กรุงเทพฯ 16 ก.ย.- รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคม ในฐานะประธาน กบร. เร่งผลักดันการออกระเบียบ ใบอนุญาตโดรนขนาดใหญ่ เพื่อการเกษตร โดยจะดำเนินการในแล้วเสร็จในเดือนตุลาคมนี้ พร้อมมอบหมาย CAAT เตรียมความพร้อมเปิดประเทศ ตามกรอบเวลา 120 วัน ของรัฐบาล
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานกรรมการการบินพลเรือน หรือ กบร. กล่าวภายหลังการประชุมว่า สำหรับความคืบหน้า กรณีที่ กบร. ได้มอบหมายให้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ CAAT เร่งรัดแก้ไขกฎระเบียบการอนุญาตโดรนขนาดใหญ่ ที่น้ำหนักเกิน 25 กิโลกรัมขึ้นไป ที่มีวัตถุประสงค์การใช้งานเพื่อการเกษตร ซึ่งก่อนหน้านี้มีผู้ยื่นขออนุญาตเข้ามาเป็นจำนวนมาก ภายในเดือนนี้ CAAT จะทยอยขอความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้ผู้ยื่นขออนุญาตที่มีความพร้อมสามารถใช้โดรนเพื่อการเกษตรได้อย่างถูกกฎหมายภายในเดือนตุลาคม 2564
นอกจากนี้ ประธาน กบร. ยังได้มอบนโยบายให้ CAAT ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมการรองรับนโยบายการเปิดประเทศใน 120 วันของรัฐบาล ซึ่งในเดือนตุลาคมนี้ถือเป็นการเปิดครั้งใหญ่ที่สุดทั้งเฟส 2 และเฟส 3 รวม 26 จังหวัด รองรับการท่องเที่ยวทั้งของคนไทย และต่างชาติกระจายไปยังทุกภูมิภาคของประเทศ ประกอบกับเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว (High Season) อีกด้วย โดยให้นำบทเรียนจากโครงการแซนด์บ็อกซ์ที่เปิดก่อนหน้ามาปรับปรุงแก้ไข และเร่งดำเนินการตามนโยบายการบินวิถีใหม่ (New Normal) ที่จะมีการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาใช้ในกิจการการบินให้สามารถนำมาเริ่มใช้ได้โดยเร็ว รวมทั้งยังได้มอบนโยบายให้ CAAT เป็นศูนย์กลางดำเนินการร่วมกับกระทรวงคมนาคม ในการประสานงานและเตรียมการเพื่อให้บุคลากรทางการบิน ซึ่งปฏิบัติงานสัมผัสใกล้ชิดโดยตรงกับผู้โดยสาร ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อให้มีความพร้อมสำหรับการปฏิบัติการบิน โดยเฉพาะในช่วงการเปิดประเทศในเดือนตุลาคมนี้ด้วย
ประธาน กบร. ยังได้แสดงความห่วงใยต่อการอยู่รอดของสายการบินสัญชาติไทย ซึ่งประสบปัญหาวิกฤต มาอย่างต่อเนื่อง จึงให้ CAAT เร่งรัดดำเนินการเพื่อให้มีข้อมูลวิเคราะห์เชิงลึกถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจมหภาค และการสูญเสียความสามารถด้านกิจการการบินของประเทศ โดยเฉพาะเมื่อสถานการณ์กลับมาเป็นปกติ ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในช่วงปี 2568 เป็นต้นไป เพื่อเสนอข้อมูลต่อคณะรัฐมนตรี พิจารณาให้ความช่วยเหลือสายการบินให้ได้รับเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) โดยเร็ว
นอกจากนี้ที่ประชุม กบร. ยังเน้นย้ำให้ CAAT เร่งรัดดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่องที่ได้รับจากการตรวจประเมินตามโครงการยกระดับมาตรฐานการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยตามการประเมินความปลอดภัยการบินระหว่างประเทศ (IASA: International Aviation Safety Assessment) ขององค์การบริหารการบินแห่งสหรัฐอเมริกา (FAA) โดยมีเป้าหมายเดิมคือเพื่อยกระดับประเทศไทยกลับคืนสู่ Category 1 ภายในปี 2564 ซึ่งการกลับสู่ Category 1 จะทำให้ไทยอยู่ในกลุ่มประเทศ ที่ระบบการกำกับดูแลความปลอดภัย การบินพลเรือนเป็นไปตามมาตรฐานของ FAA IASA ซึ่งจะส่งผลดีให้สายการบินของไทยบินตรงไปยังสหรัฐฯ ได้ และทำการบินร่วมได้ตามปกติ (Code Sharing) รวมถึงยังจะส่งผลต่อการขอเพิ่มจำนวนเที่ยวบินจากไทย ไปยังประเทศอื่นที่ยึดถือผลประเมินของ FAA ด้วย เช่น เกาหลีใต้ เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย