กรุงเทพฯ 2 ก.ค. – ปลัดเกษตรฯ ขับเคลื่อนแผนจัดการสินค้าเกษตร ร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ รับซื้อผลผลิตและสนับสนุนพื้นที่จำหน่าย นำร่องต้นแบบความร่วมมือกระทรวงกลาโหม เปิดพื้นทีทหาร ทำเป็นจุดรวบรวม จัดการขนส่ง และจำหน่ายเบ็ดเสร็จ เชิญชวนเกษตรกรนำสินค้าคุณภาพเข้าร่วมโครงการ
นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า เร่งเดินหน้าตามแผนจัดการสินค้าเกษตรในการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ รับซื้อและเปิดจุดจำหน่ายสินค้าเกษตรเพิ่ม เพื่อให้เกษตรกรจำหน่ายผลผลิตได้อย่างต่อเนื่องในสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีต้นแบบที่ลงนามความร่วมมือกับพลเอกณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งจะคัดเลือกพื้นที่เป็นแหล่งรวบรวมผลผลิตทางการเกษตร การจัดการระบบการขนส่ง และการจัดจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรจำหน่ายและกระจายผลผลิตทางการเกษตร (Drop Point) เพื่อให้เกษตรกรมีช่องทางการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพในราคาที่เป็นธรรมเพิ่มมากขึ้น จากนั้นจะขยายความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ ต่อไป
นายทองเปลวกล่าวต่อว่า ตัวอย่างผลผลิตทางการเกษตรที่คาดว่า จะออกมาเป็นจำนวนมากในช่วง 6 เดือนนี้ (กรกฎาคม – ธันวาคม) คือ ผลไม้ได้แก่ ลำไยสด มะม่วงมหาชนก มะม่วงเขียวมรกต แก้วมังกร พืชผักได้แก่ พริก กระเทียม กะหล่ำปลี สินค้าปศุสัตว์ได้แก่ ไข่ไก่ ไข่เป็ด และสินค้าประมงได้ แก่กุ้งขาวแวนนาไม กุ้งก้ามกราม ปลากะพง เป็นต้น
ทั้งนี้กระทรวงกลาโหมยินดีรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรจากเกษตรกร แล้วเปิดจุดจำหน่ายเพื่อให้ข้าราชการทหารและครอบครัว รวมถึงประชาชนมีโอกาสเข้าถึงผลผลิตทางการเกษตรและอาหารที่มีคุณภาพในราคาที่เป็นธรรม อีกทั้งเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีจุดจำหน่ายและกระจายผลผลิตทางการเกษตร โดยจะดำเนินการรวม 42 พื้นที่ ใน 26 จังหวัดครอบคลุมทุกภาค ทั้งในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ โดยให้กรมส่งเสริมการเกษตรเป็นหน่วยงานหลักจัดทำข้อมูลและแผนปฏิบัติการที่จะดำเนินงานร่วมกับกระทรวงกลาโหม และมอบหมายกรมการข้าว กรมปศุสัตว์ กรมหม่อนไหม กรมวิชาการเกษตร และกรมส่งเสริมการเกษตรจัดทำข้อมูลผลผลิตทางการเกษตรทุกชนิดในปี 2564 ที่ประสงค์ให้กระทรวงกลาโหมรับซื้อและจัดจุดจำหน่าย
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า สั่งการให้สำนักงานเกษตรจังหวัด ลงสำรวจความต้องการรับซื้อและความพร้อมของพื้นที่ของกระทรวงกลาโหมในการจัดเป็นจุดจำหน่ายสินค้าเกษตรและกระจายผลผลิตทางการเกษตรเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งจากการสำรวจพื้นที่ในเบื้องต้นมีพื้นที่ที่มีศักยภาพภายใต้หน่วยงานกระทรวงกลาโหมพร้อมให้การสนับสนุนการรับซื้อผลผลิตทางการเกษตร สนับสนุนพื้นที่จำหน่าย และกระจายผลผลิต ได้มีการเตรียมพื้นที่สำหรับดำเนินการไว้ 42 แห่ง ใน 26 จังหวัด ซึ่งจะมีการประสานงานในระดับพื้นที่ต่อไป
กรมส่งสริมการเกษตรมีแนวทางจะร่วมวางแผนกับกระทรวงกลาโหมในการปรับปรุงและพัฒนาพื้นที่โรงงานวัตถุระเบิดทหารกรมการอุตสาหกรมทหาร ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อใช้ประโยชน์สถานที่สร้างเป็นตลาดกลางสินค้าเกษตร เพื่อให้เกษตรกรสามารถนำผลผลิตทางการเกษตรมาวางจำหน่ายได้อย่างถาวร
นายเข้มแข็งกล่าวต่อว่า กรมส่งเสริมการเกษตรจะคัดเลือกสินค้าเกษตรและสินค้าแปรรูปเกษตรที่ได้รับการรับรองมาตรฐานต่าง ๆ เช่น GAP มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ GMP Primary GMP HACCP อย. มาตรฐานอาหารฮาลาล หรือ มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน เป็นต้น เพื่อรับประกันคุณภาพ สำหรับเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรที่ต้องการเข้าร่วมโครงการสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือไปยังสำนักงานเกษตรจังหวัด และสำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ได้โดยตรงอีกด้วย. – สำนักข่าวไทย