นนทบุรี 17 ก.ย. – พาณิชย์ประกาศความสำเร็จดันไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันทางธุรกิจได้ผลเกินคาด เดินหน้าเร่งส่งเสริมปลูกไม้มีค่าบนที่ดินตนเอง เพื่อใช้เป็นหลักประกันให้ครอบครัวในอนาคต
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังรัฐบาลแก้ไขกฎหมายโดยยกเลิกไม้หวงห้ามบนที่ดินกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิ์ครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดิน ทำให้การปลูก การตัดไม้เศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ง่าย ประชาชนสามารถปลูกและตัดไม้เศรษฐกิจได้เหมือนการปลูกพืชเกษตรทั่วไป และส่งเสริมสนับสนุนให้เกษตรกรและประชาชนปลูกไม้ยืนต้นบนที่ดินของตนเองสามารถนำไม้ยืนต้นมาเป็นหลักประกัน เพื่อขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน เป็นการช่วยให้เกษตรกรและประชาชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนง่ายและสะดวกมากขึ้น เพื่อนำไปต่อยอดทำการเกษตรหรือใช้สอยในชีวิตประจำวัน จึงเป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องเร่งดำเนินการสนับสนุนส่งเสริมอำนวยความสะดวกให้มีการปลูก การจัดการ การตัด การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ รวมถึงการส่งออกไปขายในตลาดต่างประเทศ พัฒนาระบบการรับรองมาตรฐานไม้มีค่าทางเศรษฐกิจที่ได้รับการยอมรับจากต่างประเทศ
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าบูรณาการความร่วมมือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ขับเคลื่อนการใช้ไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันทางธุรกิจในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี อุทัยธานี พิษณุโลก และอ่างทอง โดยมีการนำร่องมอบวงเงินจดทะเบียนไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันทางธุรกิจให้แก่เกษตรกรทั้ง 4 จังหวัด พร้อมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนปลูกไม้ค่าทางเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นไม้ที่สามารถนำมาสร้างมูลค่า หรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เพื่อประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมแก่ผู้ปลูก เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อยและนำไปสู่การสร้างอาชีพที่มั่นคง สร้างความยั่งยืนด้านระบบนิเวศ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ตลอดจนสามารถนำไม้ยืนต้นมาใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้
อย่างไรก็ตาม จึงจัดงาน “100,000 ไม้ยืนต้น หลักประกันทางธุรกิจ” เพื่อประกาศความสำเร็จหลังสามารถผลักดันให้ไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันทางธุรกิจได้ผลเกินคาด ซึ่งได้รับความร่วมมือจากพันธมิตร โดยเฉพาะธ.ก.ส.ถือเป็นสถาบันการเงินแห่งแรกที่รับไม้ยืนต้นเป็นหลักประกัน และคาดว่าธนาคารพาณิชย์อื่นจะนำไปเป็นแบบช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจไม้รายอื่นในอนาคต จึงคาดว่าโครงการจะสามารถปลูกพันธุ์ไม้ยืนต้น เพื่อใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจได้จำนวน 100 ล้านต้นในไม่ช้านี้
นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันผลักดันโครงการ ปัจจุบันผู้ขอนำไม้ยืนต้นมาจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ 111,365 ต้น มูลค่ารวมกว่า 132,169,000 ล้านบาท ดังนั้น ผู้ที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่กองทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทร 0 2547 4944 สายด่วน 1570 www.dbd.go.th และ ธ.ก.ส.ทุกสาขาทั่วประเทศ.-สำนักข่าวไทย