กรุงเทพฯ 18 ต.ค. –รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยืนยันความพร้อมหน่วยงานในสังกัด รองรับการเปิดประเทศ 1 พ.ย.นี้ พร้อมมอบ “ปลัดคมนาคม” หารือ ศบค. วางเกณฑ์ผู้เดินทางระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งไทย-เทศ ต้องฉีดวัคซีนครบ 2 โดสก่อนซื้อตั๋วเดินทาง “เครื่องบิน-รถทัวร์-รถไฟทางไกล” หวังสร้างความมั่นใจนักท่องเที่ยว คาดผู้โดยสารเด้งกลับมาเท่ากับก่อนสถานการณ์โควิด-19 ได้ในปี 65
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลัง การประชุมแผนการเปิดประเทศ ตามนโยบายพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีนโยบายเปิดรับการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และมาจากประเทศต้นทางที่ประเมินว่า มีความเสี่ยงต่ำ ให้สามารถเดินทางทางอากาศเข้ามายังประเทศไทย โดยไม่ต้องกักตัว ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 1 พ.ย. 2564 นั้น ประเมินว่า จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางทางอากาศเข้ามา 10 ประเทศ เช่น อังกฤษ จีน สหรัฐอเมริกา เยอรมัน สิงคโปร์ ออสเตรเลีย เป็นต้น โดยกำหนดว่านักท่องเที่ยวที่เดินทาง จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 โดส หรือมีการตรวจ SWAP แล้วไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง
ทั้งนี้ ยืนยันว่า หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม มีความพร้อม 100% ดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว โดยได้มีการซ้อมกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และท่าอากาศยานต่างๆในกำกับ ที่พร้อมทั้งบูรณาการกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) และด่านศุลกากร โดยในวันที่ 20 ต.ค.นี้ จะเดินทางไปตรวจความพร้อมที่ท่าอากาศยานดอนเมืองในเวลา 13.00 น และเดินทางไปที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในเวลาประมาณ 15.00 น. ก่อนที่จะมีการสรุปและเตรียมความพร้อมในวันที่ 27 ต.ค.นี้
ขณะเดียวกัน ในส่วนของการคัดกรองนั้น จะมีการตั้งเทอร์โมสแกน ตรวจนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา จะต้องมีอุณหภูมิไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส อีกทั้งเมื่อเดินทางออกจากท่าอากาศยานแล้ว ได้สั่งการให้เตรียมรถสาธารณะ เช่น รถแท็กซี่ ลีมูซีน รถตู้ ฯลฯ โดยจะใช้โมเด ลและบทเรียนจากภูเก็ตแซนบอกซ์มาประยุกต์ใช้ รวมถึงพิจารณาการจำหน่ายตั๋วโดยสารให้พิจารณาดูเอกสารการรับวัคซีน 2 โดสเป็นหลัก
นายศักดิ์สยาม กล่าวด้วยว่า ได้สั่งการให้นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ไปพิจารณา แนวทางที่ผู้เดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งคนไทยและต่างชาติที่เดินทางเข้ามา จะต้องมีเอกสารแสดงการฉีดวัคซีน ครบ 2 โดส เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว ทั้งหมด และเพื่อความสำเร็จของนโยบายการเปิดประเทศครั้งนี้ โดยขอให้นำประเด็นดังกล่าว เข้าหารือในที่ประชุม ศบค. ซึ่งหาก ศบค.เห็นด้วย ก็จะพิจารณาเรื่องประใช้เป็นหลักเกณฑ์ต่อไป
“ตามความเห็นส่วนตัวเห็นว่า การเปิดประเทศนั้น หากใช้มาตรการเดียวกัน ทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติ และ คนไทยที่จะต้องเดินทาง ซึ่งจะใช้ระบบโดยสารสาธารณะ อาทิ เครื่องบิน, รถทัวร์ และรถไฟ ที่เป็นการเดินทางทางไกล จะต้องมีการแสดงเอกสารการรับวัคซีนครบ 2 เข็ม เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยว และความปลอดภัยต่อประชาชนชาวไทยด้วย โดยในเบื้องต้น อาจจะมีการแยกการโดยสารระหว่างนักท่องเที่ยวต่างชาติ กับชาวไทย อย่างไรก็ตาม จะมีการคาดว่า จะมีการหารือในที่ประชุม ศบค. ในวันที่ 18 ต.ค.นี้” นายศักกดิ์สยามกล่าว
ขณะที่ ข้อมูลจากการประเมินของ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) ระบุว่า ในช่วงเวลาการเปิดประเทศ และแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ 1 พ.ย. 2564, 1 ธ.ค. 2564 และ 1 ม.ค. 2565 นั้น คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณเที่ยวบิน และผู้เดินทางทาง กลับมาประมาณ 50% ของจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสาร ในปี 2562 หรือก่อนเกิดสถานการณ์ระบาดโควิด- 19 ในไทย และคาดว่า ผู้โดยสารจะกลับมา 100% เท่ากับปี 2562 ได้ในปี 2565 เนื่องจากในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ทั้งนักลงทุน และนักท่องเที่ยว ต่างรอให้สถานการณ์คลี่คลาย เมื่อสถานการณ์เบาลง ทั้งหมดก็จะกลับมาในอัตราเร่ง ร่วมทั้งการครอบคลุมเรื่องการฉีดวัคซีนในไทย ซึ่งในปีนี้ จะมีวัคซีนเข้ามาทั้งหมด 120 ล้านโดส และปีหน้าอีก 60 ล้านโดส หากคนไทยทุกคนช่วยกัน ก็จะทำให้ นโยบายเปิดประเทศ และการฟื้นการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจกลับมาโดยเร็ว
ทั้งนี้ ผู้โดยสารเดินทางผ่านอากาศยาน โดยรวมในปี 2562 ประเทศไทยมีจำนวนเที่ยวบินกว่า 1,050,000 เที่ยวบิน มีจำนวนผู้โดยสาร 82.5 ล้านคน (ในประเทศ 38 ล้านคน ระหว่างประเทศ 44 ล้านคน) .- สำนักข่าวไทย