ปตท.กำไรไตรมาส 2/64 กว่า 2.45 หมื่นล้านบาท

กรุงเทพ​ฯ 11 ส.ค. – ปตท.กำไรไตรมาส 2/64 กว่า 2.45 หมื่นล้านบาท พุ่งขึ้นเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 63 ประเมิน “เดลตา” กดดันเศรษฐ​กิจครึ่งปีหลัง คาดราคาน้ำมันดิบยังพุ่งขึ้น ไตรมาส 3 แตะระดับ 72.0 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/64 ที่ระดับ 66.9 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล


นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2564 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 24,578.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 104% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 12,053.29 ล้านบาท เนื่องจาก ปตท. และบริษัทย่อยมี EBITDA เพิ่มขึ้น 58,958 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 100% มาจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น โดยเฉพาะธุรกิจปิโตรเคมีที่มีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก ตามส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีกับวัตถุดิบทั้งสายโอเลฟินส์และอะโรเมติกส์ที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงธุรกิจการกลั่นที่ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้มีกำไรสตอกน้ำมันที่เพิ่มขึ้นประมาณ 7,000 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่ากำไรขั้นต้นจากการกลั่น (Market GRM) ทรงตัวที่ 1.6 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลให้กำไรขั้นต้นจากการกลั่นรวมผลกระทบจากสตอกน้ำมัน (Accounting GRM) ปรับเพิ่มขึ้นจากขาดทุน 1.6 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ในไตรมาส 2/2563 เป็นกำไร 4.4 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ในไตรมาส 2/2564

ส่วนของธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม มีผลการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นจากปริมาณขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น โดยหลักจากโครงการโอมาน แปลง 61 จากการเข้าซื้อธุรกิจตามกล่าวข้างต้น และราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีผลการดำเนินงานดีขึ้น โดยหลักจากราคาขายเฉลี่ยที่อ้างอิงราคาปิโตรเคมีและปริมาณขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจโรงแยกก๊าซธรรมชาติ และจากปริมาณขายก๊าซฯ และราคาขายลูกค้าอุตสาหกรรมที่อ้างอิงราคาน้ำมันเตาที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจจัดหาและจัดจำหน่ายก๊าซฯ


นอกจากนี้ ธุรกิจน้ำมันมีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากกำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นตามราคาขายเฉลี่ยและปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น

ส่วนผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรก 2564 ปตท.มีกำไรสุทธิ 57,166.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 10,498.93 ล้านบาท เป็นผลจาก EBITDA ที่เพิ่มขึ้น และมีการรับรู้รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำตามสัดส่วนของ ปตท. โดยหลักจากการรับรู้กำไรจากการซื้อธุรกิจในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรมของโครงการโอมาน แปลง 61 ประมาณ 7,000 ล้านบาท สุทธิกับการตัดจำหน่ายสินทรัพย์ที่เกิดจากการสำรวจและประเมินค่าบางส่วนของโครงการสำรวจปิโตรเลียมในประเทศบราซิล ประมาณ 2,900 ล้านบาท ของ ปตท.สผ. และการรับรู้ขาดทุนจากการด้อยค่าเงินลงทุนในการร่วมค้าของ PTTGC ประมาณ 1,500 ล้านบาท

ส่วนแนวโน้มในไตรมาส 3/2564 เศรษฐกิจโลกคาดว่าจะขยายตัวชะลอลงจากไตรมาส 2/2564 จากการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตา ที่อาจนําไปสู่การดําเนินมาตรการ Lockdown อีกครั้ง แม้ไม่เข้มงวดเท่าในไตรมาส 2/2563 ท่ามกลางการเร่งฉีดวัคซีนเป็นวงกว้าง แต่เศรษฐกิจโลกยังคงมีความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่อาจรุนแรงขึ้นจากการกลายพันธุ์ของไวรัส ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิผลของวัคซีนลดลง การกระจายวัคซีนที่อาจล่าช้าและไม่ทั่วถึง และการถอนมาตรการพยุงเศรษฐกิจของภาครัฐเร็วเกินไป


เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/2564 คาดว่าจะหดตัวลงจากไตรมาส 2/2564 โดยการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนคาดว่าจะหดตัว ท่ามกลางการระบาดใหม่ของ COVID-19 สายพันธุ์เดลตา ที่สามารถแพร่กระจายเชื้อได้รวดเร็ว จนทําให้รัฐบาลจําเป็นต้องยกระดับความเข้มข้นของมาตรการควบคุมโรค เช่น การประกาศ Lockdown ในหลายพื้นที่ สําหรับภาคการท่องเที่ยว ยังคงถูกกดดันจากจํานวนผู้ติดเชื้อในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่าจะเริ่มมีการเปิดพื้นที่นําร่องเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ เช่น “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” และ “สมุย พลัส โมเดล” แล้วก็ตาม ขณะที่การส่งออกคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องตามเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวจากการเร่งฉีดวัคซีน เช่นเดียวกับการใช้จ่ายภาครัฐที่คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องจากงบประมาณบางส่วนของ พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท และงบประมาณในส่วนที่เหลือของวงเงินกู้เดิมตาม พ.ร.ก. 1 ล้านล้านบาท ส่งผลให้รัฐบาลสามารถออกมาตรการพยุงเศรษฐกิจเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยยังมีปัจจัยเสี่ยงจากสถานการณ์การระบาดทั้งในและต่างประเทศ ที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นจากการกลายพันธุ์ของไวรัส การฉีดวัคซีนในประเทศที่ล่าช้ากว่าแผน ความไม่แน่นอนของแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และโอกาสผิดชําระหนี้ของภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนที่สูงขึ้น

ส่วนความต้องการใช้น้ำมันของโลก ในไตรมาส 3/2564 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล/วัน ไปอยู่ที่ระดับ 99 ล้านบาร์เรล/วัน จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศจีน สหรัฐอเมริกา และยุโรป สําหรับราคาน้ำมันดิบในไตรมาส 3/2564 คาดว่าเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 72.0 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2564 ที่ระดับ 66.9 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ปัจจัยสนับสนุนจากอุปสงค์น้ำมันโลกที่ทยอยปรับเพิ่มขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบกับอุปทานของกลุ่ม OPEC+ ที่จะปรับเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบในปี 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 63-68 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และค่าการกลั่นอ้างอิงสิงคโปร์ คาดว่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.0-2.5 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ทั้งสายโอเลฟินส์และอะโรเมติกส์ ในไตรมาส 3/2564 มีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากอุปทานที่เพิ่มขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทั่วโลก. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมสึก คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

15 พ.ค.- เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมลาสิกขาด้วยตัวเอง หลังถูกเค้นสอบนานกว่า 8 ชม. เบื้องต้นยอมให้การแล้ว คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ช่วงหนึ่งของการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อุ้มพระพุทธรูป ปางสมาธิองค์สีดำ ถือเข้าไปไปยังห้องสอบสวนที่สอบปากคำพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เจ้าคณะภาค 14 สังเกตพบว่ามีการนำพระพุทธรูปวางไว้บนโต๊ะบริเวณด้านหน้าของ พระธรรมวชิรานุวัตร โดยมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า พระธรรมวชิรานุวัตร ยอมทำพิธีลาสิกขาบทด้วยตัวเอง แต่ยังไม่เริ่มพิธีเนื่องจากรอชุดเสื้อผ้าเปลี่ยนหลังทำพิธีลาสิกขาบทแล้วเสร็จ ส่วนการสอบปากคำ เบื้องต้นทางพระธรรมวชิรานุวัตร ยอมให้การกับพนักงานสอบสวนแล้ว และให้การไปในทิศทางที่ดี ซึ่งปรากฏว่าทางพระธรรมวชิรานุวัตร ได้โอนเงินไปให้กับผู้ต้องหาที่ 2 เป็นจำนวนเงินหลักร้อยล้านบาท ในช่วงปี 2564 ซึ่งข้อมูลนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำหาข้อเท็จจริง ว่ามีการทำธุรกรรมด้วยสาเหตุใด แต่พบบางส่วนเข้าไปพัวพันกับเว็บการพนัน .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผนังโรงงานถล่มทับรถยนต์เสียหาย 7 คัน-เจ็บเล็กน้อย 1 คน

