“ศักดิ์สยาม” ดันทุกโหมดขนส่งสู่การใช้พลังงานไฟฟ้า

กรุงเทพฯ 27 ม.ค.- กระทรวงคมนาคม สั่งทุกหน่วยในสังกัดเดินหน้าสู่การใช้พลังงานไฟฟ้าในระบบขนส่ง ทั้งเรือไฟฟ้า รถไฟทางไกล รถโดยสารระหว่างเมืองระยะทางวิ่งประมาณ 200-250 กม./เที่ยว และรถสาธารณะในเมือง พร้อมสั่งกรมขนส่งฯ นำวิธีคิดอัตราภาษีประจำปี จากปริมาณการปล่อยมลพิษ, ยกเว้นภาษีประจำปี 3–5 ปีแรก รถใช้แบตเตอรี่ไฟฟ้า


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมการพัฒนายานยนต์ด้วยพลังงานไฟฟ้า ผ่านระบบทางไกล VDO CONFERENCE โดยในวันนี้ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้นำเสนอในที่ประชุมทราบถึงสถานการณ์ของประเทศไทยด้านพลังงาน ว่า ในช่วงปี 39–62 ประเทศไทยมีแนวโน้มในการใช้พลังงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสาขาขนส่งและสาขาอุตสาหกรรม เมื่อพิจารณาเฉพาะภาคขนส่ง พบว่ามีสัดส่วนการใช้น้ำมันสำเร็จรูปสูงถึง 94.8% (โดยเป็นการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว : HSD ประมาณ 15,000 พันตัน เทียบเท่าน้ำมันดิบ (ktoe)) รองลงมาเป็นก๊าซธรรมชาติ 5.09 และไฟฟ้า 0.059 ตามลำดับ

ส่วนสถานการณ์ด้านการปล่อยก๊าซเรือนกระจกนั้น สาขาขนส่งปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นอันดับ 2 รองจากสาขาอุตสาหกรรมพลังงาน โดยการขนส่งทางถนน ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงถึง 98% รองลงมา คือ การขนส่งทางอากาศ ทางน้ำ และทางราง ตามลำดับ ส่วนเรื่องฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล พบว่า สัดส่วนฝุ่น PM 2.5 ที่เกิดจากไอเสียดีเซล และการเผาชีวะมวล ทั้งนี้ แนวทางการพัฒนายานยนต์ด้วยพลังงานไฟฟ้า สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง ระยะ 20 ปี (2561–2580) อีกทั้งยังสอดคล้องกับหลักการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน (Sustainable Transport Development) ตามแนวคิด Sustainable Transport Development หรือ A-S-I Approach ที่มุ่งเน้นในการปรับปรุงยานพาหนะสำหรับการเดินทาง ให้มีการใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพ ลดการใช้พลังงาน และลดการปล่อยมลพิษ


สำหรับการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า สนข. ได้ศึกษาและจัดลำดับความสำคัญของประเภทยานพาหนะ โดยใช้มูลค่าผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์ พบว่า รถบรรทุกและรถโดยสารขนาดใหญ่ มีมูลค่าผลตอบแทนทางเศรษฐศาสตร์ที่สูงที่สุด ดังนั้น เมื่อพิจารณาข้อจำกัดต่างๆ ในการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า ประกอบด้วย ระยะทางเดินรถ น้ำหนักและแบตเตอรี่ รวมทั้งความเหมาะสมในการใช้งาน

อย่างไรก็ตามในเบื้องต้น พบว่า รถโดยสารระหว่างเมืองระยะทางวิ่งประมาณ 200-250 กม./เที่ยว และรถโดยสารสาธารณะในเมืองมีความเป็นไปได้ในการพัฒนาเป็นยานยนต์ไฟฟ้าเป็นลำดับแรก และควรมีมาตรการผลักดันและช่วยเหลือจากภาครัฐตามแผนพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะด้วยเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งประกอบด้วย 1)การส่งเสริมการลงทุนให้ผู้ประกอบการแบตเตอรี่ ผลิตชิ้นส่วน และประกอบรถโดยสารไฟฟ้าผ่านคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) 2)ยกเว้นภาษีนำเข้าและภาษีสรรพสามิตของเซลล์แบตเตอรี่ ให้ผู้ประกอบการผลิตแบตเตอรี่ที่ได้รับการส่งเสริมผ่านคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) 3) กำหนดอัตราค่าไฟฟ้าคงที่สำหรับรถโดยสารไฟฟ้า 4)การสนับสนุนการลงทุนจัดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าให้ผู้ประกอบการตามสัดส่วนมูลค่าการลงทุนสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่เหมาะสม 5) การเตรียมความพร้อมด้านมาตรฐาน กฎ ระเบียบ

โดยรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้รับทราบแผนการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า ทั้งทางถนน ทางราง และทางน้ำ พร้อมกับสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการกำหนดแนวปฏิบัติให้มีการใช้พลังงาน สอดคล้องกับข้อมูลและทิศทางดังกล่าว เช่น ขอให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เร่งรัดดำเนินการเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนวิธีการคิดอัตราภาษีรถยนต์ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า เช่น กำหนดอัตราภาษีให้เหมาะสมตามปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และขนาดของเครื่องยนต์ (cc) และยกเว้นภาษีประจำปี 3–5 ปีแรก สำหรับรถไฟฟ้าประเภท Battery Electric Vehicle (BEV) หรือรถยนต์ที่พึ่งพิงกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ในการขับเคลื่อนเพียงอย่างเดียว


นอกจากนั้นได้มอบให้ กรมเจ้าท่า (จท.)พัฒนาและส่งเสริมการใช้เรือไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยให้ครอบคลุมทั้งการขนส่งมวลชนและการท่องเที่ยว โดยบูรณาการร่วมมือภาคเอกชน เพื่อให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งศึกษาและรวบรวมข้อกฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความถูกต้อง นอกจากนั้นให้กรมการขนส่งทางราง (ขร.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่งรัดดำเนินการในการนำระบบ EV พลังงาน Battery on Train มาใช้กับรถไฟไทย รวมทั้งศึกษาและรวบรวมข้อกฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความถูกต้อง ตามหลักธรรมาภิบาล.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร