กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไอเน็ต (INETREIT) เข้าเทรดวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นักลงทุนให้การตอบรับดี ชูศักยภาพทรัพย์สินโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 อยู่ในธุรกิจแห่งอนาคตที่ได้รับประโยชน์จากยุคดิจิทัล ประมาณการผลตอบแทนปีแรก 8.96%
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท.ต้อนรับ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไอเน็ต เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “INETREIT” ในวันที่ 9 สิงหาคม 2564
INETREIT ลงทุนในกรรมสิทธิอาคารและอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับการดำเนินงานของ Data Center INET-IDC3 เฟส 1 และสิทธิการเช่าที่ดินที่เป็นที่ตั้งของอาคารควบคุมสถานีไฟฟ้าย่อย (Substation) ที่อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี โดยให้เช่าแก่ บมจ. อินเทอร์เน็ตประเทศไทย (INET) เพียงรายเดียว ระยะเวลา 25 ปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2588 เพื่อให้ INET นำไปให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าหลักได้แก่ หน่วยงานรัฐบาล ธุรกิจธนาคาร และธุรกิจ ICT ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 มีอัตราการเช่า Rack ของลูกค้าประมาณ 65%
นางสาวพรวิสาข์ มังกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอเน็ต รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ เปิดเผยว่า รู้สึกยินดีที่ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไอเน็ตหรือ INET Leasehold Real Estate Investment Trust (INETREIT) ได้รับความสนใจและการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน ด้วยจุดเด่นที่เป็นกองทรัสต์กองแรกในไทยที่เข้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีในประเทศไทย ซึ่งเป็นธุรกิจที่เป็นเทรนด์แห่งอนาคตที่จะได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล
ทั้งนี้ กองทรัสต์ INETREIT มีมูลค่าการลงทุนครั้งแรก 4,300 ล้านบาท ซึ่งมาจากการเสนอขายหน่วยทรัสต์ รวมทั้งสิ้น 3,300 ล้านบาท และเงินกู้ยืมระยะยาวอีก 1,000 ล้านบาท โดยกองทรัสต์ INETREIT ได้รับการตอบรับอย่างคึกคักจากนักลงทุนในช่วงที่เสนอขายหน่วยทรัสต์และปิดการจองซื้อได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของกองทรัสต์และทรัพย์สินโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 จังหวัดสระบุรี ที่มีความทันสมัยระดับโลก มีมาตรฐานด้านความปลอดภัยในการจัดเก็บข้อมูลสูง และตั้งอยู่โลเคชั่นที่มีความเสี่ยงต่ำในการเกิดภัยพิบัติ จึงได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าเข้าใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
“ต้องขอขอบคุณนักลงทุนที่ให้ความสนับสนุนในกองทรัสต์ INETREIT แม้ว่าจะมีปัจจัยเข้ามากดดันบรรยากาศการลงทุน เนื่องจากกองทรัสต์ INETREIT จะได้รับปัจจัยบวกจากการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานและจัดเก็บข้อมูลสู่ดิจิทัล (ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น) ของภาครัฐและเอกชน ส่งผลดีต่อโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 ที่คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ในระบบคลาวด์” นางสาวพรวิสาข์ กล่าว
สำหรับกองทรัสต์ INETREIT จะปล่อยเช่าทรัพย์สินดังกล่าวแก่ INET เพียงรายเดียวตลอดระยะเวลาการเช่า โดยเป็นค่าเช่าคงที่ และมีข้อตกลงปรับขึ้นค่าเช่าปีละ 1 ครั้ง ในอัตราร้อยละ 2 ต่อปี ซึ่งจะทำให้กองทรัสต์มีรายได้มั่นคงและเติบโตอย่างสม่ำเสมอ ขณะที่ผลการดำเนินงานปี 2561 – 2563 ของโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 จังหวัดสระบุรี ก็มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยปัจจุบันโครงการ INET-IDC3 เฟส 1 มีฐานลูกค้าที่ใช้บริการจากหลายภาคส่วน ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 มีสัดส่วนลูกค้าที่เป็นหน่วยงานรัฐบาล 38.8% และภาคเอกชนในหลากหลายธุรกิจ เช่น ธุรกิจธนาคาร 24.01% ธุรกิจเทคโนโลยีไอที 13% ธุรกิจพาณิชย์ 10.99% เป็นต้น จึงมีการกระจายตัวของลูกค้าที่หลากหลาย เสริมสร้างความมั่นคงของรายได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ กองทรัสต์ประมาณการผลตอบแทนที่จะได้รับในปีแรกอยู่ที่ 8.96% ตามประมาณการจ่ายประโยชน์ตอบแทนให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ อ้างอิงตามงบกำไรขาดทุนตามสมมติฐานสำหรับช่วงเวลาประมาณการตั้งแต่ 1 เมษายน 2564 ถึง 31 มีนาคม 2565 และมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 2 ครั้งต่อรอบปีบัญชี ในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้ว . – สำนักข่าวไทย