“วิสุทธิ์” ลั่นถ้าฝ่ายค้านหาทางลงไม่ได้เดี๋ยวเอาบันไดไปให้

รัฐสภา 10 มี.ค.-“วิสุทธิ์” ลั่นถ้าฝ่ายค้านหาทางลงไม่ได้เดี๋ยวเอาบันไดไปให้ ไล่ไปศึกษาข้อกฎหมายก่อน ยกเคส “ชวน” ปี 2545 เคยเอากลับไปแก้มาแล้ว ถามขวางแบบนี้หวังอภิปรายจริงหรือไม่ เชื่อออกมายืนยันในหลักการเยอะเพราะเก้อ ยันไม่ได้ปกป้อง “ทักษิณ” รัฐบาลพร้อมชี้แจง

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านยืนยันจะไม่แก้ไขญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ขณะนี้ยังไม่มีการหารือเรื่องกำหนดวันอภิปราย เพราะยังติดปัญหาฝ่ายค้านต้องกลับไปแก้ญัตติ ตามที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้วินิจฉัยไว้ หากไม่แก้ก็ไม่สามารถบรรจุระเบียบวาระได้ ดังนั้นตอนนี้จึงยังมาหารือเรื่องกำหนดวันอภิปราย ต้องรอให้ประธานบรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุมก่อนตนจึงจะไปหารือร่วมกับฝ่ายค้าน พร้อมย้ำว่าวันนี้ปัญหาไม่ได้เกิดกับสส.รัฐบาล แต่เป็นเรื่องระหว่างฝ่ายค้านกับประธานสภาผู้แทนราษฎรที่จะไปเจรจากันเอง ซึ่งทราบว่าฝ่ายค้านแจ้งว่าจะไม่แก้ญัตติ ซึ่งถ้าไม่แก้ก็จะไม่ได้บรรจุตนก็ไม่ได้เดือดร้อนกับเขา ก็ไม่ได้ไปกลั่นแกล้งอะไร เป็นเรื่องที่เขาต้องไปชี้แจงกับนายวันนอร์เอง


“ ในข้อกฎหมายมันเคลียร์อะไรกันไม่ได้ การจะเอากฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับมาเคลียร์กันมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ครั้งนี้จะเป็นเรื่องประวัติศาสตร์ที่สภาโดยฝ่ายค้านจะอภิปรายบุคคลภายนอก จะกลายเป็นวัฒนธรรมที่ไม่เคยมีมาก่อน จะสร้างประวัติศาสตร์ที่ผิดๆ อย่าไปทำเลย ถ้าประธานได้แนะนำ เห็นว่าครั้งหนึ่งสมัยนายชวน หลีกภัย เป็นผู้นำฝ่ายค้าน นายอุทัย พิมพ์ใจชน ประธานสภาในสมัยนั้น ได้ทำหนังสือถึงผู้นำฝ่ายค้านให้แก้ไขญัตติเรื่องอภิปราย ซึ่งนายชวนไม่เห็นด้วย แต่ก็ปฏิบัติตามเพื่อให้การอภิปรายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตัวอย่างมันมี ไปหาทางทำเอง แต่เห็นออกมาดาหน้ากันเยอะว่าจะไม่แก้ ไม่แก้ก็ไม่ได้บรรจุ ก็ไม่ใช่เรื่องของผม เรื่องของสส.ฝ่ายรัฐบาล รัฐบาลไม่ได้ไปเกี่ยวข้องด้วย” นายวิสุทธิ์ กล่าว

สำหรับกรณที่นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน งัดเอกสารญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาตั้งกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อพิจารณาผลกระทบการจากสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งมีชื่อของบริษัทเอกชนรายหนึ่งอยู่ด้วยนั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ญัตติในกรรมาธิการฯ กับ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ มันคนละเรื่อง อย่าเอามาปนกัน การที่นายวันนอร์ ตัดสินแบบนี้ ตนมองเห็นว่าสภาเป็นที่ออกกฎหมาย และมีนักฎหมายมากมายก่อนจะถึงนายวันนอร์ เชื่อว่าเขาได้พิจารณาดีแล้ว ถูกต้องแล้วนายวันนอร์ถึงได้ส่งญัตติกลับไปหาฝ่ายค้าน ถ้าไม่แก้ก็แล้วแต่ รัฐบาลพร้อมอยู่แล้ว นายกรัฐมนตรีเตรียมอย่างดีที่จะมาตอบ


ส่วนที่ฝ่ายค้านมองว่ารัฐบาลพยายามจะเตะถ่วงเพื่อไม่ให้เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ นายวิสุทธิ์ ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลเลย เป็นเรื่องของฝ่ายค้านกับประธานสภา ซึ่งก็เห็นดาหน้าออกมาว่าจะไม่ยอมแก้เด็ดขาด ตนมองว่าหากออกมาแรงๆ แบบนี้เดี๋ยวจะไม่มีทางลง ถ้าลงไม่ได้ก็บอกตนเดี๋ยวจะเอาบันไดไปให้ เหมือนกับตอนอภิปรายญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่อภิปราย 2 วัน สุดท้ายก็แก้ไม่ได้ อันนี้ก็ยังจะไปอีก ซึ่งถ้านายวันนอร์ไม่บรรจุมันก็อภิปรายไม่ได้ ซึ่งอาจมองว่าต้องการแก้เก้อ โดยสมัยการประชุมนี้เหลืออีกประมาณ 30 วัน หากยังไม่ได้สามารถยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ในสัปดาห์นี้ก็อาจหวุดหวิด หรือ เปิดอภิปรายไม่ทัน แต่ก็ไม่เกี่ยวกับพวกตนเป็นเรื่องของฝ่ายค้านล้วนๆ ที่ต้องกลับไปแก้ไขญัตติเอง

ส่วนเรื่องการกำหนดจำนวนอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ตามกติกามารยาทหลังจากประธานสภาบรรจุเรื่องเข้าสู่ระเบียบวาระ ก็จะเรียก 3 ฝ่ายมาเจรจากัน แต่ยังไม่ถึงวันนั้นเขาก็ประกาศว่า 5 วัน ตนไม่ได้ใจแคบ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะเจรจากัน

เมื่อถามว่ามองเจตนาของฝ่ายค้านอย่างไรที่ต้องการคงชื่อของนายทักษิณ ชินวัตร ไว้ในญัตติ นายวิสุทธิ์ ตั้งข้อสังเกตุว่า ฝ่ายค้านต้องการอภิปรายไม่ไว้วางใจจริงหรือไม่ สงสัยว่าต้องการให้เรื่องคาอยู่อย่างนี้มีข้อมูลจริงหรือไม่ รู้อยู่แล้วว่าถ้าไม่แก้ไขก็อภิปรายไม่ได้ จึงเป็นเรื่องของฝ่ายค้านและประธานจะต้องไปแก้ไข ตนและรัฐบาลไม่ได้เข้าไปแทรกแซง รู้แค่ว่าท่านส่งคืนเท่านั้น ซึ่งทางออกก็คงต้องทำตามคำวินิจฉัยของประธาน


ส่วนที่ฝ่ายค้านมองว่านายวันนอร์ ใช้อำนาจโดยมิชอบที่สั่งให้ตัดชื่อนายทักษิณ ออกจากญัตติ และจะไปฟ้องร้องต่อศาลนั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ก็สามารถทำได้ เชิญตามสบาย แต่เชื่อว่าก่อนที่นายวันนอร์ก่อนจะตัดสินใจเช่นนี้น่าจะหารือกับฝ่ายกฎหมายมาอย่างดีแล้ว คงไม่ใช่คิดจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ด้วยตัวเอง พร้อมกันนี้ประธานวิปรัฐบาล ยืนยันว่า ไม่ได้ออกมาปกป้องนายทักษิณ แต่แค่อยากให้ทำตามระเบียบ ทำตามระบบของรัฐสภาเสียก่อน เมื่อไม่ทำแล้วไปพูดนอกสภาใครจะไปกลัวคุณ หากบรรจุเข้าระเบียบวาระก็อภิปรายได้เต็มที่ รัฐบาลพร้อมจะตอบทุกเรื่อง ไม่ได้กังวลอะไรเลย ไม่ได้จะปกป้องใคร ซึ่งประธานสภาทำหน้าที่เป็นกลาง และไม่ใช่คนของพรรคตน และส่วนตัวก็ไม่มีเบอร์ติดต่อนายวันนอร์ ไม่เคยคุยกันเป็นการส่วนตัว เป็นคำวินิจฉัยของท่านเอง ไม่เกี่ยวกับพวกตน หรือรัฐบาลเลย.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]

เฉลิมพระเกียรติพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

12 ส.ค. – ทบ.ยิงสลุตหลวง เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 วันนี้เวลา 12.00 น. ณ ท้องสนามหลวง กองทัพบก โดยกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ยิงสลุตหลวงจำนวน 21 นัด เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 โดยกองร้อยปืนใหญ่ยิงสลุต ใช้ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีราบ แบบ 80 ขนาด 75 มิลลิเมตร จำนวน 4 กระบอก ทำการยิงตามจังหวะของเพลงสรรเสริญพระบารมี จำนวน 21 นัด จังหวะ 5 วินาที ทีละกระบอก นับรอบจากขวาไปซ้าย ใช้เวลายิงทั้งหมด 1 นาที 40 […]