นนทบุรี 28 ธ.ค. – พาณิชย์เตรียมเจรจาการค้าเจาะตลาดอินเดียครั้งยิ่งใหญ่ มุ่งเป้าเพิ่มยอดการส่งออกไม้ยางพารา อาหารสัตว์เลี้ยง น้ำมันปาล์ม ของเล่นเด็ก และเครื่องสำอางช่วงกลางเดือน ม.ค.64 นี้
นายวิทยากร มณีเนตร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมการจัดพิธีลงนามระหว่างกระทรวงพาณิชย์ ประเทศไทย และกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย จึงได้สั่งการให้สำนักส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์ ในประเทศอินเดียทั้ง 3 แห่ง สวมบทบาท “เซลส์แมนประเทศ” ตามนโยบายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แสวงโอกาสจากความร่วมมือนี้ ศึกษาหาลู่ทางการเจาะตลาดใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดอินเดีย และเฟ้นหาผู้ซื้อคุณภาพในกลุ่มสินค้าที่มีศักยภาพสูงมาเจรจาการค้ากับผู้ประกอบการไทยผ่านช่องทางออนไลน์ (Online Business Matching) ซึ่งถือได้ว่า เป็นกิจกรรมที่มีประสิทธิภาพสูงและได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สำคัญของกรม โดยเฉพาะอย่างในยุคที่มีการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ซึ่งผู้ซื้อและผู้ขายยังไม่สามารถเดินทางไปมาหาสู่ระหว่างประเทศกันได้
นายฉันทพัทธ์ ปัญจมานนท์ ผู้อำนวยการสำนักตลาดพาณิชย์ดิจิทัล กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ทูตพาณิชย์ต่างทำงานอย่างหนักในการเสาะแสวงหาลู่ทางการค้าเพื่อเจาะตลาดที่ตนเองรับผิดชอบ โดยในส่วนของกิจกรรมเจรจาการค้ากับประเทศอินเดียในครั้งนี้ สามารถสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการสร้างโอกาสทางการค้าได้เป็นอย่างดี อย่างเช่น กรณีของน้ำมันปาล์ม ที่รัฐบาลอินเดียซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันเพื่อการบริโภครายใหญ่ที่สุดของโลก เพิ่งประกาศลดภาษีนำเข้าจากร้อยละ 37.5 เหลือเพียงร้อยละ 27.5 เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา จึงเป็นโอกาสที่ดีของน้ำมันปาล์มจากประเทศไทยในการรีบเข้าไปช่วงชิงตลาดซึ่งคาดว่าอาจมีความต้องการเพิ่มขึ้นถึงกว่า 1 ล้านตัน หรืออย่างกรณีของไม้ยางพารา ซึ่งรัฐบาลอินเดียเพิ่งได้ประกาศนโยบายยกระดับการผลิตภายในประเทศ (Atmanirbhar Bharat Policy) ใน 20 อุตสาหกรรม รวมทั้งอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ จึงเป็นโอกาสอันดีในการเสนอขายวัตถุดิบสำหรับเฟอรนิเจอร์อย่างไม้ยางพาราเข้าสู่ตลาดอินเดีย ซึ่งจะเป็นการช่วยอุตสาหกรรมไม้ยางพาราของไทยให้ลดการพึ่งพิงตลาดจีนเพียงตลาดเดียวอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม กิจกรรมการเจรจาการค้าผ่านช่องทางออนไลน์ (Online Business Matching) ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 มีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมกิจกรรม 485 ราย เจรจาการค้ากับผู้นำเข้า 352 ราย เกิดการจับคู่ธุรกิจ 1,705 คู่เจรจา และคาดว่าสามารถสร้างมูลค่าซื้อขายภายใน 1 ปีมีมูลค่าถึง 14,454.70 ล้านบาท โดยโครงการ “Sourcing for India” กำหนดจัดระหว่างวันที่ 18 – 21 มกราคม 2564 มีกลุ่มสินค้าเป้าหมาย ได้แก่ ไม้ยางพารา อาหารสัตว์เลี้ยง น้ำมันปาล์ม ของเล่นเด็ก และเครื่องสำอาง เป็นต้น . – สำนักข่าวไทย