fbpx

เจโทร ชี้ไทยยังน่าลงทุน


กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – ประธานเจโทร ชี้ไทยยังน่าลงทุน แม้สถานการณ์การเมืองในไทยจะส่งผลต่อความกังวลของนักลงทุนอยู่บ้าง ยืนยันไทยยังเป็น 1 ในประเทศเป้าหมายที่จะผลักดันนักลงทุนญี่ปุ่นให้เข้ามาลงทุน พร้อมร่วมงาน Techsauce Global Summit 2020 ในรูปแบบออนไลน์เป็นครั้งแรก


นายอัทสึชิ ทาเคทานิ ประธาน องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น หรือ เจโทร (JETRO) กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองในไทยแม้ภาพรวมขณะนี้อาจยังมีความน่ากังวลอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าในอนาคตสถานการณ์จะดีขึ้น และมองว่าไทยยังเป็นประเทศที่น่าลงทุนต่อเนื่อง สะท้อนจากอดีตที่ผ่านมาที่นักลงทุนญี่ปุ่นยังคงเข้ามาลงทุนในไทยต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันมีนักลงทุนญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในไทยและยังคงดำเนินการอยู่กว่า 5,400 บริษัท
สำหรับประเด็นหลักที่ทำให้นักลงทุนญี่ปุ่นสนใจเข้ามาลงทุนในไทย คือ ประเทศไทยมีพัฒนาการทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นต่อเนื่อง รัฐบาลมีการผลักดันสู่เศรษฐกิจดิจิทัล รวมทั้งยังมีตลาดผู้บริโภคที่เป็นตลาดดิจิทัลหรือตลาดออนไลน์ขนาดใหญ่เป็นอันดับต้นๆของอาเซียน โดยคาดว่าจะยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง และประเทศไทยยังมีความสะดวกในการเข้ามาดำเนินกิจกรรมในการลงทุน ดังนั้นไทยจึงยังเป็น 1 ในประเทศเป้าหมายที่เจโทรจะใช้ในการผลักดันให้นักลงทุนญี่ปุ่นเข้ามาลงทุน
ขณะที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเดินทางข้ามประเทศ ประธานเจโทรแนะให้ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพญี่ปุ่นรวมทั้งสตาร์ทอัพไทย เร่งปรับตัวโดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล รวมทั้งการสร้างพาร์ทเนอร์ ซึ่งเจโทรพร้อมให้การสนับสนุนทั้งในแง่ของนักลงทุนญี่ปุ่นที่จะเข้ามาลงทุนในไทย และนักลงทุนไทยที่สนใจเข้าไปลงทุนในญี่ปุ่น

ทั้งนี้เจโทร ร่วมงาน Techsauce Global Summit 2020 ในรูปแบบออนไลน์เป็นครั้งแรก โดยจะมีสตาร์ทอัพและนักลงทุนจากหลากหลายสาขาทั่วโลกเข้าร่วม โดยในงานจะมีการนำเสนอธุรกิจของแต่ละบริษัทในรูปแบบออนไลน์ และมีการสัมมนาและเวิร์กช็อปบรรยายทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์โดยผู้ประกอบและนักลงทุน โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 – 8 ตุลาคม 2563 ผ่านระบบออนไลน์ ที่ https://summit.techsauce.co/ และแบบออฟไลน์ที่อาคาร FYI CENTER กรุงเทพฯ . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย