กรุงเทพฯ 18 พ.ย. – การยางแห่งประเทศไทย คาดว่า ผลผลิตยางพาราของปี 2564 จะมีประมาณ 4.6 ล้านตัน ลดลงประมาณ 1 แสนตัน และคาดว่าราคายางในเดือนพฤศจิกายนยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนในเดือนธันวาคม ราคายางจะย่อตัวลงเล็กน้อย
การยางแห่งประเทศไทย หรือ กยท.จัดงาน “Talk About Rubber” โดยนายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย เป็นประธาน
นางสาวอธิวีณ์ แดงกนิษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจยาง กยท.ได้วิเคราะห์สถานการณ์ยางไทย ไตรมาสที่ 4/2564 ว่า ตั้งแต่เดือน มิ.ย. – ก.ย.64 ผลผลิตยางออกสู่ตลาดน้อยกว่าที่คาด สำหรับสถานการณ์แนวโน้มยางพาราในช่วงไตรมาสที่ 4/2564 เดิมคาดว่าในเดือน พ.ย.จะมีผลผลิตยางประมาณ 5 แสนตัน และคาดว่าเดือน ธ.ค. จะมีผลผลิตยาง 5.7 แสนตัน แต่เนื่องจากในปีนี้เป็นปีที่มีสภาวะลานีญา จึงทำให้ฤดูฝนมาเร็วกว่าปกติและเป็นปีที่มีฝนมาก และในเดือน พ.ย. เกิดพายุฝนเขตร้อนซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก รวมถึงเดือน ธ.ค. ยังมีปริมาณฝนมากกว่าค่าปกติร้อยละ 10 จึงคาดว่าปริมาณผลผลิตยางที่ออกมาจริงจะน้อยกว่าที่คาด และคาดว่าผลผลิตของปี 64 มีประมาณ 4.6 ล้านตัน ลดลงประมาณ 1 แสนตัน
สำหรับการส่งออกยางและสต๊อกยาง ตั้งแต่เดือน ก.ค.-ก.ย. การส่งออกยางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือน ก.ย. ส่งออก 3.38 แสนตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีก่อน 12.43% ในขณะที่สต็อกยางมีแนวโน้มลดลงทั้งสต็อกยางของประเทศไทย และสต็อกยางจีน(ชินเต่า) โดยสิ้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา มียางในสต็อกประมาณอยู่ 4 แสนตัน จากช่วงต้นปีซึ่งมีสต็อกอยู่ประมาณ 7 แสนตัน
ทั้งนี้ IMF ได้ปรับคาดการณ์ว่าปีนี้ GDP โลกจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.9 ในส่วนประเทศผู้ใช้ยางหลัก เช่น สหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 ญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 ไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 และสหภาพยุโรป เพิ่มขึ้นร้อยละ 5
อย่างไรก็ตาม ในปี 2564 ความต้องการใช้ยางจะมากกว่าการผลิต 3.29 แสนตัน กยท. คาดว่า ราคายางในเดือนพฤศจิกายนยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และในเดือนธันวาคม จากปริมาณฝนที่ลดลงอาจทำให้ผลผลิตยางมากขึ้นอาจทำให้ราคายางย่อตัวลงเล็กน้อย.- สำนักข่าวไทย