กรุงเทพฯ 20 ต.ค. – กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติเผยราคาน้ำมันและผลกระทบโควิด-19 ส่งผลปีงบประมาณ 63 รายได้กิจการปิโตรเลียมสร้างรายได้รัฐ 1.3 แสนล้านบาท หดตัวเกือบร้อยละ 22 ปริมาณผลิต 275.66 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ลดลงร้อยละ 7.86
นายศุภลักษณ์ พาฬอนุรักษ์ โฆษกกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยว่า กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน มีการจัดเก็บรายได้เข้ารัฐจากการประกอบกิจการปิโตรเลียมปีงบประมาณ 2563 (ต.ค.62 – ก.ย.63) รวม 129,932 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 21.88 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 โดยรายได้ปี 2563 แบ่งเป็นค่าภาคหลวง 38,725 ล้านบาท เงินผลประโยชน์ตอบแทนพิเศษ 15 ล้านบาท รายได้จากองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย 12,903 ล้านบาท ค่าตอบแทนการต่อระยะเวลาการผลิต 7,050 ล้านบาท รวมถึงภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ซึ่งจัดเก็บโดยกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง 71,239 ล้านบาท
“วงเงินจัดเก็บที่ลดลง มาจากราคาปิโตรเลียมที่ลดลงและปริมาณการผลิตที่ลดลง ซึ่งเป็นไปตามทิศทางราคาตลาดโลกที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งอุตสาหกรรมทั่วโลกได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน” โฆษกกรมเชื้อเพลิงฯ กล่าว
สำหรับปีงบประมาณ 2563 มีสัมปทานปิโตรเลียมในประเทศที่ดำเนินการอยู่ 38 สัมปทาน 48 แปลงสำรวจ แบ่งเป็นแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย 29 แปลง และแปลงสำรวจบนบก 19 แปลง โดยมีปริมาณการผลิตปิโตรเลียมทั้งก๊าซธรรมชาติ ก๊าซธรรมชาติเหลว และน้ำมันดิบ คิดเป็นปริมาณรวมอยู่ที่ 275.66 ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ซึ่งลดลงร้อยละ 7.86 เมื่อเทียบกับปริมาณการผลิตในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562. -สำนักข่าวไทย