กรุงเทพฯ 8 ธ.ค.- เวทีประชุมด้านสิ่งแวดล้อม COP26 แต่ละประเทศ ประกาศเป้าหมายร่วมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ด้าน ปตท.ก็ประกาศแผนงานร่วมผลักดันไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เผยว่ากลุ่ม ปตท. ตระหนักถึงความสำคัญในการเร่งแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ นับเป็นประเด็นสำคัญที่สุดของโลกในปัจจุบัน และพร้อมเป็นพลังขับเคลื่อนประเทศไทยก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ โดยตั้งเป้าหมายในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม ปตท. ทั้งในและต่างประเทศลดลง 15% ภายใน 10 ปี หรือภายในปี ค.ศ.2030 สอดรับนโยบายรัฐบาลที่ตั้งเป้าหมายให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนหรือ Carbon Neutrality ภายในปี 2050 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในปี 2065
ซีอีโอ ปตท. กล่าวว่า กลุ่ม ปตท.จัดตั้งคณะทำงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์กลุ่ม ปตท. หรือ PTT Group Net Zero Task Force เรียกสั้นๆว่า G-NET มีเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้มากที่สุด โดย ปตท. ได้ให้ความสำคัญกับการปรับกระบวนการทำงาน และริเริ่มแนวทางใหม่ๆ เพื่อร่วมผลักดันและแก้ไขปัญหาย่างต่อเนื่อง เช่น พัฒนาและส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด กักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ต้นไม้ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ที่ผ่านมา ปตท.ปลูกป่ากว่า 1.1 ล้านไร่ ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 2.14 ล้านตันคาร์บอนออกไซด์เทียบเท่าต่อปี การส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยตลอดห่วงโซ่ธุรกิจ การพัฒนาธุรกิจไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด เป็นต้น
นอกจากนั้น เมื่อเร็วๆ นี้ ยังเริ่มทำธุรกรรมซื้อขายคาร์บอนเครดิตในธุรกิจเติมน้ำมันเรือขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (Green Bunker) ช่วยสร้างการรับรู้ในตลาดค้าสากล เกิดการพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ ช่วยสร้างโอกาสในการพัฒนาการค้าผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ปิโตรเคมี แบบปลอดคาร์บอน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนนโยบายรัฐบาล และตอบรับเจตนารมณ์ของประเทศไทยในด้านการแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศเพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในระยะยาว.-สำนักข่าวไทย