ครม. อนุมัติส่งสภาพัฒน์ร่วม UNDP เดินหน้าศูนย์นวัตกรรมระดับภูมิภาคในไทย

ทำเนียบรัฐบาล 4 ส.ค. – ครม.อนุมัติ สภาพัฒน์ตัวแทนประเทศไทยร่วมกับ UNDP เดินหน้าศูนย์นวัตกรรมระดับภูมิภาคในไทย รับมือการเปลี่ยนแปลงของโลกในอนาคต



นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ(UNDP) ในการดำเนินงานศูนย์นวัตกรรมระดับภูมิภาค(Regional Innovation Center : RIC) ในประเทศไทย โดยให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) เป็นผู้แทนรัฐบาลไทยในฐานะผู้ประสานงานศูนย์นวัตกรรมระดับภูมิภาคในประเทศไทย และมีหน้าที่รับผิดชอบโครงการ พร้อมเห็นชอบร่างเอกสารโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติในการดำเนินงานศูนย์ RIC ในประเทศไทย และอนุมัติให้เลขาธิการสศช.หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงนามในร่างเอกสารโครงการดังกล่าวของฝ่ายไทย นอกจากนี้ยังได้อนุมัติหลักการสำหรับงบประมาณสนับสนุนโครงการต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปี โดยให้สศช.จัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอน


สำหรับที่มาของโครงการนี้เกิดจากแนวคิดเรื่อง การปฏิรูปประเทศผ่านกลไกการดำเนินงานโครงการห้องปฏิบัติการนวัตกรรมภาครัฐ(Government Innovation Lab) ของ UNPD มีวัตถุประสงค์เพื่อออกแบบนวัตกรรมภาครัฐให้มีประสิทธิภาพสูงและตอบสนองความต้องการของประชาชน ประกอบด้วย 1.การสำรวจอนาคต(Future Lab) 2.การริเริ่มและทดสอบนโยบาย(Policy Lab) และ 3. การออกแบบนวัตกรรมภาครัฐ (Government Lab) ซึ่งรัฐบาลไทยและUNPD ได้หารือกันมาอย่างต่อเนื่องจนนำมาสู่การดำเนินการจัดตั้งเป็นศูนย์ RIC ในประเทศไทย


ส่วนประโยชน์ที่คาดว่าประเทศไทยจะได้รับ จะถือเป็นโอกาสอันดีในการแสดงบทบาทที่สร้างสรรค์ในฐานะผู้นำในการเชื่อมโยงเครือข่ายความร่วมมือในการจัดทำนวัตกรรมเชิงนโยบายระหว่างผู้จัดทำนโยบายรวมถึงการเสริมสร้างขีดความสามารถของผู้จัดทำนโยบายของประเทศด้วยกระบวนการคิดวิเคราะห์ที่ใช้เครื่องมือในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั่วโลก เช่น โควิด -19 และโครงการนี้ยังจะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินการของไทยเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน(Sustainable Development Goals) หรือ SDGs ส่วนประชาชนจะได้รับประโยชน์โดยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจากนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาของภาครัฐที่จะมีประสิทธิผลสูงขึ้น และกระบวนการขับเคลื่อนการบริหารจัดการภาครัฐมีประสิทธิภาพมากขึ้น


ด้านงบประมาณที่จะใช้ดำเนินการนั้นมีรายละเอียดดังนี้คือ สศช.ได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 จำนวน 42.625 ล้านบาท และเสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายปี 2564 จำนวน 30.5 ล้านบาท ส่วนปี 2565 ให้สศช.จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อจัดทำคำของบประมาณต่อไป . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก