fbpx

ปตท.กำไรไตรมาส 2/64 กว่า 2.45 หมื่นล้านบาท

กรุงเทพ​ฯ 11 ส.ค. – ปตท.กำไรไตรมาส 2/64 กว่า 2.45 หมื่นล้านบาท พุ่งขึ้นเท่าตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 63 ประเมิน “เดลตา” กดดันเศรษฐ​กิจครึ่งปีหลัง คาดราคาน้ำมันดิบยังพุ่งขึ้น ไตรมาส 3 แตะระดับ 72.0 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/64 ที่ระดับ 66.9 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล


นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2564 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 24,578.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 104% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 12,053.29 ล้านบาท เนื่องจาก ปตท. และบริษัทย่อยมี EBITDA เพิ่มขึ้น 58,958 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 100% มาจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น โดยเฉพาะธุรกิจปิโตรเคมีที่มีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก ตามส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีกับวัตถุดิบทั้งสายโอเลฟินส์และอะโรเมติกส์ที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงธุรกิจการกลั่นที่ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้มีกำไรสตอกน้ำมันที่เพิ่มขึ้นประมาณ 7,000 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่ากำไรขั้นต้นจากการกลั่น (Market GRM) ทรงตัวที่ 1.6 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลให้กำไรขั้นต้นจากการกลั่นรวมผลกระทบจากสตอกน้ำมัน (Accounting GRM) ปรับเพิ่มขึ้นจากขาดทุน 1.6 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ในไตรมาส 2/2563 เป็นกำไร 4.4 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ในไตรมาส 2/2564

ส่วนของธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม มีผลการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นจากปริมาณขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น โดยหลักจากโครงการโอมาน แปลง 61 จากการเข้าซื้อธุรกิจตามกล่าวข้างต้น และราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีผลการดำเนินงานดีขึ้น โดยหลักจากราคาขายเฉลี่ยที่อ้างอิงราคาปิโตรเคมีและปริมาณขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจโรงแยกก๊าซธรรมชาติ และจากปริมาณขายก๊าซฯ และราคาขายลูกค้าอุตสาหกรรมที่อ้างอิงราคาน้ำมันเตาที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจจัดหาและจัดจำหน่ายก๊าซฯ


นอกจากนี้ ธุรกิจน้ำมันมีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากกำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นตามราคาขายเฉลี่ยและปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น

ส่วนผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรก 2564 ปตท.มีกำไรสุทธิ 57,166.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 10,498.93 ล้านบาท เป็นผลจาก EBITDA ที่เพิ่มขึ้น และมีการรับรู้รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำตามสัดส่วนของ ปตท. โดยหลักจากการรับรู้กำไรจากการซื้อธุรกิจในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรมของโครงการโอมาน แปลง 61 ประมาณ 7,000 ล้านบาท สุทธิกับการตัดจำหน่ายสินทรัพย์ที่เกิดจากการสำรวจและประเมินค่าบางส่วนของโครงการสำรวจปิโตรเลียมในประเทศบราซิล ประมาณ 2,900 ล้านบาท ของ ปตท.สผ. และการรับรู้ขาดทุนจากการด้อยค่าเงินลงทุนในการร่วมค้าของ PTTGC ประมาณ 1,500 ล้านบาท

ส่วนแนวโน้มในไตรมาส 3/2564 เศรษฐกิจโลกคาดว่าจะขยายตัวชะลอลงจากไตรมาส 2/2564 จากการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตา ที่อาจนําไปสู่การดําเนินมาตรการ Lockdown อีกครั้ง แม้ไม่เข้มงวดเท่าในไตรมาส 2/2563 ท่ามกลางการเร่งฉีดวัคซีนเป็นวงกว้าง แต่เศรษฐกิจโลกยังคงมีความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่อาจรุนแรงขึ้นจากการกลายพันธุ์ของไวรัส ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิผลของวัคซีนลดลง การกระจายวัคซีนที่อาจล่าช้าและไม่ทั่วถึง และการถอนมาตรการพยุงเศรษฐกิจของภาครัฐเร็วเกินไป


เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/2564 คาดว่าจะหดตัวลงจากไตรมาส 2/2564 โดยการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนคาดว่าจะหดตัว ท่ามกลางการระบาดใหม่ของ COVID-19 สายพันธุ์เดลตา ที่สามารถแพร่กระจายเชื้อได้รวดเร็ว จนทําให้รัฐบาลจําเป็นต้องยกระดับความเข้มข้นของมาตรการควบคุมโรค เช่น การประกาศ Lockdown ในหลายพื้นที่ สําหรับภาคการท่องเที่ยว ยังคงถูกกดดันจากจํานวนผู้ติดเชื้อในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่าจะเริ่มมีการเปิดพื้นที่นําร่องเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ เช่น “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” และ “สมุย พลัส โมเดล” แล้วก็ตาม ขณะที่การส่งออกคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องตามเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวจากการเร่งฉีดวัคซีน เช่นเดียวกับการใช้จ่ายภาครัฐที่คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องจากงบประมาณบางส่วนของ พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท และงบประมาณในส่วนที่เหลือของวงเงินกู้เดิมตาม พ.ร.ก. 1 ล้านล้านบาท ส่งผลให้รัฐบาลสามารถออกมาตรการพยุงเศรษฐกิจเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยยังมีปัจจัยเสี่ยงจากสถานการณ์การระบาดทั้งในและต่างประเทศ ที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นจากการกลายพันธุ์ของไวรัส การฉีดวัคซีนในประเทศที่ล่าช้ากว่าแผน ความไม่แน่นอนของแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และโอกาสผิดชําระหนี้ของภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนที่สูงขึ้น

ส่วนความต้องการใช้น้ำมันของโลก ในไตรมาส 3/2564 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.3 ล้านบาร์เรล/วัน ไปอยู่ที่ระดับ 99 ล้านบาร์เรล/วัน จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศจีน สหรัฐอเมริกา และยุโรป สําหรับราคาน้ำมันดิบในไตรมาส 3/2564 คาดว่าเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 72.0 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2564 ที่ระดับ 66.9 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ปัจจัยสนับสนุนจากอุปสงค์น้ำมันโลกที่ทยอยปรับเพิ่มขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบกับอุปทานของกลุ่ม OPEC+ ที่จะปรับเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยคาดว่าราคาน้ำมันดิบในปี 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 63-68 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และค่าการกลั่นอ้างอิงสิงคโปร์ คาดว่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.0-2.5 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

ราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ทั้งสายโอเลฟินส์และอะโรเมติกส์ ในไตรมาส 3/2564 มีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากอุปทานที่เพิ่มขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทั่วโลก. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชี้อิสราเอล-อิหร่านส่งสัญญาณหาทางถอยจากสงคราม

เยรูซาเล็ม 19 เม.ย.- สื่ออิสราเอลมองว่า การที่อิหร่านพยายามปฏิเสธว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิหร่านวันนี้ไม่ใช่การโจมตีแก้แค้นของอิสราเอล และการที่อิสราเอลยังคงนิ่งเฉยไม่ออกตัวว่าเป็นผู้กระทำ เป็นการส่งสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงครามในขณะที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น เว็บไซต์ไทมส์ออฟอิสราเอลรายงานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันจากทางการอิสราเอลว่า ได้โจมตีอิหร่านในเช้าวันนี้ ขณะที่สื่อทางการอิหร่านรายงานเพียงว่า มีการเปิดใช้งานระบบป้องกันภัยทางอากาศ และปฏิเสธรายงานข่าวเรื่องมีการโจมตีที่ตั้งทางทหารในเมืองอิสฟาฮาน ที่อยู่ห่างจากกรุงเตหะรานลงไปทางใต้ 315 กิโลเมตร โดยระบุว่าเหตุการณ์ปกติ แต่เจ้าหน้าที่อิสราเอลและสหรัฐที่ขอสงวนนามเผยกับสื่อในสหรัฐว่า เป็นฝีมือของอิสราเอล หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐอ้างแหล่งข่าวอิหร่าน 3 คนว่า ฐานทัพอากาศในเมืองอิสฟาฮานถูกโจมตีแต่ไม่มีข้อมูลเรื่องความเสียหาย ไทมส์ออฟอิสราเอลมองว่า ลักษณะของการโจมตีอย่างจำกัด ซึ่งมีรายงานว่าเป็นการใช้โดรน ไม่ใช่ขีปนาวุธหรือปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ประกอบกับการที่อิสราเอลไม่ได้ยอมรับอย่างเป็นทางการ น่าจะเปิดทางให้รัฐบาลอิหร่านสามารถปฏิเสธเรื่องความจำเป็นที่จะต้องขู่โจมตีอิสราเอลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากระดมยิงขีปนาวุธและโดรนมากกว่า 300 ลูกใส่อิสราเอลเมื่อเช้ามืดวันที่ 14 เมษายนตามเวลาอิสราเอล เป็นสัญญาณเบื้องต้นว่า ทั้ง 2 ประเทศอาจกำลังหาทางล่าถอยจากการทำสงคราม ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า อิสราเอลจะแก้แค้นอิหร่านตามที่แสดงท่าทีมาตลอดทั้งสัปดาห์ว่า จะไม่ยอมปล่อยให้อิหร่านโจมตีโดยไม่ตอบโต้ จุดกระแสวิตกว่า การโจมตีตอบโต้กันไปมาจะบานปลายกลายเป็นสงครามเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดี มีสัญญาณว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอลได้ลดความุรนแรงของแผนการโจมตีตามที่นานาชาติกดดันให้ใช้ความอดกลั้น.-814.-สำนักข่าวไทย  

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาในแท็งก์น้ำ ดาดฟ้าหอพัก

ผงะ! พบศพหนุ่มเมียนมาสภาพเปลือย ในแท็งก์น้ำบนดาดฟ้าหอพัก ย่านมีนบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน คาดลงไปเล่นน้ำคลายร้อน

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

ข่าวแนะนำ

ชาวเมียนมาหนีภัยข้ามมาฝั่งไทยต่อเนื่องกว่า 1,200 คน

เมียนมาใช้เฮลิคอปเตอร์ติดปืนกล พร้อมส่ง MiG-29 ถล่มฝ่ายต่อต้าน ทำประชาชนเมียนมาหนีภัย ข้ามมาฝั่งไทย ต่อเนื่องกว่า 1,200 คน

เอกวาดอร์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพราะวิกฤตพลังงาน

อกวาดอร์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันศุกร์ โดยเป็นการประกาศเพราะวิกฤตพลังงานที่ทำให้ประเทศในอเมริกาใต้แห่งนี้ต้องใช้มาตรการปันส่วนพลังงาน

ฝ่ายต่อต้านรุกหนัก ถล่มทหารเมียนมาตั้งแต่เช้ามืด

ฝ่ายต่อต้าน รุกหนักถล่มทหารเมียนมา ฐานพัน.ร.275 ฝั่งตรงข้าม อ.แม่สอด ตั้งแต่เช้ามืด ทำประชาชนเมียนมา หลบหนีการสู้รบเข้าฝั่งไทยแล้วกว่า 200 คน

“ทวี ไกรคุปต์” อดีตนักการเมืองดัง เสียชีวิตแล้ว

“ไพศาล พืชมงคล” โพสต์แสดงความอาลัยการจากไปของ “ทวี ไกรคุปต์” อดีตนักการเมืองดัง และบิดาของ “เอ๋-ปารีณา”