ชง นบข.ใช้เงินประกันรายได้ปี 3 กว่า 8 หมื่นล้าน ชดเชยข้าวปี 64

นนทบุรี 6 ส.ค. – รัฐมนตรีพาณิชย์เผยหลังประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด ครั้งที่ 1/2564 เห็นชอบแนวทางชดเชยประกันรายได้เกษตรกรข้าวปี 3 เตรียมชงกรอบใช้เงินปีนี้กว่า 80,000 ล้านบาทต่อที่ประชุม นบข.เร็วนี้ หลังราคาข้าวเปลือกปีนี้ต่ำ ย้ำเริ่มมีสัญณาณราคาข้าวไทยจะแข่งขันตลาดโลกได้ เตรียมจับมือเอกชนลุยดันส่งออกข้าวไทยทุกตลาด


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด ครั้งที่ 1/2564 ณ ห้องประชุมกิติยากรวรลักษณ์ ชั้น 4 สํานักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ ประชุมผ่านระบบ Zoom ว่า ที่ประชุมได้ประเมินผลผลิตข้าวปีนี้คาดว่าจะมีผลผลิต 26 ล้านตัน โดยข้าวเปลือกมากกว่าฤดูกาลผลิตที่ผ่านมา 4.58% หรือประมาณ 5% ซึ่งในปีนี้ผลผลิตข้าวจะมีมากขึ้น ดังนั้น จึงต้องเตรียมวงเงินที่จะชดเชยตามโครงการประกันรายได้ปี 3 และได้เตรียมแผนงานประกันรายได้ไว้ในปีนี้จะต้องใช้วงเงินชดเชยประกันรายได้ให้กับเกษตรกรปลูกข้าวทั่วประเทศไว้ไม่ต่ำกว่า 80,000 ล้านบาทที่จะเสนอขอความเห็นชอบต่อประชุมคณะกรรมการคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.)ที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธานอีกครั้งหนึ่งก่อนนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

อย่างไรก็ตาม วงเงินชดเชยประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวครั้งที่ 3 จำนวน 80,000 ล้านบาทนี้ จะสูงกว่าประกันรายได้ครั้งที่ 2 ทีมีกรอบวงเงินอยู่ที่กว่า 49,000 ล้านบาท เนื่องจากคาดการณ์ปริมาณข้าวเปลือกในฤดูกาลใหม่นี้สูงถึงกว่า 26 ล้านตันข้าวเปลือก ประกอบกับราคาข้าวเปลือกเจ้า 5% ขณะนี้มีราคาลดลงกว่าปีที่ผ่านมาเฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 7,700-8,000 บาท ซึ่งราคาในปี 63 อยู่ที่ตันละ 8,700-9,400 บาท ดังนั้น จำเป็นจะต้องเตรียมวงเงินในไว้สูงเพื่อชดเชยให้กับเกษตรกรที่จะได้รับเงินชดเชยตามโครงการประกันรายได้ แต่การรับเงินชดเชยของเกษตรกรจะเป็นไปตามกฤเกณฑ์การได้รับเงินชดเชยตามโครงการประกันรายได้ของรัฐบาลเป็นสำคัญ และหากช่วงเวลาที่ราคาข้าวในตลาดโลกสูงขึ้นการชดเชยประกันรายได้ก็จะลดลงหรืออาจไม่จำเป็นต้องชดเชยรายได้ให้เกษตรกร จึงจำเป็นต้องตั้งวงเงินชดเชยประกันรายได้เกษตรกรข้าวปี 3 ในอัตราที่สูงเกือบเท่าตัวเมื่อเทียบกับประกันรายได้ในครั้งที่ 2


นอกจากนี้ เริ่มมีสัญญาณที่ดีจากการรายงานของกลุ่มสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยขณะนี้ราคาข้าวไทยเมื่อเทียบกับราคาข้าวของประเทศเวียดนามและราคาข้าวอินเดียเริ่มมีราคาไม่แตกต่างกันมากนักที่จะทำให้ข้าวไทยสามารถแข่งขันกับประเทศต่างๆในทั่วโลกได้ ดังนั้น แม้ในช่วง 5-6 เดือนที่ผ่านมาการส่งออกข้าวไทยดูจะมีปริมาณเพียงแค่ 3-4 ล้านตัน แต่ด้วยสัญณาณราคาข้าวไทยจะแข่งขันได้และด้วยอัตราแลกเปลี่ยนโดยเฉพาะเงินบาทออนค่า จึงเหมาะที่ราคาข้าวไทยจะได้รับความนิยมและต้องการในตลาดโลกเพิ่มขึ้น จึงเตรียมกำหนดแผนงานที่จะร่วมมือกับภาคเอกชนที่จะเร่งเดินหน้าทำตลาดข้าวไทยในทุกช่องทางเพื่อให้ข้าวไทยไปในตลาดโลกมากขึ้น พร้อมทั้งภาครัฐโดยกรมการค้าต่างประเทศจะเร่งเจรจาขายข้าวไทยในลักษณะรัฐต่อรัฐกับประเทศต่างๆเช่น จีน บังคลาเทศและอีกหลายประเทศด้วยกัน

