นนทบุรี 18 ก.ย. – กรมการค้าภายในย้ำมุ่งแก้ปัญหาสุกรให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งเกษตรกรและผู้บริโภค
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากที่มีการขอให้รัฐปลดล็อกราคาสุกรหน้าฟาร์มให้เป็นไปตามกลไกตลาด เพื่อลดความเดือดร้อนของผู้เลี้ยงสุกร กรมการค้าภายในขอชี้แจงว่าจากที่ราคาสุกรมีชีวิตในประเทศปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายน 2563 จากกิโลกรัมละ 67 – 68 บาท เป็นกิโลกรัมละ 81 – 82 บาท ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2563 ซึ่งส่งผลให้ราคาขายปลีกเนื้อสุกรปรับสูงขึ้นสูงกว่ากิโลกรัมละ 170 บาท กระทบต่อประชาชนผู้บริโภคที่ยังอยู่ในช่วงเผชิญกับปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด 19
ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพของผู้บริโภค กรมการค้าภายในได้เชิญทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมสุกร คือ สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ผู้ประกอบการโรงเชือดชำแหละ สมาคมตลาดสดไทย และห้างค้าส่งค้าปลีกรายใหญ่ประชุมหลายครั้ง เพื่อหารือแนวทางบริหารจัดการอุปทานและราคาสุกรที่เหมาะสมเป็นธรรมต่อทุกภาคส่วน รวมทั้งไม่สร้างผลกระทบต่อโอกาสของสินค้าสุกรไทยที่จะสามารถส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศได้ ซึ่งทุกภาคส่วนเห็นพ้องร่วมกันในการกำหนดมาตรการสำหรับสินค้าสุกร โดยสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และสมาคมผู้เลี้ยงสุกรในทุกภูมิภาค ช่วยดูแลด้านปริมาณและราคาสุกร มีชีวิตหน้าฟาร์ม ไม่ให้กระทบผู้บริโภคในประเทศ โดยตรึงราคาขายสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มที่จำหน่ายในประเทศไม่เกินกิโลกรัมละ 80 บาท ซึ่งเป็นระดับราคาที่สูงกว่าต้นทุนการผลิตกิโลกรัมละ 71.55 บาท เพื่อให้ราคาขายปลีกเนื้อสุกรอยู่ที่ไม่เกินกิโลกรัมละ 160 บาท ซึ่งเป็นระดับราคาที่เกษตรกรอยู่ได้ และไม่กระทบต่อผู้บริโภคมาก ด้านโรงเชือดชำแหละช่วยตรึงราคาขายส่งไว้เช่นกัน เพื่อให้ผู้ค้าปลายทางในตลาดสด และห้างสามารถขายปลีกเนื้อสุกร (สะโพกและไหล่) ที่กิโลกรัมละ 150 บาท และสันนอก กิโลกรัมละ 160 บาท
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ สมาคมตลาดสดไทย ห้างค้าปลีกรายใหญ่ ได้จัดให้มีการขายเนื้อสุกรคุณภาพดี ราคาไม่เกินกิโลกรัมละ 130 บาท เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพของผู้มีรายได้น้อย
“ขอยืนยันว่าข้อตกลงที่กรมการค้าภายในดำเนินการร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติมีเจตนาที่จะดูแลทั้งผู้เลี้ยงสุกรและประชาชน ซึ่งขณะนี้สถานการณ์ปรับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เกิดประโยชน์ทั้งต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรและประชาชนผู้บริโภค” อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าว.-สำนักข่าวไทย