กอนช.ยืนยันเขื่อนลำตะคอง-ลำพระเพลิงยังแข็งแรง

กรุงเทพฯ  21 ต.ค. – กอนช.ติดตามแก้ไขปัญหาน้ำท่วม จ.นครราชสีมา ยืนยันเขื่อนลำตะคองและเขื่อนลำพระเพลิงยังแข็งแรงใช้งานได้เต็มศักยภาพ


นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะเลขาธิการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่และประชุมติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยในเขตพื้นที่ จ.นครราชสีมา ว่า การระบายน้ำลงสู่พื้นที่ท้ายเขื่อนที่กังวลว่าอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชนนั้น จากการติดตามการบริหารจัดการพบว่าปัจจุบันเขื่อนลำตะคองยังไม่มีการระบายน้ำออกสู่พื้นที่ด้านท้าย เนื่องจากยังสามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 43 ล้าน ลบ.ม. โดยจะมีการระบายน้ำเมื่อพื้นที่บริเวณด้านท้ายเขื่อนมีระดับน้ำลดลงเท่านั้น รวมทั้งจะมีการแจ้งเตือนล่วงหน้าให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาขนในพื้นที่ได้รับทราบอย่างทั่วถึง ส่วนสถานการณ์น้ำเขื่อนลำพระเพลิง ปัจจุบันยังคงมีน้ำเอ่อล้นตลิ่งคลองระบายน้ำเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำบางแห่ง

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่เขตเศรษฐกิจเมืองปักธงชัย รวมถึงปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนยังคงมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดย กอนช.จะยังคงติดตาม วิเคราะห์ และเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำทุกแห่งอย่างใกล้ชิด รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการเตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ เพื่อช่วยบรรเทาสถานการณ์และให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ตลอด 24 ชั่วโมง


นอกจากนี้ กอนช.ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการเตรียมความพร้อมรับมือในกรณีที่มีความเสี่ยงน้ำล้นอ่างเก็บน้ำ หรือกรณีที่เกิดผลกระทบที่มีต่อความมั่นคงโครงสร้างเขื่อน ซึ่งที่ประชุมได้มีการพิจารณามาตรการรับมือ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความปลอดภัยเขื่อนยืนยันให้ความมั่นใจภายหลังตรวจสอบสภาพของโครงสร้างเขื่อนลำตะคองและเขื่อนลำพระเพลิง ว่า ปัจจุบันเขื่อนทั้ง 2 แห่ง ยังคงสามารถใช้งานได้เต็มศักยภาพและอยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบความแข็งแรงของเขื่อนที่มีความจุเกินเกณฑ์เก็บกักน้ำสูงสุด ทั้งนี้ แม้ว่า จ.นครราชสีมาจะประสบอุทกภัย แต่ยังมีบางอำเภอ ได้แก่ อ.คง อ.แก้งสนามนาง และ อ.ชุมพวง ซึ่งมีปริมาณน้ำในแหล่งน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อยเสี่ยงขาดแคลนน้ำใช้ในฤดูแล้ง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย