สศช.ส่งแผนพัฒนาฯ ฉบับ 13 รับมือโควิด

เมืองทองธานี  21 ก.ย. – สศช.ขับเคลื่อนประเทศหลังโควิด ส่งแผนพัฒนาฯ ฉบับ 13 ปรับจุดเน้นแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ


นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า การประชุมใหญ่ทางวิชาการจัดขึ้นทุกปี เพื่อนำเสนอและรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนของสังคมในหัวข้อที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ โดยปีนี้เนื่องจากเป็นระยะครึ่งทางของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 หรือช่วงครึ่งแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติระยะที่หนึ่ง (พ.ศ.2561-2565) สศช.ได้ติดตามประเมินผลการพัฒนาประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการภาครัฐที่ดี โดยมีการวิเคราะห์และรายงานผลการพัฒนาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะผลการพัฒนาตามตัวชี้วัดที่สำคัญต่าง ๆ ที่กำหนดในแผนฯ 12 ให้สาธารณชนได้รับทราบ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคีการพัฒนาต่าง ๆ จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการปรับปรุงและบริหารจัดการภารกิจที่รับผิดชอบ ทั้งส่วนกลางและระดับพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2565) ซึ่งเป็นแผนที่วางรากฐานสำหรับการขับเคลื่อนการพัฒนาในช่วง 5 ปีแรกของยุทธศาสตร์ชาติ โดยระยะครึ่งทางแผนฯ 12 หรือช่วงครึ่งแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติระยะที่หนึ่ง (พ.ศ.2561-2565) นั้น ประเทศไทยเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทั้งบริบทโลกและบริบทในประเทศ ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างระยะยาว และการเปลี่ยนแปลงระยะสั้นหรือการเปลี่ยนแปลงชั่วคราวหลายเรื่อง เช่น เทคโนโลยีพลิกโลก (Disruptive Technology) การก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยที่อาจส่งผลต่อการขาดแคลนแรงงานในอนาคต ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศต่าง ๆ ที่เป็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของโลก การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) และภัยธรรมชาติ


การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่งผลกระทบทั้งในแง่บวกและแง่ลบต่อการพัฒนาประเทศหลายด้าน ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากบริบทโลกที่มากระทบ ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาประเทศ แต่อีกส่วนหนึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างและเชิงนโยบายภายในประเทศที่ส่งผลเอื้อต่อการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไปในทิศทางที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 และยุทธศาสตร์ชาติ อย่างไรก็ตาม บางบริบทกลับเป็นความท้าทายหรือเป็นอุปสรรคที่ประเทศไทยจะต้องก้าวข้ามผ่านไปให้ได้

นายทศพร กล่าวว่า การพัฒนาประเทศในช่วงที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โลกและสถานการณ์ภายในประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี และการเมือง รัฐบาลและภาคส่วนต่าง ๆ ได้มีความพยายามในการดำเนินการ เพื่อผลักดันขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามแนวทางแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 ส่งผลให้การพัฒนาบางมิติดีขึ้น แต่ยังคงมีการพัฒนาบางด้านล่าช้าและไม่เป็นไปตามเป้าหมาย จากวิกฤติโควิด-19 ที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วรุนแรงส่งผลกระทบต่อประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย เกิดวิถีแนวใหม่ที่ทุกคนต้องปรับวิธีการในการใช้ชีวิตแบบใหม่ ที่เรียกว่าชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) จึงต้องมีการปรับแนวทางการพัฒนา โดยคำนึงถึงประเด็นสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1.สร้างสมดุลของมนุษย์และธรรมชาติ  2.สร้างสมดุลของปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันของมนุษย์ในสังคม และ 3.สร้างการเติบโตอย่างพอเพียง

นายทศพร กล่าวว่า แนวทางใหม่ของการพัฒนาประเทศช่วงหลังของแผนฯ 12 และการเชื่อมโยงไปสู่แนวทางการพัฒนาในแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ประกอบด้วย 1.ปรับจุดอ่อน เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส เพื่อสนับสนุนการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้สามารถรองรับ New Normal ลดความเหลื่อมล้ำและเกิดความยั่งยืน และ 2.เสริมจุดแข็งเดิม สร้างจุดแข็งใหม่ เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตทางเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคมให้ดีขึ้น


เลขาธิการ สศช. กล่าวว่า สศช.จำเป็นต้องทบทวนแนวทางการพัฒนาประเทศใหม่ เพื่อนำพาประเทศให้รอดพ้นจากวิกฤติโควิด-19 และพร้อมรับกับการเปลี่ยนแปลงหรือวิกฤติอื่น ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นใหม่ในอนาคต ตลอดจนตอบสนองชีวิตวิถีใหม่ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันควรสร้างโอกาสใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์จากสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ภายใต้แนวคิด Resilience จำเป็นต้องมีการพัฒนาความสามารถของประเทศ 3 ด้าน ดังนี้ 1.Cope หรือพร้อมรับ เป็นความสามารถในการต้านทาน เยียวยา และฟื้นสภาพจากวิกฤติ 2. Adapt หรือปรับตัว ความสามารถในการปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้น 3.Transform หรือเปลี่ยนแปลง เพื่อพร้อมเติบโต ความสามารถในการพลิกโฉม

“หากประเทศไทยมีความสามารถทั้ง 3 ด้าน จะช่วยให้เป็นประเทศที่พร้อมเผชิญการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ไม่ว่าจะรวดเร็วหรือรุนแรงเพียงใดก็ตาม และสามารถที่จะก้าวเดินต่อไปด้วยความระมัดระวังและรอบคอบสู่จุดหมายการพัฒนาที่เหมาะสม มีสมดุลและยั่งยืน” นายทศพร กล่าว

นอกจากนี้ ผลกระทบและวิถีการดำเนินชีวิตที่พลิกโฉมหลังการระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องมีการทบทวนและปรับแก้ไขแผนแม่บท ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติเร็วกว่าปกติที่เคยกำหนดไว้ให้มีการปรับทุก ๆ 5 ปี การปรับแผนแม่บทครั้งนี้จะปรับเฉพาะด้านที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบจากโควิด-19 เท่านั้น และอยู่บนพื้นฐานแนวคิด “Resilience” โดยการปรับแผนแม่บทดังกล่าวจะต้องมีความสอดคล้องกับครึ่งหลังของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 และต่อเนื่องไปยังแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ต่อไป และจะหยิบยกประเด็นสำคัญเร่งด่วนที่ต้องมีการขับเคลื่อนผลักดันหลังวิกฤติโควิด-19 มาพิจารณาจัดทำเป็นแผนแม่บทหลังสถานการณ์ โควิด-19 โดยมีการกำหนดประเด็นการพัฒนาที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ดังนี้ 1.การเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากภายในประเทศ 2. การยกระดับขีดความสามารถของประเทศเพื่อรองรับการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว 3.การพัฒนาศักยภาพและคุณภาพชีวิตของคนให้เป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ 4.การปรับปรุงและพัฒนาปัจจัยพื้นฐานเพื่อส่งเสริมการฟื้นฟูและพัฒนาประเทศ

“แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นแผนที่สามารถตอบสนองความต้องการของคนในประเทศ และเป็นแผนที่ไม่ได้มองเฉพาะการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่มุ่งเน้นการวางรากฐานสำหรับการพัฒนาประเทศระยะยาวด้วย อีกทั้งยังได้จัดทำแผนแม่บทเฉพาะกิจหลังวิกฤติโควิด รวมทั้งปรับจุดเน้นของแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติอีก 23 ฉบับ ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่าการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศในระยะต่อไปหลังจากนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติน่าจะมีความพร้อมมากขึ้น” เลขาธิการ สศช.กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนแล้วหนี! 2 หนุ่มกลัวถูกจับดึงสลักระเบิดดับ

2 หนุ่มชนแล้วหนี โบกรถมาขึ้นสามล้อเครื่อง ตำรวจตามกระชั้นชิด ตัดสินใจดึงสลักระเบิด แต่สะดุดล้มระเบิดตูมสนั่นดับ 1 ส่วนอีกคน ถูกจับโดยละม่อม

“ไบเดน” เปิดทำเนียบขาวต้อนรับ “ทรัมป์” ถกถ่ายโอนอำนาจ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเปิดห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวหารือนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดี ซึ่งต่างให้คำมั่นการถ่ายโอนอำนาจจะเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม” ชวนลงทุนคล้าย forex เสียหายกว่า 60 ล้าน

“อี้ แทนคุณ” เผยคดีใหม่ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ชักชวนลงทุนในดูไบ คล้าย forex ความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท ขณะที่อีกฝ่ายอ้างนำเงินไปลงทุนจริงแต่ขาดทุน

ข่าวแนะนำ

“หนุ่ม กรรชัย” งดเคลียร์ “ฟิล์ม” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด

“หนุ่ม กรรชัย” ประกาศตัดสัมพันธ์ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ย้ำดำเนินคดีถึงที่สุด งดเคลียร์ ซัดเป็นคนไร้ศักดิ์ศรี ชี้เรื่องนี้ไม่ต้องเตือน ให้ย้อนไปดูที่บ้านได้สั่งสอนหรือไม่

เริ่มแล้ว ประเพณียี่เป็งหรือลอยกระทงเชียงใหม่

ประเพณียี่เป็ง หรือลอยกระทง จ.เชียงใหม่ ปีนี้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งเต็มไปด้วยแสงสีจากแสงไฟที่ประดับไปทั่วเมือง และความงดงามทางวัฒนธรรมมากมาย ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย

“จิราพร” สั่งตรวจสอบปมคลิปเสียงอ้างชื่อ-จ่อแจ้งความเอาผิด

“จิราพร สินธุไพร” ยืนยันไม่รู้จักนักร้องเรียนหญิง ที่แอบอ้างว่าเป็นคณะทำงาน ประสานฝ่ายกฎหมายเร่งตรวจสอบคลิปเสียง เพื่อแจ้งความดำเนินคดี