กรุงเทพฯ 1 ต.ค. – รมว.คมนาคม พอใจผลการใช้สถานีกลางบางซื่อ เป็น “ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ” หลังฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้บุคลากรด่านหน้าระบบขนส่งและประชาชนทั่วไปแล้วทั้งสิ้น 1,948,160 โดส ควบคู่เตรียมความพร้อมเปิดบริการเต็มรูปแบบรถไฟสายสีแดง และสถานีกลางบางซื่อ
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการให้บริการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น (Booster dose / เข็มที่ 3) ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ สถานีกลางบางซื่อ โดยมีปลัดกระทรวงคมนาคม รองปลัดกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม และกระทรวงสาธารณสุข ร่วมลงพื้นที่
โดยนายศักดิ์สยาม กล่าวว่า หลังจากที่กระทรวงคมนาคมได้รับนโยบายจากรัฐบาล ทำหน้าที่สนับสนุนภารกิจด้านสาธารณสุขดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ได้มีการจัดเตรียมพื้นที่บางส่วนของสถานีกลางบางซื่อ เพื่อเปิดเป็น “ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ” สำหรับรองรับการให้บริการฉีดวัคซีนแก่ประชาชน ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นมา รวมทั้งสิ้น 130 วัน ปัจจุบันได้ให้บริการฉีดวัคซีนแก่บุคลากรด่านหน้ากระทรวงคมนาคม พนักงานผู้ให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางราง และทางอากาศ รวมถึงประชาชนทั่วไปแล้วทั้งสิ้น 1,948,160 โดส รองรับการฉีดวัคซีนได้เฉลี่ย 14,986 คน/วัน แบ่งออกเป็นการฉีดวัคซีนเข็มแรก จำนวน 1,358,923 โดส เข็มที่ 2 จำนวน 514,353 โดส และเข็มที่ 3 ซึ่งเริ่มฉีดไปเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2564 จำนวน 74,884 โดส โดยคาดว่าในส่วนของการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 จะฉีดได้ครบตามเป้าหมาย ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคม ยังพร้อมสนับสนุนให้ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ รองรับการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 สำหรับผู้ที่เคยได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 และ 2 จากศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2564 โดยได้จัดเตรียมพื้นที่บริเวณประตู 2 และประตู 3 รองรับผู้มารับวัคซีนอย่างต่อเนื่อง โดยไม่กระทบต่อแผนการเปิดให้บริการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ซึ่งได้ทดลองเปิดให้บริการไปแล้ว เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2564 รวมถึงแผนการให้บริการรถไฟทางไกลในอนาคต ซึ่งกำหนดใช้พื้นที่ประตู 4 เป็นทางเข้า-ออก สำหรับรถไฟทางไกล และใช้ประตู 1 สำหรับเป็นทางเข้า-ออก รถไฟชานเมืองสายสีแดง
ส่วนความคืบหน้าการเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบของสถานีกลางบางซื่อ ได้มอบให้การรถไฟฯ ดำเนินการทั้งในส่วนการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในสถานีกลางบางซื่อ และสถานีรถไฟสายสีแดง 12 สถานี โดยแบ่งเป็น 4 สัญญา ได้แก่ 1. เชิญชวนยื่นข้อเสนอผลตอบแทนการใช้ประโยชน์พื้นที่เพื่อประกอบกิจกรรมเชิงพาณิชย์บริเวณอาคารสถานีกลางบางซื่อ 2. เชิญชวนยื่นข้อเสนอเพื่อสิทธิการบริหารจัดการพื้นที่ติดตั้งป้ายโฆษณาบริเวณอาคารสถานีกลางบางซื่อ โดยทั้ง 2 สัญญานี้จะเป็นสัญญาระยะยาว 20 ปี เพื่อให้เกิดประโยชน์ตอบแทนที่คุ้มค่าต่อการลงทุน 3. เชิญชวนยื่นข้อเสนอผลตอบแทนการใช้ประโยชน์พื้นที่เพื่อประกอบกิจกรรมเชิงพาณิชย์บริเวณอาคารสถานีรถไฟชานเมืองสายสีแดง 12 สถานี และ 4. เชิญชวนยื่นข้อเสนอเพื่อสิทธิการบริหารจัดการพื้นที่ติดตั้งป้ายโฆษณา บริเวณอาคารสถานีรถไฟชานเมืองสายสีแดง 12 สถานี ซึ่ง 2 สัญญานี้เป็นสัญญาระยะสั้น 3 ปี
ทั้งนี้ การรถไฟฯ กำหนดออกประกาศเชิญชวนเอกชนเข้ามายื่นข้อเสนอในเดือนตุลาคมนี้ ในส่วนกระบวนการพิจารณาผลการประกวดราคาและเอกชนสามารถเข้ามาดำเนินการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ในต้นปี 2565 โดยระยะเร่งด่วนจะต้องเข้ามาบริหารพื้นที่บริเวณประตู 4 ซึ่งจะพัฒนาเป็นร้านอาหารสำหรับให้บริการแก่ผู้โดยสาร ตามด้วยการพัฒนาพื้นที่ห้างร้านต่างๆ ในรูปแบบชอปปิ้งมอลล์ ซึ่งเพิ่มเติมจากปัจจุบันที่ได้จัดเตรียมตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (คีออส) มาให้บริการอาหารและเครื่องดื่มแก่ประชาชนไว้แล้ว
ส่วนการให้บริการรถทางไกล บริเวณสถานีกลางบางซื่อ ขณะนี้ได้เริ่มทดลองขบวนรถทางไกลขึ้น-ลง สถานีกลางบางซื่อ ชั้นที่ 2 ซึ่งได้เริ่มทดสอบตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา โดยให้ประเมินการควบคุมเวลาของขบวนรถทางไกล และจัดทำตารางเดินรถใหม่ให้แล้วเสร็จ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 60 วัน ก่อนเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 ธันวาคม 2564
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวด้วยว่า การรถไฟฯ มีการเตรียมความพร้อมด้านสิ่งอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยให้กับประชาชนผู้ใช้บริการ โดยจัดพื้นที่จอดรถยนต์ชั้นใต้ดินของสถานีกลางบางซื่อ ให้บริการฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย 1,700 คัน และยังได้รับความร่วมมือจากกรมการขนส่งทางบก กองบังคับการตำรวจรถไฟ หน่วยงานทหาร จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวก ดูแลความปลอดภัย เพื่อกำกับดูแลพื้นที่โดยรอบสถานีให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย การรถไฟฯ ไม่อนุญาตให้หาบเร่แผงลอยเข้ามาค้าขายในพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ ผู้ฝ่าฝืนจะมีความผิดตามกฎหมาย
นอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังเชิญชวนให้ผู้ได้รับสิทธิฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เดินทางด้วยระบบขนส่งรถไฟชานเมืองสายสีแดง และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน หรือระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ มาที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณภายในสถานี โดยมีขบวนรถไฟชานเมืองสายสีแดงเปิดให้บริการ ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-20.00 น. เดินรถในช่วงเวลาเร่งด่วนทุกๆ 15 นาที ช่วงเวลาปกติทุกๆ 30 นาที โดยประชาชนสามารถนำรถยนต์ไปจอดที่สถานีรถไฟชานเมืองสายสีแดงได้ทุกสถานี และยังคงดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยการจำกัดจำนวนผู้โดยสารในขบวนรถและสถานีไม่เกินร้อยละ 50. – สำนักข่าวไทย