อย่างไรก็ตาม ยังมั่นใจว่าการส่งออกข้าวไทยในตลาดโลกปีนี้น่าจะไม่ต่ำกว่า 6 ล้านตัน แม้จะมีอัตราที่น้อยลงเมื่อเทียบกับหลายปีที่ผ่านมาเกิดจากปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้กระทบต่อภาคการส่งออกข้าวไทยในตลาดโลกและปัญหาในด้านการขนส่งสินค้าที่จาดแคลนตู้ขนส่งสินค้าไปตลาดโลก และปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่านาน จึงทำให้การทำตลาดข้าวไทยลดกว่าในปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ โครงการประกันรายได้เกษตรกรปี 3 จะเดินหน้าในหลักการเดียวกัน โดยหากราคาซื้อขายต่ำกว่าราคาประกันรายได้ รัฐบาลก็จะโอนเงินส่วนต่างเข้าบัญชีเกษตรกรผ่านบัญชี ธ.ก.ส.โดยตรง ราคาประกันรายได้สินค้าเกษตร 5 ชนิด คือ ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 10,000 บาท ข้าวหอมมะลิตันละ 15,000 บาท ราคายางแผ่นดิบ 60 บาท ราคาน้ำยางสด 57 บาท ยางก้อนถ้วย กก.ละ 23 บาท มันสำปะหลัง กก.ละ 2.50 บาท ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กก.ละ 8.50 บาท และปาล์มน้ำมัน กก.ละ 4 บาท หากราคาตลาดสูงกว่านี้เกษตรกรได้ประโยชน์ แต่ถ้าราคาตามกลไกตลาดไม่ถึงราคาที่ประกันรายได้ไว้นี้เกษตรกรก็รับเงินส่วนต่างไปโดยเกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 64 ถึง 31 ตุลาคม 64 และภาคใต้ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 64 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 65 และการจ่ายเงินส่วนต่างจะเริ่มต้นตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 65 ส่วนภาคใต้จะเริ่มจ่ายเงินส่วนต่างตั้งแต่เดือนมีนาคม 65 ถึงพฤษภาคม 65


นอกจากนี้ ยังมีมาตรการคู่ขนานที่จะเข้ามาช่วยเสริมเพื่อช่วยเกษตรกรผู้ปลูกข้าวมี 3 มาตรการ มาตรการที่หนึ่ง สนับสนุนให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวชะลอการขาย ในช่วงที่ข้าวออกสู่ตลาดมากเพื่อป้องกันไม่ให้ข้าวราคาตกจนเกินไปโดยเกษตรกรที่ชะลอขายข้าวจะได้รับเงินช่วยเหลือตันละ 1,500 บาท มาตรการที่สอง ช่วยเหลือดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับสหกรณ์หรือสีโรงสีที่เก็บสต๊อกข้าวและไม่ปล่อยออกสู่ตลาด โดนชดเชยดอกเบี้ย 3% มาตรการที่สาม เร่งรัดส่งเสริมการส่งออกข้าว เพื่อระบายข้าวในประเทศเพราะฤดูการผลิตหน้าจะมีเข้าออกสู่ตลาดมากกว่าปีที่ผ่านมาถึงประมาณ 5% จึงมีมาตรการช่วยเหลือให้มีการส่งออกข้าวโดยช่วยดอกร้อยละ 3 เป็นเวลา 6 เดือน ในเดือนตุลาคมปีนี้ถึงเดือนมีนาคมปีหน้าอีกด้วย . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

เริ่มใช้เครื่องจักรหนักเปิดซากอาคาร สตง.ถล่ม

102 ชั่วโมงแล้ว สำหรับปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุอาคาร สตง.ถล่ม หน่วยกู้ภัยจากนานาชาติให้ความหวังว่ายังมีโอกาสเจอผู้รอดชีวิต ทำให้การค้นหาวันนี้ต้องแข่งกับเวลาอย่างเต็มที่

ทองไทยนิวไฮต่อเนื่อง ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 550 บาท

ทองคำไทยผันผวนหนัก ปรับเปลี่ยน 18 ครั้ง ก่อนปิดตลาดปรับเพิ่ม 550 บาท ระหว่างวันขึ้นไปแตะนิวไฮ ทองคำแท่งขายออก 50,700 บาท ทองรูปพรรณขายออก 51,500 บาท ขึ้นไปต่อเนื่อง