fbpx

เตรียมแผนตั้งกองทุนฯ กำจัดซากเครื่องใช้ไฟฟ้าเก็บจากผู้ซื้อ

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ภาครัฐ-เอกชน -นักวิชาการ ผนึกกำลัง ศึกษาวิจัยจำลองกระบวนการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อกำจัดซาก 4 แสนตัน/ปี ไม่สร้างมลพิษ เริ่มทั้งผู้ใช้ ซาเล้ง การแยกขยะ ด้าน คพ.ผลักดันร่างกฎหมายดูแลให้ชัดเจนภายใน ก.ย.64 ตั้งกองทุนฯ ดูแลเก็บเงินจากผู้ซื้อเป็นหลัก


นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า ในงานเปิดตัวโครงการ “ศึกษาวิจัยจำลองกระบวนการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์” ว่าภาครัฐ เอกชน สถาบันวิชาการ ร่วมกันศึกษาเพื่อผลักดันให้เกิดระบบการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือขยะอิเล็กทรอนิกส์ ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน มุ่งให้เกิดการนำกลับมาใช้ใหม่ อย่างเป็นรูปธรรม ยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตามร่าง พ.ร.บ. การจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการยกร่างกฎหมายฟังความเห็นรอบด้าน คาดว่าร่างกฎหมายจะเสร็จสิ้นภายในเดือนกันยายน 2564

โดยใจความสำคัญ คือ ให้มีการกำจัดดูแลอย่างเป็นรูปธรรม ป้องกันปัญหามบพิษ ซึ่งปัจจุบันนี้ไทยห้ามนำเข้าซากผลิตภัณฑ์เหล่านี้แล้ว ขณะนี้ปริมาณซากฯ ในประเทศ มีประมาณ 400,000 ตัน จาก 5 ผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ 1. คอมพิวเตอร์ 2. เครื่องโทรศัพท์และโทรศัพท์ไร้สาย 3. เครื่องปรับอากาศ 4. เครื่องรับโทรทัศน์ 5. ตู้เย็น ดังนั้น แนวทางการดูแลจะมีการจัดตั้งองค์กรกลางขึ้นมาบริหารจัดการ และตั้งกองทุนฯ ขึ้นมาดูแลแหล่งที่มาของรายได้จะอยู่ในราคาสินค้า เช่น ตู้เย็นราคา 10,000 บาท จะมีการจัดเก็บเข้ากองทุนฯ 500 บาท เป็นต้น ซากผลิตภัณฑ์ฯ เหล่านี้มีส่วนประกอบทั้งส่วนที่มีมูลค่าและส่วนที่มีความเป็นพิษต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันประเทศไทยก็ยังไม่มีระบบการจัดการซากผลิตภัณฑ์ฯ ที่เหมาะสมและครอบคลุมทั้งการจัดเก็บ การรวบรวม การคัดแยก การถอดแยกชิ้นส่วน และการกำจัดซากผลิตภัณฑ์ฯ อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการและเป็นระบบทำให้ประชาชนทิ้งซากผลิตภัณฑ์ฯ ปนอยู่กับสิ่งปฏิกูลและขยะมูลฝอย หรือมีการจัดการที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้เกิดการปนเปื้อนออกสู่สิ่งแวดล้อม และอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของผู้ถอดแยกและสะสมในสิ่งแวดล้อม โดยระบบการจัดการซากผลิตภัณฑ์ฯ  ต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งกลุ่มผู้ผลิต ผู้รวบรวม ผู้ขนส่งและโรงงานถอดแยกชิ้นส่วน


“ขณะนี้แม้ร่างกฏหมายของไทยยังไม่มีการกำจัดซาก ซากผลิตภัณฑ์ฯ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ แต่ภาครัฐก็ต้องประชาสัมพันธ์ร่วมมือให้เกิดการคัดแยกอย่างถูกวิธี เช่น ซาเล้ง หาบเร่ เพื่อป้องกันมลพิษ โดยร่างกฎหมายที่จะออกมาปีหน้าก็จะครอบคลุมทุกด้าน มีกองทุนฯ ที่เกิดจากผู้ใช้เป็นผู้จ่าย นั้นก็คืออยู่ในราคาผลิตภัณฑ์ มีบทลงโทษที่เหมาะสม ซึ่งก็จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้” นายประลอง กล่าว

นายยงยุทธ ศรีชัย ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารด้านการใช้ไฟฟ้าและกิจการเพื่อสังคม กฟผ. กล่าวว่า กฟผ.สนับสนุนโครงการศึกษาวิจัยฯ ครั้งนี้ 5 ล้านบาท จากวงเงินวิจัยและพัฒนาต่อปี 1,300 ล้านบาท  โดยสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (สฟอ.) เป็นแกนหลักในการศึกษาวิจัยจำลองกระบวนการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการ 15 เดือน ตั้งแต่เดือนกันยายน 2563 – พฤศจิกายน 2564 ทั้งนี้ โครงการฯ จะเริ่มดำเนินกิจกรรมรับคืนซากประมาณการไว้ในช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม 2564 และดำเนินการขั้นตอนต่าง ๆ ผ่านระบบฐานข้อมูล Digital WEEE Manifest ซึ่งเป็นระบบที่พัฒนาเพื่อเป็นเครื่องมือติดตามซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางและจะดำเนินการนำร่องในพื้นที่ตัวอย่าง 2 พื้นที่ ได้แก่ จังหวัดนนทบุรีและจังหวัดบุรีรัมย์

สำหรับโครงการศึกษานี้ กฟผ.ดำเนินการให้สอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals; SDGs) ตลอดจนสร้างความตระหนักให้ผู้ประกอบการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เกิดการปรับปรุง พัฒนากระบวนการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และลดการใช้สารอันตรายในเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ทำให้เกิดการนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) อย่างเป็นรูปธรรม ยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อันเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างความยั่งยืนด้านทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และพลังงานของประเทศไทย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้