กรุงเทพฯ 16 พ.ย. – ธปท.เผยไตรมาส 3 ตัวเลขหนี้เสียยังเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจเอสเอ็มอี ขณะที่ภาพรวมการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น ผลจากมาตรการซอฟท์โลน และการกลับมาให้บริการของภาคธุรกิจ หลังคลายล็อกดาวน์ คาดทั้งปีโต 3-5%
นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ภาพรวมการเติบโตของสินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 3 ปี 2563 ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 4.6% เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน จาก 5.0% ในไตรมาสก่อน โดยสินเชื่อธุรกิจขยายตัว 4.5% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2563 เนื่องจากธุรกิจบางส่วนไประดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้และหุ้นเพิ่มทุนแทนการใช้สินเชื่อธนาคารพาณิชย์ ขณะที่สินเชื่อเอสเอ็มอีหดตัวในอัตราที่ลดลงจากผลของมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (ซอฟท์โลน) และการทยอยฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
ส่วนสินเชื่ออุปโภคบริโภคขยายตัว 4.8% เทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน และปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเป็นการปรับเพิ่มขึ้นในสินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อบัตรเครดิต ขณะที่สินเชื่อรถยนต์และสินเชื่อส่วนบุคคลขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวลงจากปีก่อนหน้า เนื่องจากกำลังซื้อของภาคครัวเรือนยังอ่อนแอ
ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือน ภาพรวมสินเชื่อเติบโต 3.9% โดย ธปท.คาดว่าทั้งปีจะเติบโตประมาณ 3-5% จากปีก่อนที่เติบโต 2% ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำและการกลับมาดำเนินธุรกิจโดยเฉพาะภาคบริการ อสังหาริมทรัพย์ ก่อสร้าง และการอุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังการคลายล็อกดาวน์
อย่างไรก็ตาม คุณภาพสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์สิ้นไตรมาส 3/2563 มียอดคงค้างสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ที่ 513,900 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ต่อสินเชื่อรวมที่ 3.14% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 2/2563 ที่ 3.09% ทั้งนี้ ตัวเลขเอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นมาจากสินเชื่อธุรกิจเป็นหลัก โดยกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอียังเป็นกลุ่มที่น่าห่วงที่สุด ขณะที่สินเชื่อรายย่อยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้
สำหรับผลประกอบการระบบธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 3/2563 มีกำไรสุทธิ 28,000 ล้านบาท ทำให้ภาพรวมกำไรสุทธิในช่วง 9 เดือนของปี 2563 อยู่ที่ 130,400 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนจากการกันสำรองในระดับสูง เพื่อรองรับแนวโน้มคุณภาพสินเชื่อที่อาจด้อยลงในระยะต่อไป พร้อมยืนยันระบบธนาคารพาณิชย์ยังมีความมั่นคง โดยมีเงินกองทุน เงินสำรอง และสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง .-สำนักข่าวไทย