ร้องป.ป.ช.สอบส.ป.ก. จ.กาญจนบุรี ออกส.ป.ก. 4-01 ทับที่อุทยานฯไทรโยค

กาญจนบุรี 14 พ.ค. – กรมอุทยานฯ ร้อง ป.ป.ช. สอบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดและส.ป.ก.จังหวัดกาญจนบุรี กับพวกรวม 56 คน มีมติและออกส.ป.ก.4-01 ในป่าธรรมชาติทับอุทยานแห่งชาติไทรโยค ตามพ.รบ.ประกอบรัฐธรรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561


นายหิรัญเศรษฐ์ เหยี่ยวประยูร ผู้อำนวยการสำนักไต่สวนคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ป.ป.ช. พร้อมด้วยนางสาวสุนันทา จำปาเงิน ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดกาญจนบุรีเข้าตรวจสอบที่ดินบ้านพุองกะ ม.4 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ซึ่งครอบครองโดยนายกฤชชาติ (ขอสงวนนามสกุล) เนื้อที่ 45 ไร่ 2 งาน17 ตาราวา โดยได้รับส.ป.ก. 4-01 ที่ออกเมื่อวันที่ 3 ม.ค. 2561 ต่อมาได้เข้าดำเนินคดีและตรวจยึดไม้ป่าหวงห้าม เมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2564 โดยพบไม้อายุร่วม 40 ปี 400 ท่อนในที่ดินแปลงดังกล่าว เมื่อตรวจสอบพื้นที่พบว่า ทับซ้อนกับเขตอุทยานไทรโยค 5 ไร่ 2 งาน 62 ตารางวา

นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และนายสมเจตน์ จันทนา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยคได้ทำบันทึกผลตรวจสอบถึงที่มาการออก ส.ป.ก.ดังกล่าว โดยตรวจดูจากเอกสารบันทึกการนำทำการรังวัดที่ดิน ลว.14 มิ.ย2559 ตรวจดูเอกสารข้อมูลตามคำขอเข้าทำประโยชน์ในเขตปฎิรูปที่ดินลว.20 มิ.ย.2559 ที่นายกฤชชาติฯได้มาแจ้งข้อมูลว่า ตนเองเป็นผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและทำไร่มันสำปะหลังเต็มแปลง โดยมีนายณัฎฐสิทธิ์ รุ่งเรืองเลิศ ช่างสำรวจเป็นผู้รังวัดปักหลักเขตที่ดินในแปลง ส.ป.ก.ดังกล่าว  นายนภนต์ อิ่มเอิบ เจ้าหน้าที่ส.ป.ก.เป็นผู้สอบสวนสิทธิคุณสมบัติความเป็นเกษตรกรของนายกฤชชาติฯ น.ส.มันทนา ศรอารา ผู้ใหญ่บ้านม. 4 ต.ท่าเสา เป็นผู้รับรองการรังวัดปักหลักเขตที่ดินในแปลง ส.ป.ก.ดังกล่าว แต่เมื่อมาตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียมย้อนหลัง ปีพ.ศ. 2559 ในแปลงส.ป.ก.ดังกล่าว อ่าน แปล ตีความ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านแผนที่ พบว่ามีสภาพเป็นป่าผลัดใบเกือบทั้งหมด มีการทำพืชไร่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น


จากการสืบสวนของคณะเจ้าหน้าที่พบว่า นายกฤชชาติฯ มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่เขตบางซื่อ กทม.ได้ย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาอยู่ในเขตอ.ไทรโยคในเดือนเม.ย.2559 เพียงประมาณ 3 เดือน ในช่วงเดือนก.ค. 2559 ก็ได้ย้ายกลับมาอยู่เขตบางซื่อ กทม.อีกครั้ง    ที่ผ่านมานายกฤชชาติ ฯ ทำงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบน้ำเสีย ปัจจุปัน นายกฤชชาติฯ อาศัยอยู่บ้านหลังหนึ่ง ตั้งอยู่ที่แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม. และยังพบว่าเป็นที่อยู่เดียวกันกับบริษัทเคมีคอล ไดนามิคส์ จำกัด ที่มีการดำเนินงานเกี่ยวกับบริการด้านระบบน้ำบำบัดน้ำเสีย 

เมื่อคณะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจดูรายงานการประชุมของคณะอนุกรรมการปฎิรูปที่ดินอำเภอไทรโยค ที่ได้มีประชุมครั้งที่ 2/2560 ในวันที่ 7 ก.ย. 2560 โดยมีนายเดโช ประกาศแก่นทราย นายอำเภอไทรโยคเป็นประธาน นายธเนตร พารา นิติกรชำนาญการพิเศษ ส.ป.ก.กาญจนบุรี เป็นเลขานุการ พร้อมด้วยอนุคณะกรรมการอีก 23 คน ได้มีมติอนุคณะกรรมการเห็นชอบ ให้นายกฤชชาติฯ เข้าทำประโยชน์ในแปลง ส.ป.ก.ดังกล่าว และตรวจสอบรายงานการประชุม คณะกรรมการปฎิรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี ที่ได้มีการประชุมครั้งที่ 3/2560 ในวันที่ 25 ก.ย.2560 โดยมีนายณรงค์ รักร้อย รองผวจ.กาญจนบุรี เป็นประธาน นายธเนตร พารา นิติกรชำนาญการพิเศษ เป็นเลขานุการ พร้อมคณะกรรมการอีก28 คนได้มีมติคณะกรรมการอนุมัติให้นายกฤชชาติฯ เข้าทำประโยชน์ในแปลง ส.ป.ก.ดังกล่าว  แต่เมื่อมาตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียมย้อนหลังในปี พ.ศ. 2560 อ่าน แปล ตีความ โดยผู้เชี่ยวชาญแผนที่ พบว่าบริเวณแปลง.ส.ป.ก. ดังกล่าวมีสภาพเป็นป่าธรรมชาติทั้งหมด ไม่มีการทำประโยชน์ในพื้นที่แต่อย่างใด

นอกจากนี้ยังตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียมย้อนหลังปี พ.ศ.2561 ในแปลง ส.ป.ก. ดังกล่าว ในช่วงที่นายสมศักดิ์ แป้นถนอม ปฎิรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี (ส.ป.ก. จังหวัดกาญจนบุรี) ออกหนังสืออนุญาตให้ทำประโยชน์ในเขตปฎิรูปที่ดินส.ป.ก.4-01ข เลขที่4878  วันที่ 3 ม.ค.2561 ให้กับนายกฤชชาติฯ ตามมติของคณะกรรมการปฎิรูปที่ดินจังหวัดกาญจนบุรี ครั้งที่ 3/2560 อ่าน แปล ตีความ โดยผู้เชี่ยวชาญแผนที่ พบว่า มีสภาพป่าธรรมชาติเต็มแปลง ไม่มีการทำประโยชน์ในพื้นที่แต่อย่างใด


คณะเจ้าหน้าที่เห็นว่า การรังวัดปักแนวเขต การสอบสวนสิทธิ การรับรองของผู้ปกครองท้องที่ มติของอนุคณะกรรมการฯมติของคณะกรรมการฯรวมถึงการออกหนังสือส.ป.ก. 4-01ข.ดังกล่าว ขัดกับหนังสือ ด่วนที่สุด กษ1205/323 ลว.11 ม.ค. 2536 ข้อ3ในทางปฎิบัติ หากมีสภาพป่าหลงเหลือ ส.ป.ก.ก็จะไม่จัดที่ดินให้กับราษฎร ขัดกับมติครม.30 มี.ค.2536 ที่มีมติว่า บริเวณป่าสงวนฯ ใดมีสภาพป่าสมบูรณ์ก็ควรจะได้ดำเนินการกันพื้นที่ออกจากเขตปฎิรูปที่ดิน และให้รวมถึงพื้นที่อื่นด้วยเช่น กระทรวงกลาโหม กรมธนารักษ์ ฯลฯ ตามข้อสังเกตของคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ขัดกับมติครม. 1 มี.ค.2537 ที่มีมติว่าในการสำรวจรังวัดออก ส.ป.ก.4-01 ในพื้นที่ป่าสงวนฯให้ดำเนินการเฉพาะในพื้นที่ที่มีราษฎรถือครองทำกินแล้วเท่านั้น และให้รวมถึงพื้นที่อื่นด้วย เช่นกระทรวงกลาโหม กรมธนารักษ์ฯลฯ ตามข้อสังเกตของคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ นอกจากนี้แปลง ส.ป.ก.ดังกล่าว ยังล้ำเข้าไปในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค เป็นการขัดกับมติครม.30 มิ.ย.2541 ข้อ2.1 ที่ไม่ให้ดำเนินการปฎิรูปที่ดินในเขตป่าอนุรักษ์

คณะเจ้าหน้าที่เห็นว่า ในเรื่องการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบนั้น ศาลฎีกาได้เคยมีคำพิพากษาที่ 12909/2557 ตัดสินเป็นบรรทัดฐานไว้ว่า จำเลย ลงลายมือชื่อออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3ก) ให้แก่นายด้าเอ็ม ซึ่งเป็นการกระทำที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของจำเลย โดยไม่ได้ตรวจสอบความถูกต้องว่า นายด้าเอ็ม ยื่นขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ถูกต้องตรงต่อความเป็นจริงหรือไม่ และทำให้นายด้าเอ็ม ได้ไปซึ่งหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3ก.)โดยไม่มีสิทธิได้รับ ถือได้ว่าเป็นการกระทำเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับผู้อื่น การกระทำของจำเลย จึงเป็นความผิดฐานเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

ทั้งนี้ทางกรมอุทยานฯ  ได้มอบบันทึกร้องเรียนให้ป.ป.ช. ดำเนินการตามพ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 กับเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่เกี่ยวข้อง  

ทางกรมอุทยานฯ ยังพบว่า มีแปลง ส.ป.ก. ออกทับซ้อนอยู่กับอุทยานแห่งชาติไทรโยค ที่ยังมีสภาพป่าสมบูรณ์ถึง 2,896ไร่  ซึ่งทางอุทยานแห่งชาติไทรโยคจะรวบรวม ส่งเรื่องให้ป.ป.ช.ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้