เร่งเปิดประมูลโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุแปลงวังค้างคาว

กรุงเทพฯ 10 ก.พ.-อธิบดีกรมธนารักษ์ ลงพื้นที่ตรวจสภาพอาคารราชพัสดุบ้านพระประเสริฐวาณิช (เขียว) หรือ วังค้างคาว ปลูกสร้างบนที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.2723 (บางส่วน) โฉนดเลขที่ 3249 แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ทั้งแปลง 0 – 3 – 29 ไร่ รวมถึงที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.0580 โฉนดเลขที่ 1001 แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ตามโฉนด 1 – 2 – 13 ไร่ เนื้อที่ตามสภาพครอบครอง 1 – 2 – 16 ไร่   


นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่ากรมธนารักษ์มีนโยบายในการนำอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่ราชพัสดุที่มีลักษณะยังทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ศิลปกรรม หรือสถาปัตยกรรมที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ มาจัดทำฐานข้อมูลเพื่อเป็นการป้องกันความเสียหาย ตลอดจนเพื่อหาแนวทางในการอนุรักษ์และพัฒนาต่อไป ทั้งนี้ อาคารราชพัสดุบ้านพระประเสริฐวาณิช (เขียว) หรือ อาคารวังค้างคาว เป็นหนึ่งในอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง   ที่เป็นที่ราชพัสดุที่มีลักษณะยังทรงคุณค่าที่ควรแก่การอนุรักษ์ไว้ โดยอาคารดังกล่าวตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เดิมเป็นกรรมสิทธิ์ของพระประเสริฐวานิช (เจ้าสัวเขียว เหล่าประเสริฐ) จากหลักฐานตามโฉนดที่ดินเลขที่ 999 ออกเมื่อ 31 ธันวาคม ร.ศ.125 (พ.ศ.2495) ต่อมาบ้านและที่ดินตกเป็นของนายเว้น ผู้เป็นบุตรชาย และนายเว้นได้บริจาคให้กระทรวงพระคลังมหาสมบัติ เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2464 โดยในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2450 – 2460 ได้มีการให้บริษัทหลักสุงเฮง ของนายเหียกวงเอี่ยม อดีตประธานหอการค้าไทย – จีน เช่าอาคารและพื้นที่เป็นสำนักงานและท่าเรือของบริษัทฯ ซึ่งดำเนินกิจการรับส่งสินค้าทางเรือ จากนั้น ห้างฮั่วจั่วจั่น ได้มาขอเช่าต่อ โดยใช้พื้นที่ใต้ตึกเป็นที่เก็บสินค้า เมื่อเลิกเช่าแล้วตัวอาคารจึงถูกปิดร้างไม่ได้ใช้ประโยชน์มาหลายสิบปี จึงทำให้มีค้างคาวเข้ามาทำรังและอาศัยอยู่บริเวณใต้ตึกเป็นจำนวนมาก

จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้มีคนเรียกอาคารเก่าหลังนี้ว่า “วังค้างคาว” ลักษณะและรูปแบบของอาคาร เป็นกลุ่มอาคารเก๋งจีน 2 ชั้น 2 หลัง ตั้งขนานกันหันหน้าออกแม่น้ำเจ้าพระยา มีระเบียงเชื่อมถึงกัน ล้อมลานโล่งตรงกลางไว้ พื้นที่ตรงกลางด้านล่างอาคาร      เป็นลานโล่งขนาดใหญ่และพื้นที่บริเวณใต้ถุนอาคารถูกแบ่งเป็นสัดส่วนทั้งสองฝั่ง เพื่อใช้ประโยชน์เป็นที่เก็บสินค้า อาคารก่ออิฐถือปูน หลังคามุงกระเบื้อง หน้าจั่วปูนปั้น สร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นบัญชีให้อาคารราชพัสดุบ้านพระประเสริฐวาณิช (เขียว) หรือวังค้างคาว เป็นโบราณสถาน ตามราชกิจจานุเบกษา เล่ม 135 ตอนพิเศษ 165 ง ลงวันที่ 12 กรกฎาคม 2561 แล้ว


