นักวิชาการมองรัฐต้องเติมเงินกระตุ้น ศก.มากกว่า 2.4 แสนล้าน

กรุงเทพฯ 6 พ.ค.-นักวิชาการระบุรัฐต้องเติมเงินกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่า 2.4 แสนล้านบาท จากผลกระทบโควิดระลอกใหม่เสียหายสูง 4-5 แสนล้านบาท ย้ำทุกภาคส่วนต้องร่วมมือลดแพร่เชื้อรายวันให้น้อยลงและควบคุมให้อยู่


นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงมาตรการช่วยเหลือภาคประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 3 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 5 พ.ค.64 นำเงินงบประมาณกว่า 240,000 ล้านบาทเข้ามาดำเนินโครงการต่างๆ ของภาครัฐในช่วงไตรมาสที่ 2 และไตรมาสที่ 3 นั้น โดยเห็นว่าจะเข้ามาบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและภาคธุรกิจในช่วง 2 ไตรมาสดังกล่าวได้ในระดับหนึ่ง

ทั้งนี้ เห็นว่า การระบาดโควิด-19 ระลอก 3 รุนแรงและสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมมากกว่า 400,000-500,000 ล้านบาท ดังนั้น วงเงินที่รัฐบาลนำมาอัดฉีดระบบเศรษฐกิจเพียงกว่า 240,000 ล้านบาท จะยังไม่เพียงพอชดเชยความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมอย่างแน่นอน และคงจะต้องติดตามว่าในช่วงปลายปีภาครัฐบาลจะออกมาตรการอื่นๆโดยจะต้องใช้เม็ดเงินเพิ่มอีกกว่า 200,000-250,000 ล้านบาทอีกหรือไม่ เพราะหากไม่มีเม็ดเงินเพิ่มเติมเข้ามาอัดฉีดระบบเศรษฐกิจอีกจะทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยจะมีปัญหาได้


นอกจากนี้ ไม่เพียงต้องหาเม็ดเงินอัดฉีดระบบเศรษฐกิจเพิ่มเติม ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือเพื่อลดปัญหาปริมาณคนติดเชื้อโควิด-19 รายวันจะต้องลดลงและอยู่ในวิสัยที่ควบคุมได้ เพราะหากยังมีปริมาณคนติดเชื้อรายวันสูงเกินกว่า 2,000 คนเช่นนี้การใช้เม็ดเงินอัดฉีดระบบเศรษฐกิจจะไม่ได้ผลเต็มที ดังนั้น ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันเร่งหาวัคซีนและเดินหน้าฉีดวัคซีนเพื่อให้คนไทยมีภูมิคุ้มกันหมู่และลดปัญหาการติดเชื้อรายวันให้ลดน้อยลง เพราะเชื่อว่าหากปริมาณคนติดเชื้อน้อยลงเข้าสู่จุดควบคุมสถานการณ์ต่างๆกิจกรรมการเปิดประเทศจะกลับมาและมีแผนการทำกิจกรรมต่างๆได้ ซึ่งเวลานี้ทุกภาคส่วนคาดหวังว่าการควบคุมการแพร่ระบาดโควิดจะดีขึ้นได้ในเร็วๆนี้ หากทำได้โอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะเติบโตตามที่คาดการณ์ไว้ แต่หากยังควบคุมไม่ได้โอกาสเศรษฐกิจไทยจะติดลบก็เห็นเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์

เร่งล่าฆาตกรโหดตัดนิ้วชิงทรัพย์หญิงวัย 67 ทิ้งศพกลางสวนปาล์ม

ตำรวจเร่งล่าฆาตกรโหดฆ่าตัดนิ้วหญิงวัย 67 ปี ชิงทรัพย์ ก่อนทิ้งศพกลางสวนปาล์ม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ชาวบ้านเผยพบรถเก๋งต้องสงสัยสีขาววิ่งเข้าไปในจุดพบศพ

จับนายก อบต.นาบัว

คอมมานโดบุกจับนายก อบต.นาบัว-พวก รวม 16 คน

คอมมานโดกองปราบฯ บุกจับฟ้าผ่า! นายก อบต.นาบัว อ.นครไทย ประธาน “ธนาคารหมู่บ้าน” พร้อมพวก รวม 16 คน ฐานร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันกู้ยืมเงิน มูลค่าความเสียหายนับร้อยล้านบาท

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ฆ่าตัดนิ้ว

เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ชิงทรัพย์ล้างหนี้พนัน

หญิงวัย 56 ปี เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ ก่อนนำทรัพย์สินไปขายใช้หนี้พนัน ตำรวจคุมตัวไปตามหาทรัพย์สินของกลาง อ้างลงมือก่อเหตุคนเดียว

เจ๊พัชกฤษอนงค์

นำ “เจ๊พัช” ฝากขังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง

กองปราบหิ้ว “กฤษอนงค์” ฝากขังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตำรวจค้านประกัน เจ้าตัวสีหน้าเรียบเฉย

พะยูนตาย

ห่วงสถานการณ์พะยูน พบตายถี่จากแหล่งหญ้าทะเลเสื่อมโทรม

“เฉลิมชัย” ห่วงสถานการณ์ “พะยูน” ซึ่งพบตายบ่อยขึ้น สั่งการกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและกรมอุทยานแห่งชาติฯ เฝ้าติดตามปัญหา ดำเนินการตามมาตรการแก้ไขโดยด่วน