กยท.เร่งสำรวจพื้นที่เสียหายจากน้ำท่วม

กรุงเทพฯ  3 ธ.ค. – กยท.เร่งสำรวจพื้นที่เสียหายจากน้ำท่วมภาคใต้ พร้อมจ่ายชดเชยรายละ 3,000 บาท  


นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดทางภาคใต้ ได้แก่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี สงขลา พัทลุง ตรัง สตูล และนราธิวาส มีพื้นที่ปลูกยางที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท.ประมาณ 5,274,333 ไร่ เป็นเกษตรกร 478,760 ราย โดยขณะนี้สั่งการให้ กยท.เขต และ กยท.จังหวัดเร่งสำรวจสวนยางที่เกิดความเสียหายจากน้ำท่วม จากนั้นจะช่วยเหลือเกษตรกร โดย กยท.มีมาตรการช่วยเหลือกรณีสวนยางประสบอุทกภัยผ่านกองทุนพัฒนายางพารา มีหลักเกณฑ์ดังนี้ ต้องเป็นสวนยางที่ถูกน้ำท่วมจนได้รับความเสียหายจนเสียสภาพสวน หรือได้รับความเสียหายในคราวเดียวกันไม่น้อยกว่า 20 ต้นต่อไร่ เกษตรกรจะได้รับเงินช่วยเหลือรายละ 3,000 บาท

ส่วนกรณีสวนปลูกแทนที่ประสบอุทกภัย หากพบว่าเสียสภาพสวนจะให้ระงับการปลูกแทน โดยไม่เรียกเงินคืนในส่วนที่เสียหาย จากนั้นจึงอนุมัติให้การปลูกแทนใหม่ แต่ต้องไม่เกินเนื้อที่ที่ระงับการปลูกแทน กรณีไม่เสียสภาพสวน ต้นยางหรือไม้ยืนต้นชนิดอื่น (พืชหลัก) อายุไม่เกิน 2 ปีครึ่ง ได้รับความเสียหายหนัก ไม่สามารถค้ำยันได้ ต้องปลูกซ่อมเท่านั้น กยท.จะช่วยเหลือเป็นเงินค่าปลูกซ่อมครั้งเดียว อัตราต้นละ 45 บาท ส่วนต้นยางหรือไม้ยืนต้นชนิดอื่น ที่เสียหายเอนล้ม แต่สามารถตัดแต่งและค้ำยันให้ตรงได้ กยท. จะช่วยเหลือค่าค้ำยันครั้งเดียว โดยต้นยางที่มีอายุตั้งแต่ 2 ปีครึ่งขึ้นไป แต่ไม่เกิน 3 ปี อัตราต้นละ 35 บาท และต้นยางอายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป อัตราต้นละ 110 บาท


นายณกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ต้นยางพาราเป็นพืชที่สามารถทนต่อน้ำท่วมขังได้พอสมควร ประมาณ 2 สัปดาห์ถึง 2 เดือน โดยขึ้นอยู่กับอายุของต้นยาง ระดับน้ำและความยาวนานของน้ำที่ท่วมขัง ข้อแนะนำเกี่ยวกับการฟื้นฟูสวนยางนั้น เมื่อน้ำลดแล้ว ให้เกษตรกรสำรวจความเสียหายสภาพสวนยาง เพื่อหาแนวทางในการฟื้นฟูและจัดการสวนยาง รวมถึงเฝ้าระวังเรื่องโรคยางพาราที่มากับช่วงหน้าฝนคือ โรคใบร่วงไฟทอฟธอรา (Phytophthora) บำรุงรักษาสวนยางให้สมบูรณ์โดยใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง คือช่วงต้นฤดูฝนและปลายฤดูฝน เพื่อสร้างความทนทานแข็งแรงให้ต้นยาง เกษตรกรในรายที่ปลูกพืชร่วมยาง ควรจัดการสวนยางให้โปร่งอยู่เสมอ ไม่ให้สวนยางมีความชื้นสูง และควรกำจัดวัชพืชและตัดแต่งกิ่งในสวนยางให้อากาศถ่ายเท ให้แสงแดดส่องได้สะดวกทั่วถึง เพื่อลดความชื้นในสวนยาง

นอกจากนี้ กยท.ขอเชิญชวนร่วมช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางที่ประสบอุทกภัยภาคใต้ โดยบริจาคทรัพย์ผ่านบัญชี การยางแห่งประเทศไทย เลขที่บัญชี 058-0-38679-1 ธนาคารกรุงไทย สาขาบางขุนนนท์ ได้ตั้งแต่บัดนี้ ถึง 31 มกราคม 2564 สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ การยางแห่งประเทศไทย (กองกลาง) โทร 0-2433-2222 ต่อ 291.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เครื่องบินภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก ขอลงจอดฉุกเฉินที่สุวรรณภูมิ

เที่ยวบิน 777-300ER สายการบิน Aeroflot ขึ้นจากภูเก็ตไปมอสโก เตรียมลงสุวรรณภูมิ หลังบินวนกลางทะเลอันดามันหลายชั่วโมง จากปัญหาระบบลงจอดขัดข้อง

ไข้หวัดใหญ่ระบาด

ไข้หวัดใหญ่ระบาดในสหรัฐ-เสียชีวิตแล้ว 13,000 ราย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี รายงานว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนี้อย่างน้อย 24 ล้านคนแล้วทั่วสหรัฐ

ตัดไฟเมียนมา

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันปลดพนักงานแล้วกว่าร้อยคน

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันออนไลน์และกลุ่มสแกมเมอร์ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ปลดพนักงานแล้วกว่า 100 คน เนื่องจากขาดแคลนกระแสไฟฟ้า ทำให้พนักงานทยอยเดินทางออกจากท่าขี้เหล็ก กลับมาทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

“ปอล วี” สร้างประวัติศาสตร์ คว้าทองแดงศึกเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว 2025

“ปอล วี” ทำได้ สกีฟรีสไตล์ ประเภทสโลปสไตล์ คว้าเหรียญแรก และเป็นเหรียญประวัติศาสตร์ในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ให้กับประเทศไทย

นายกฯ ลั่นพร้อมแจงศึกซักฟอก เป็นนายกฯ ต้องตอบทุกเรื่อง

นายกฯ ขอคุยพรรคร่วมก่อนประชุมร่วมรัฐสภาแก้ รธน. หลัง “ชูศักดิ์” บอกอาจมีการยื่นศาล รธน.ตีความต้องทำประชามติก่อน ลั่นพร้อมแจงศึกซักฟอก เป็นนายกฯ ต้องตอบทุกเรื่อง

ราคาทองคำ

ทองไทยนิวไฮรายวัน 1 ชม.แรกวันนี้ ราคาเปลี่ยน 7 รอบ

ราคาทองคำนิวไฮต่อเนื่องวันนี้แพงสุดในประวัติศาสตร์ ตามตลาดโลก และบาทอ่อนค่า โดย 1 ชม.แรกวันนี้ราคาเปลี่ยน 7 รอบ ตั้งแต่ต้นปี ขึ้นราคามาแล้ว 4,900 บาทต่อบาททองคำ

รถเมล์ยกล้อ

รถเมล์เสียหลักเกี่ยวสลิงยึดสายไฟฟ้าแรงสูง

รถเมล์สาย 167 วิ่งระหว่างเคหะพระรามที่ 2 ถึงสวนลุมพินี เจอคราบน้ำมันบริเวณแยกมไหสวรรค์ ลื่นเสียหลักเกี่ยวสลิงยึดสายไฟฟ้าแรงสูง โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บ