ทั้งนี้ เพื่อเป็นการอนุรักษ์อาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่ราชพัสดุที่มีลักษณะยังทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ศิลปกรรม หรือสถาปัตยกรรมที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้ และเพื่อพัฒนาที่ราชพัสดุให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ กรมธนารักษ์จึงมีนโยบายที่จะเปิดประมูลสิทธิการเช่าอาคารราชพัสดุบ้านพระประเสริฐวาณิช (เขียว) หรือ วังค้างคาว ปลูกสร้างบนที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท.2723 (บางส่วน) โฉนดเลขที่ 3249 (เดิม 999) และประมูลพัฒนาที่ราชพัสดุเพื่อปลูกสร้างอาคาร ยกกรรมสิทธิ์ให้กระทรวงการคลัง บนที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ กท. 0580 โฉนดเลขที่ 1001 แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันอยู่ระหว่างการรังวัดตรวจสอบแนวเขตที่ราชพัสดุ เพื่อจัดทำผังประมูล และอยู่ระหว่างการประสานกรมศิลปากรเพื่อกำหนดรูปแบบในการพัฒนา โดยคาดว่า   จะสามารถเปิดประมูลได้ภายในเดือนเมษายน 2564

อย่างไรก็ตาม กรมธนารักษ์ได้ตั้งเป้าหมายที่จะเดินหน้าโครงการพัฒนาอาคารราชพัสดุทรงคุณค่าให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ซึ่งแต่ละโครงการก็มีความคืบหน้าไปเป็นอย่างมาก เช่น อาคารราชพัสดุแปลงบ้านพระประเสริฐวาณิช (เขียว) หรือ วังค้างคาว เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร  ที่อยู่ระหว่างการรังวัดตรวจสอบแนวเขตและหารือกับกรมศิลปากรเกี่ยวกับรูปแบบการพัฒนา อาคารบ้านพายัพ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ที่เปิดประมูลแล้วและอยู่ระหว่างการพิจารณาผลการคัดเลือกผู้ประมูล โดยกรมธนารักษ์จะได้รับค่าธรรมเนียมการจัดให้เช่าขั้นต่ำ เป็นเงิน 1,745,460 บาท ค่าเช่าในอัตราเดือนละ 57,273 บาท หรือปีละ 687,276 บาท รวมระยะเวลา 5 ปี เป็นเงิน 3,436,380 บาท และอาคารบ้านขุนพิทักษ์บริหาร (บ้านเขียว) อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่อยู่ระหว่างกรมศิลปากรกำหนดรูปแบบในการประมูลพัฒนา เป็นต้น โดยโครงการดังกล่าวนอกจากจะก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มในเชิงเศรษฐกิจแล้ว ยังส่งเสริมการอนุรักษ์อาคารที่ยังทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ศิลปกรรม หรือสถาปัตยกรรมให้คงอยู่สืบไปด้วย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

กกต.สั่งเอาผิดอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ

กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี

ข่าวแนะนำ

“พิธา-ทักษิณ” ช่วยหาเสียงผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่

“พิธา” ลงพื้นที่ตลาดต้นลำไย จ.เชียงใหม่ พบปะพี่น้องประชาชน ด้านพรรคเพื่อไทย “ทักษิณ” ขึ้นเวทีแนะนำ “พิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ สว.ก๊อง” ผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่

ไตรภาคีเคาะแล้ว! ค่าจ้างขั้นต่ำ มีผล 1 ม.ค.68

ไตรภาคี เคาะค่าจ้าง 400 บาท ลูกจ้าง 4 จังหวัด 1 อำเภอ “ภูเก็ต-ฉะเชิงเทรา-ชลบุรี-ระยอง-อ.เกาะสมุย” มีผล 1 ม.ค.68 ขึ้นค่าจ้าง 7-55 บาท 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้วันละ 337 บาท

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค

“ภูมิธรรม” สั่งปิดชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก 1 เดือน สกัดอหิวาตกโรค ไม่ให้ระบาดในไทย พร้อมยกมาตรรักษาสุขภาวะในพื้นที่อย่างเข้มข้น