41 ล้านบาท 


สำหรับผักที่มีการนำเข้าจากจีนมากที่สุดคือ ผักกาดขาว 419 ตัน มูลค่า 4,777,466 บาท บร็อคโคลี 253 ตัน มูลค่า 6,607,693 บาท กะหล่ำปลีรูปหัวใจ 120 ตัน มูลค่า 1,566,356 บาท บัวหิมะ 81 ตัน มูลค่า 1,486,863 บาท และผักกาดหัว 80 ตัน มูลค่า 87,912 บาท 

รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตรกล่าวว่า จากการตรวจสอบโรคและแมลงศัตรูพืชผักสดนำเข้าพบว่า ในวันที่ 1 ธันวาคม 2564 และวันที่ 1 มกราคม  2565 มีสินค้านำเข้า 2 ชิปเมนท์ที่ไม่มีใบแจ้งรายการนำเข้าผ่านระบบ NSW  และตรวจพบกะหล่ำปลีสีม่วงไม่แจ้งมาในรายการพืชและไม่มีใบรับรองสุขอนามัยพืชรับรอง ซึ่งด่านตรวจพืชหนองคายแจ้งผู้ประกอบการนำเข้าให้ทำลายภายใน 14 วัน พร้อมกับได้ส่งหนังสือแจ้งเตือนไปยังจีนแล้วว่า พบการปฏิบัติที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการนำเข้าระหว่าง 2 ประเทศ

สำหรับด่านตรวจพืชหนองคายตั้งอยู่สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมือง จ.หนองคาย  ตรงกับนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ในปีงบประมาณ 2564 พบว่า มีสินค้าพืชและผลผลิตพืชที่นำเข้าจากลาวผ่านด่านตรวจพืชหนองคายเพียงประเทศเดียว โดยสินค้าที่นำเข้าได้แก่ ใบยาสูบแห้ง 1,322  ตัน มูลค่า 129 ล้านบาท มันสำปะหลัง 5,970 ตัน มูลค่า 27.85 ล้านบาท ไม้กฤษณา 1.40 ตัน มูลค่า 10.27 ล้านบาท ไม้แปรรูป 1,249 ตัน มูลค่า 8.93 ล้านบาท และกากข้าวบาเรย์ 14,526 ตัน คิดเป็นมูลค่า 8.38 ล้านบาท โดยปริมาณการนำเข้าทั้งปีรวม  23,069 ตัน มูลค่า 184.91 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย