กรุงเทพฯ 15 มี.ค. – ก.คมนาคมเดินหน้านโยบาย 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทั่วไทยอีก 200 กว่ากิโล ตั้งแต่สิ้นมี.ค – ปี’66 ด้านทางหลวง เตรียมเสนอต่อเพิ่มทันที 6 เส้นทาง อีก 150 กม. ด้านทางหลวงชนบท ก็เตรียมเพิ่มเติม 5 เส้นทางหลัก “นครอินทร์-ราชพฤกษ์-ถนนข้าวหลาม-เลี่ยงเมืองเชียงใหม่-ระยอง”
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงคมนาคมว่า จากที่ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษากำหนดอัตราความเร็วของยานพาหนะบนทางหลวงแผ่นดินหรือทางหลวงชนบทที่กำหนด พ.ศ. 2564 ให้สามารถใช้ความเร็วสูงสุดได้ไม่เกิน 120 กิโลเมตร (กม.) ต่อชั่วโมง (ชม.) ในทางหลวงแผ่นดิน ทางหลวงชนบท ที่มีทางเดินรถแบบจัดแบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันไว้ตั้งแต่ 2 ช่องเดินรถ มีเกาะกลางถนนเฉพาะแบบกำแพงกั้น (Barrier Median) และไม่มีจุดกลับรถเสมอระดับถนนเมื่อวันที่ 10 มี.ค. ที่ผ่านมา
ซึ่งในเบื้องต้นทาง กรมทางหลวงได้เสนอเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 32 (ถนนสายเอเชีย) ช่วงบริเวณหมวดทางหลวงบางปะอิน-ทางต่างระดับอ่างทอง กม. ที่ 4+100-50+000 ระยะทาง 50 กม. ที่มีความพร้อมก่อนเปิดให้วิ่งทำความเร็วไม่เหิน120กม/ชม. ภายในสิ้นเดือน มี.ค.นี้นั้น และเพื่อให้เกิดความสะดวกในการดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวให้ครอบคลุมเส้นทางเพิ่มขึ้น
ล่าสุดทางกรมทางหลวง(ทล.) และกรมทางหลวงชนบท(ทช.)ได้มีการสรุปเส้นทางเพิ่มเติมที่จะให้รถยนต์วิ่งทำความเร็วไม่เกิน 120 กม./ชม. เพิ่มเติมต่อนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในวันจันทร์ที่ 15 มี.ค.นี้ โดย ทางหลวงได้เสนอเส้นทางเพิ่มอีก 6 เส้นทาง ระยะทางรวม 150 กม. ประกอบด้วย 1. ทางหลวงหมายเลข 35 ตอนนาโคก-แพรกหนามแดง กม.56+000-65+000 ระยะทาง 9กิโลเมตร และ กม. 68+000-80+500 ระยะทาง 12.5 กิโลเมตรซึ่งเส้นทางดังกล่าวจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ภายในสิ้น ปี’64 นี้ , 2. ทางหลวงหมายเลข 32 ช่วงอ่างทอง-ชัยนาท กม.50+000-1113+000 ระยะทาง63 กิโลเมตรซึ่งจะเริ่มได้ต้น ปี’65 ,3.ทางหลวงหมายเลข 2 บ่อทอง-มอจะบก เริ่มต้นที่กิโลเมตร79+178-86+428 ระยะทาง 7.25 กิโลเมตรสามารถเริ่มได้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี’65
สำหรับเส้นทางที่ 4 ทางหลวงหมายเลข 32 ช่วงชัยนาท-นครสวรรค์ เริ่มต้นที่กิโลเมตรที่ 113+000-150+000 ระยะทางรวม 37 กิโลเมตร สามารถดำเนินการเริ่มให้ใช้งานได้ในปลายปี’65 , เส้นทางที่ 5 ทางหลวงหมายเลข 3147 ช่วงเทคโนโลยีปทุมธานี-ต่างระดับเชียงรากน้อย เริ่มต้น 0+000-10+350 ระยะทางรวม 10.35 กิโลเมตร สามารถดำเนินการได้ในต้นปี’66 และ เส้นทางที่ 6 ทางหลวงหมายเลข 4 ช่วงเขาวัง-สระพระ เริ่มต้นที่ 172+000-183+500 ระยะทาง 11.5 กิโลเมตรสามารถเริ่มได้ในปลายปี’66
ส่วนกรมทางหลวงชนบท(ทช.) จะมีการนำเสนอ 5 เส้นทาง ประกอบด้วย 1. ถนนนครอินทร์ (นบ 1020) ระยะทาง 12.40 กิโลเมตรเริ่มตั้งแต่กิโลเมตรที่1-7, 2. ถนนราชพฤกษ์ (นบ 3021 )ระยะทาง 51.70 กิโลเมตรเริ่มตั้งแต่กิโลเมตรที่ 17 – 42, 3. ถนนวงแหวนเชียงใหม่ทางเลี่ยงเมืองเชียงใหม่ (ชม 3029) (ถนนสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี) ระยะทาง26.11 กิโลเมตรเส้นนี้วิ่งทั้งสาย ,4 ทางหลวงชนบทถนนข้าวหลาม จังหวัด ชลบุรี (ชบ1073) ระยะทาง 4.98 กิโลเมตรซึ่งเส้นทางนี้เปิดวิ่งตลอดสายและเส้นทางที่ 5 ทางหลวงชนบท (รย.1035) จังหวัดระยองระยะทาง 7.47 กิโลเมตร เปิดวิ่งทั้งสายทาง อย่างไรก็ตามถนนทางหลวงชนบททั้ง 5 เส้นทางจะมีการปรับปรุงติดตั้งแบริเออร์ยางกั้นเลนระหว่างถนน รวมถึงติดตั้งป้ายบอกความเร็วและความปลอดภัย โดยถนนทั้ง 5 เส้นทางจะเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการให้วิ่ง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในปี 2566
ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.) กล่าวว่า จากนโยบายดังกล่าวทล. จะเร่งทำป้ายบอกความเร็ว ป้ายอัจฉริยะอัตโนมัติ รวมถึงการทำเครื่องหมายบนผิวทางถนนหลวง เพื่อให้ทราบว่าเลนดังกล่าวเข้า และออก วิ่งทำความเร็วได้ไม่เกิน 120 กม./ชม.ได้ นอกจากนั้น ทล.จะเร่งสำรวจจุดเพื่อสร้างสะพานลอยคนข้าม และมอเตอร์ไซค์ข้าม ในเส้นทางดังกล่าวเพื่อให้เกิดความปลอดภัย โดยใช้งบประมาณจากจากกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน(กปถ.) . – สำนักข่าวไทย