ชลบุรี 16 พ.ค. – ผนังอาคารโรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ อ.พานทอง จ.ชลบุรี ถล่มทับรถยนต์ที่จอดอยู่ด้านข้างเสียหายรวม 7 คัน และพนักงานบาดเจ็บเล็กน้อย 1 คน ผนังอาคารพังถล่มที่บริษัทแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ อ.พานทอง จ.ชลบุรี โดยส่วนที่พังเป็นฝาผนังที่ต่อเติมยื่นออกมาของอาคารชั้น 2 ถล่มลงมาทับรถยนต์ที่จอดอยู่ด้านข้าง เสียหายรวม 7 คัน เบื้องต้นมีพนักงานบริษัทเป็นหญิงได้รับบาดเจ็บ 1 คน บริษัทนำส่งโรงพยาบาล สอบถามพนักงานบริษัทเล่าว่า ได้ยินเสียงตึ้มเลยพากันวิ่งออกมา ตอนแรกนึกว่าเสียงฟ้า โดยตรงนั้นเป็นอาคารฝ่ายบุคคล จะไม่มีคนไปนอน ด้านผู้กำกับการ สภ.พานทอง เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย วิศวกรบริษัทเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว และบริษัททำประกันภัยไว้ คงไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งต้องประเมินความเสียหายทั้งอาคารและรถยนต์ที่เสียหาย เพื่อชดใช้ตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

นายกฯ ร่วมพิธีวางพวงมาลาอนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน

เวียดนาม 16 พ.ค.-นายกฯ ร่วมพิธีวางพวงมาลาอนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน รวมทั้งสุสานโฮจิมินห์ เน้นย้ำไทยให้ความสำคัญประวัติศาสตร์และมิตรภาพกับเวียดนาม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานสำคัญที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของนักปฏิวัติผู้เสียสละชีวิต เมื่อปี ค.ศ. 1940 ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของขบวนการต่อสู้ของเวียดนามภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ โดยตั้งอยู่บนถนนบั๊กเซิน (Bạch Sơn Street) ในพื้นที่ใกล้กับจัตุรัสบาดิ่งห์ โดยออกแบบในสไตล์ศิลปะสังคมนิยม ที่ประกอบด้วยกลุ่มรูปปั้นนักรบปฏิวัติ แสดงถึงความกล้าหาญและความสามัคคีของนักต่อสู้เพื่อเอกราชของเวียดนาม หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางต่อไปยังสุสานโฮจิมินห์ ตั้งอยู่ที่จัตุรัสบาดิ่งห์ สถานที่ซึ่งอดีตผู้นำโฮจิมินห์เคยอ่านคำประกาศเอกราชของเวียดนามในปี ค.ศ.1945 ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมทรงอนุสรณ์สถาน โดยใช้หินอ่อนและหินแกรนิตคุณภาพสูง ผสมผสานระหว่างศิลปะสังคมนิยม กับเอกลักษณ์เวียดนาม โดยโฮจิมินห์เป็นบุคคลสำคัญของเวียดนาม ผู้ได้รับการยกย่องในฐานะ “บิดาแห่งชาติ” ที่นำพาประเทศสู่การประกาศเอกราช และเป็นผู้ประกาศก่อตั้งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ทั้งนี้ การเข้าร่วมพิธีวางพวงมาลา ณ สถานที่สำคัญของเวียดนามครั้งนี้ แสดงถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและเวียดนาม ตลอดจนการให้ความสำคัญต่อประวัติศาสตร์และการเมืองของประเทศพันธมิตรที่สำคัญของไทยอย่างเวียดนาม จากนั้น เวลา 10.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะจะเข้าร่วมประชุมหารือทวิภาคีกลุ่มเล็ก กับนายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ณ ทำเนียบรัฐบาล.-314.-สำนักข่าวไทย

“เปรมชัย” นั่งวีลแชร์ เข้ามอบตัว กรณีตึกกำลังสร้าง สตง. ถล่ม

กทม. 16 พ.ค.-“เปรมชัย” ผู้บริหารบริษัทอิตาเลียนไทย นั่งวีลแชร์ เข้ามอบตัวพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ กรณีตึกกำลังสร้าง สตง. ถล่ม ด้านวิศวกร ผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง ทยอยเข้ามอบตัวเช่นกัน เวลา 08.00 น. นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้ประมูลโครงการก่อสร้างหลัก อาคาร สตง.แห่งใหม่ ซึ่งพังถล่มเมื่อวันที่ 28 มีนาคม จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ฐาน “เป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแซมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นๆ โดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย” อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 227 , 238 นายเปรมชัย นั่งวีลแชร์ มีพยาบาลส่วนตัวประกบ เดินทางมาที่ สน.บางซื่อ พร้อมทนายความและญาติ เพื่อเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้บริหารบริษัทกิจการร่วมค้า รวมถึงกลุ่มวิศวกร อีก 13 […]