กรุงเทพฯ 19 ม.ค. –ก.พลังงาน เตรียมทบทวนแนวทางการปรับโครงสร้างราคาเอทานอลให้สอดรับสถานการณ์หารือราคาเอกชน ยืนยันราคาสูงเป็นไปตามกลไกตลาด พร้อมก่อนเดินหน้ายกเลิกแก๊สโซฮอล์ 91 ผลักดัน E20 เป็นน้ำมันเบนซินพื้นฐานของประเทศ คาดเดือนก.ค. 64
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ตามที่ กระทรวงพลังงาน เตรียมประกาศให้ยกเลิกการใช้แก๊สโซฮอล์ 91 และผลักดันน้ำมันเบนซิน E20 ให้เป็นน้ำมันเบนซินพื้นฐานของประเทศ เพื่อลดชนิดของน้ำมันในตลาดให้มีความเหมาะสม ไม่ให้มีหลากหลายชนิดมากจนเกินไป เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณและราคาของเอทานอลในสถานการณ์ปัจจุบัน รวมถึงเพื่อให้เกิดประโยชน์ครอบคลุมทุกภาคส่วนตั้งแต่เกษตรกรผู้ปลูกพืชพลังงาน อ้อย มันสำปะหลัง ไปจนถึงประชาชนผู้บริโภคน้ำมัน ซึ่งจะดูถึงสมดุล ดู ความต้องหารหรือ Demand และ กำลังผลิต หรือSupply ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพราคาเอทานอลในอนาคต
“การทบทวนแนวทางปรับโครงสร้างราคาเอทานอลในครั้งนี้ เพื่อเป็นการบูรณาการให้เกิดความสมดุลทั้งปริมาณการผลิต การใช้ และราคา ของเอทานอลให้มีความเหมาะสม ปิดช่องว่างปัญหาระหว่างทางที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อให้เกิดประโยชน์ทั้งต้นน้ำและปลายน้ำ โดยไม่เป็นภาระต่อค่าครองชีพของประชาชนในอนาคต ตามแนวทางที่รองนายกและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานให้ไว้” ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเร็วๆ นี้กระทรวงพลังงานได้หารือกับผู้ผลิตเอทานอล โดยพบว่าปัจจุบันประเทศไทยกำลังการผลิตเอทานอลมีทั้งสิ้น 6 ล้านลิตรต่อวันแต่การผลิตจะเป็นไปตามความต้องการเป็นหลักส่งผลให้การผลิตจริงอยู่ที่เพียง 4 ล้านลิตรกว่าต่อวัน โดยยืนยันว่าปริมาณเอทานอลมีเพียงพอที่จะเดินหน้าในการส่งเสริม E 20 เป็นน้ำมันเบนซินพื้นฐานในเดือนก.ค. 64 นี้เนื่องจากต้องยอมรับว่ามีการประเมินผลกระทบโควิด-19 รอบใหม่ที่จะทำให้การใช้น้ำมันปีนี้ภาพรวมจะไม่ขยายตัวมากนัก
นอกจากนี้ หารือเรื่องราคาอ้างอิงเอทานอลเดือนม.ค. 64 เฉลี่ยอยู่ที่ 26 บาทต่อลิตรมองว่าแพงเกินไปเมื่อนำไปผสมกับเบนซินเพื่อจำหน่ายแก๊สโซฮอล์จะไปกระทบราคาขายปลีกกับประชาชนโดยหากเป็นไปได้ราคาควรจะเฉลี่ยที่ 21-22 บาทต่อลิตรเพื่อไม่ให้เป็นภาระผู้บริโภค อย่างไรก็ตามทางผู้ผลิตเอทานอลได้ยืนยันว่าระดับราคาดังกล่าวเป็นไปตามวัตถุดิบหลักในการผลิตทั้งมันสำปะหลัง และกากน้ำตาล(โมลาส)ปีนี้มีราคาที่สูงขึ้นมาก ซึ่งเอกชน ยืนยันว่าราคาดังกล่าวเป็นไปตามกลไกตลาดเพราะปีนี้อ้อยต่ำทำให้โมลาสที่ได้ลดลง จึงทำให้ราคาสูงขึ้น ขณะที่ฝั่งมันสำปะหลังเองปีนี้ก็มีราคาสูงเพราะจีนมีการนำเข้ามันเส้นไปผลิตเอทานอลเพิ่มขึ้น -สำนักข่าวไทย