รัฐสภา 10 มี.ค.-“วิสุทธิ์” ลั่นถ้าฝ่ายค้านหาทางลงไม่ได้เดี๋ยวเอาบันไดไปให้ ไล่ไปศึกษาข้อกฎหมายก่อน ยกเคส “ชวน” ปี 2545 เคยเอากลับไปแก้มาแล้ว ถามขวางแบบนี้หวังอภิปรายจริงหรือไม่ เชื่อออกมายืนยันในหลักการเยอะเพราะเก้อ ยันไม่ได้ปกป้อง “ทักษิณ” รัฐบาลพร้อมชี้แจง
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านยืนยันจะไม่แก้ไขญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ขณะนี้ยังไม่มีการหารือเรื่องกำหนดวันอภิปราย เพราะยังติดปัญหาฝ่ายค้านต้องกลับไปแก้ญัตติ ตามที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้วินิจฉัยไว้ หากไม่แก้ก็ไม่สามารถบรรจุระเบียบวาระได้ ดังนั้นตอนนี้จึงยังมาหารือเรื่องกำหนดวันอภิปราย ต้องรอให้ประธานบรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุมก่อนตนจึงจะไปหารือร่วมกับฝ่ายค้าน พร้อมย้ำว่าวันนี้ปัญหาไม่ได้เกิดกับสส.รัฐบาล แต่เป็นเรื่องระหว่างฝ่ายค้านกับประธานสภาผู้แทนราษฎรที่จะไปเจรจากันเอง ซึ่งทราบว่าฝ่ายค้านแจ้งว่าจะไม่แก้ญัตติ ซึ่งถ้าไม่แก้ก็จะไม่ได้บรรจุตนก็ไม่ได้เดือดร้อนกับเขา ก็ไม่ได้ไปกลั่นแกล้งอะไร เป็นเรื่องที่เขาต้องไปชี้แจงกับนายวันนอร์เอง
“ ในข้อกฎหมายมันเคลียร์อะไรกันไม่ได้ การจะเอากฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับมาเคลียร์กันมันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ครั้งนี้จะเป็นเรื่องประวัติศาสตร์ที่สภาโดยฝ่ายค้านจะอภิปรายบุคคลภายนอก จะกลายเป็นวัฒนธรรมที่ไม่เคยมีมาก่อน จะสร้างประวัติศาสตร์ที่ผิดๆ อย่าไปทำเลย ถ้าประธานได้แนะนำ เห็นว่าครั้งหนึ่งสมัยนายชวน หลีกภัย เป็นผู้นำฝ่ายค้าน นายอุทัย พิมพ์ใจชน ประธานสภาในสมัยนั้น ได้ทำหนังสือถึงผู้นำฝ่ายค้านให้แก้ไขญัตติเรื่องอภิปราย ซึ่งนายชวนไม่เห็นด้วย แต่ก็ปฏิบัติตามเพื่อให้การอภิปรายเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตัวอย่างมันมี ไปหาทางทำเอง แต่เห็นออกมาดาหน้ากันเยอะว่าจะไม่แก้ ไม่แก้ก็ไม่ได้บรรจุ ก็ไม่ใช่เรื่องของผม เรื่องของสส.ฝ่ายรัฐบาล รัฐบาลไม่ได้ไปเกี่ยวข้องด้วย” นายวิสุทธิ์ กล่าว
สำหรับกรณที่นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน งัดเอกสารญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาตั้งกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อพิจารณาผลกระทบการจากสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งมีชื่อของบริษัทเอกชนรายหนึ่งอยู่ด้วยนั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ญัตติในกรรมาธิการฯ กับ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ มันคนละเรื่อง อย่าเอามาปนกัน การที่นายวันนอร์ ตัดสินแบบนี้ ตนมองเห็นว่าสภาเป็นที่ออกกฎหมาย และมีนักฎหมายมากมายก่อนจะถึงนายวันนอร์ เชื่อว่าเขาได้พิจารณาดีแล้ว ถูกต้องแล้วนายวันนอร์ถึงได้ส่งญัตติกลับไปหาฝ่ายค้าน ถ้าไม่แก้ก็แล้วแต่ รัฐบาลพร้อมอยู่แล้ว นายกรัฐมนตรีเตรียมอย่างดีที่จะมาตอบ
ส่วนที่ฝ่ายค้านมองว่ารัฐบาลพยายามจะเตะถ่วงเพื่อไม่ให้เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ นายวิสุทธิ์ ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลเลย เป็นเรื่องของฝ่ายค้านกับประธานสภา ซึ่งก็เห็นดาหน้าออกมาว่าจะไม่ยอมแก้เด็ดขาด ตนมองว่าหากออกมาแรงๆ แบบนี้เดี๋ยวจะไม่มีทางลง ถ้าลงไม่ได้ก็บอกตนเดี๋ยวจะเอาบันไดไปให้ เหมือนกับตอนอภิปรายญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่อภิปราย 2 วัน สุดท้ายก็แก้ไม่ได้ อันนี้ก็ยังจะไปอีก ซึ่งถ้านายวันนอร์ไม่บรรจุมันก็อภิปรายไม่ได้ ซึ่งอาจมองว่าต้องการแก้เก้อ โดยสมัยการประชุมนี้เหลืออีกประมาณ 30 วัน หากยังไม่ได้สามารถยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ในสัปดาห์นี้ก็อาจหวุดหวิด หรือ เปิดอภิปรายไม่ทัน แต่ก็ไม่เกี่ยวกับพวกตนเป็นเรื่องของฝ่ายค้านล้วนๆ ที่ต้องกลับไปแก้ไขญัตติเอง
ส่วนเรื่องการกำหนดจำนวนอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ตามกติกามารยาทหลังจากประธานสภาบรรจุเรื่องเข้าสู่ระเบียบวาระ ก็จะเรียก 3 ฝ่ายมาเจรจากัน แต่ยังไม่ถึงวันนั้นเขาก็ประกาศว่า 5 วัน ตนไม่ได้ใจแคบ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะเจรจากัน
เมื่อถามว่ามองเจตนาของฝ่ายค้านอย่างไรที่ต้องการคงชื่อของนายทักษิณ ชินวัตร ไว้ในญัตติ นายวิสุทธิ์ ตั้งข้อสังเกตุว่า ฝ่ายค้านต้องการอภิปรายไม่ไว้วางใจจริงหรือไม่ สงสัยว่าต้องการให้เรื่องคาอยู่อย่างนี้มีข้อมูลจริงหรือไม่ รู้อยู่แล้วว่าถ้าไม่แก้ไขก็อภิปรายไม่ได้ จึงเป็นเรื่องของฝ่ายค้านและประธานจะต้องไปแก้ไข ตนและรัฐบาลไม่ได้เข้าไปแทรกแซง รู้แค่ว่าท่านส่งคืนเท่านั้น ซึ่งทางออกก็คงต้องทำตามคำวินิจฉัยของประธาน
ส่วนที่ฝ่ายค้านมองว่านายวันนอร์ ใช้อำนาจโดยมิชอบที่สั่งให้ตัดชื่อนายทักษิณ ออกจากญัตติ และจะไปฟ้องร้องต่อศาลนั้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ก็สามารถทำได้ เชิญตามสบาย แต่เชื่อว่าก่อนที่นายวันนอร์ก่อนจะตัดสินใจเช่นนี้น่าจะหารือกับฝ่ายกฎหมายมาอย่างดีแล้ว คงไม่ใช่คิดจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ด้วยตัวเอง พร้อมกันนี้ประธานวิปรัฐบาล ยืนยันว่า ไม่ได้ออกมาปกป้องนายทักษิณ แต่แค่อยากให้ทำตามระเบียบ ทำตามระบบของรัฐสภาเสียก่อน เมื่อไม่ทำแล้วไปพูดนอกสภาใครจะไปกลัวคุณ หากบรรจุเข้าระเบียบวาระก็อภิปรายได้เต็มที่ รัฐบาลพร้อมจะตอบทุกเรื่อง ไม่ได้กังวลอะไรเลย ไม่ได้จะปกป้องใคร ซึ่งประธานสภาทำหน้าที่เป็นกลาง และไม่ใช่คนของพรรคตน และส่วนตัวก็ไม่มีเบอร์ติดต่อนายวันนอร์ ไม่เคยคุยกันเป็นการส่วนตัว เป็นคำวินิจฉัยของท่านเอง ไม่เกี่ยวกับพวกตน หรือรัฐบาลเลย.-319.-สำนักข่าวไทย