กรุงเทพฯ 27 ก.ย.- ทช.-กนอ.ร่วมกับกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) และผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมในจังหวัดระยอง รวมทั้งองค์กรภาครัฐในท้องถิ่น จัดกิจกรรมออนไลน์ “#PullingOurWeight เก็บ เซฟ โลก” ท้าชวนคนไทยเก็บขยะที่ตกค้างจากแหล่งน้ำใกล้บ้าน และคัดแยกขยะในครัวเรือนเพื่อป้องกันปัญหาขยะหลุดรอดสู่สิ่งแวดล้อมแบบเชิงรุก
นายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า กิจกรรมออนไลน์ “#PullingOurWeight เก็บ เซฟ โลก” เป็นการสร้างความต่อเนื่องให้กับงานวันอนุรักษ์ชายฝั่งสากลซึ่งกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ได้เป็นกำลังสำคัญในการรณรงค์มาโดยตลอด และยังเป็นการต่อยอดความร่วมมือจากกิจกรรมออนไลน์ ‘Dow ท้า หยุดทิ้งพลาสติก’ ที่ได้จัดไปเมื่อสองเดือนที่ผ่านมา ซึ่งได้รับความสนใจจากจิตอาสาจำนวนมาก การที่ให้ประชาชนร่วมกันเก็บขยะและแยกขยะไม่ใช่เพียงมุ่งหวังที่จะลดปริมาณขยะเพียงในช่วงเวลาของกิจกรรม แต่ยังทำให้ได้เห็นความสำคัญของการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง โดยเฉพาะพลาสติกใช้แล้วที่ยังมีคุณค่าเกินกว่าที่จะทิ้งให้กลายเป็นขยะ โดยหวังว่าประชาชนที่เข้าร่วมโครงการจะช่วยกันแยกขยะในครัวเรือนต่อไปเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอันจะเป็นการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ซึ่งสอดคล้องกับเป้าการทำงานด้านความยั่งยืนของ Dow ในการลดขยะพลาสติกและส่งเสริมวงจรรีไซเคิล
ภารกิจการเก็บขยะชายหาดพร้อมกันทั่วโลกเป็นกิจกรรมที่องค์การอนุรักษ์ท้องทะเล (Ocean Conservancy ) ได้ริเริ่มขึ้นในวันอนุรักษ์ชายฝั่งสากลเมื่อ 36 ปีก่อน โดยปีนี้เป็นปีที่ 19 ของการจัดกิจกรรมในประเทศไทย และเพื่อส่งเสริมความปลอดภัยในสถานการณ์โควิดจึงได้เปลี่ยนรูปแบบจากการเก็บขยะพร้อมกันเป็นกลุ่มใหญ่ เป็นให้จิตอาสาเก็บขยะจากแหล่งน้ำใกล้บ้านหรือแยกขยะจากในครัวเรือน นับจำนวนแล้วถ่ายภาพและส่งจำนวนขยะมารวมกันกับจิตอาสาจากทั่วประเทศที่มีใจห่วงใยสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกัน
นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นการบูรณาการขององค์กรภาครัฐและเอกชน โดยการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกกลุ่มเพื่อหยุดขยะพลาสติกไม่ให้หลุดรอดสู่สิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการสร้างจิตสำนึกในการแก้ไขปัญหาขยะทะเล นับเป็นเป้าหมายสำคัญในการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมทางทะเลของประเทศให้มีความสมบรูณ์อีกครั้ง ในฐานะหน่วยงานดูแลด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้มีเป้าหมายการจัดการและแก้ไขปัญหาขยะทะเลมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเก็บขยะในระบบนิเวศชายฝั่งทะเล การวางทุ่นกักขยะลอยน้ำ การติดตั้งบูมกักขยะบริเวณปากแม่น้ำทั่วประเทศ การดำน้ำเก็บขยะใต้ทะเลและในแนวปะการัง พร้อมสนับสนุนการจัดการขยะที่ต้นทางในครัวเรือน ชุมชน สถานประกอบการ รวมถึงพื้นที่ชายฝั่งทะเล สถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลต่าง ๆ พร้อมทั้งสร้างการมีส่วนร่วมกับประชาชนในท้องถิ่น อาสาสมัครและนักท่องเที่ยวในการดูแลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มีการรณรงค์เก็บขยะชายฝั่งในทุก ๆ ปี และนำขยะไปสร้างมูลค่าเพิ่มตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) อย่างเหมาะสม
นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ผวก.) กล่าวว่า ปัจจุบันนโยบายของไทยมุ่งเน้นการยกระดับสิ่งแวดล้อมภายใต้โมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG (Bio, Circular, Green Economy) กนอ.จึงมุ่งเน้นการขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ ที่จะสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมให้มีการส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรเพื่อให้เกิดประโยชน์และประสิทธิภาพสูงสุด โดย ผวก. มอบหมายให้นายฉกาจ พัฒนศรี ผู้อำนวยการสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ร่วมกับผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมและหน่วยงานภาครัฐในจังหวัดระยองดำเนินกิจกรรมนี้อย่างต่อเนื่อง โดยดึงพลังของประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมสำคัญในการยกระดับการดูแลระบบนิเวศชายฝั่งร่วมกัน เพื่อสร้างความยั่งยืนของทรัพยากรให้กับประเทศไทยอย่างมีประสิทธิผลต่อไป
ทั้งนี้ จากความสำเร็จในการรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมภายใต้แคมเปญ “#PullingOurWeight เก็บ เซฟ โลก” สามารถรวบรวมขยะประเภทต่าง ๆ ได้ทั้งสิ้น 196,951 ชิ้น แยกเป็นพลาสติก 104,677 ชิ้น แก้ว 3,567 ชิ้น กระดาษ 32,740 ชิ้น เหล็กและอะลูมิเนียม 1,703 ชิ้น และขยะประเภทอื่น ๆ อีก 54,264 ชิ้น.-สำนักข่าวไทย