กรุงเทพฯ 22 ส.ค. – ตลท.เชิญผู้เชี่ยวชาญระดับโลกจาก Nasdaq ร่วมเจาะลึกอนาคตโครงสร้างตลาดทุน-การซื้อขาย-นวัตกรรมเทคโนโลยี แนะเรียนรู้ตลาดหุ้นชั้นนำของโลกต่อยอดตลาดทุนไทย
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จัดงาน “The Future of Securities Markets and Trading” Evolution, Automation, and Innovations บรรยายโดย Mr.Phil Mackintosh – Chief Economist , Nasdaq Inc. ถึงประเด็น อนาคตโครงสร้างตลาดทุนและการซื้อขาย ของตลาดทุนทั่วโลกโดยยกตัวอย่างตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาที่ถือเป็นตลาดชั้นนำของโลกถึงพัฒนาการและทิศทางในอนาคต นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมการซื้อขายในอนาคต อาทิ ความเร็วในการส่งคำสั่ง HFT สภาพคล่อง และการซื้อขาย 24 ชั่วโมง การขยายการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น คริปโตเคอเรนซี่ และอนุพันธ์ต่างๆ รวมถึงการเติบโตของนักลงทุนรายย่อยในตลาดสหรัฐฯ
ดร.ศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าตลาดหุ้นสหรัฐและตลาดหุ้นไทยถือว่าอยู่คนละ state ตลาดหุ้นสหรัฐมีสภาพคล่องสูงมาก มี IPO หุ้นเทค มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการซื้อขาย ส่วนปัญหา Naked Shot เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในสหรัฐเมื่อ 10 ปีที่แล้ว นอกจากนี้ สิ่งที่น่าสนใจในตลาดหุ้นสหรัฐ ยังมีการทำ contact finance กิจกรรมทางการตลาดที่สำคัญ เช่น การใช้โผการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ มาเป็นเครื่องมือในการ ป้องกันความเสี่ยง (Hedging) การจัดงานครั้งนี้เป็นโอกาสที่ผู้ร่วมรับฟังจะได้เห็นว่าในอนาคตตลาดชั้นนำของโลกจะเป็นไปในทิศทางใด และมีสิ่งใดบ้างที่เราสามารถเรียนรู้ได้
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ และ Nasdaq ได้มีความร่วมมือในหลายด้าน อาทิ การขยายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ด้านการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานตลาดทุนไทย โดยมุ่งเน้นการพัฒนาด้านกำกับดูแลการซื้อขายและบริหารความเสี่ยง พร้อมต่อยอดสู่การนำเทคโนโลยี AI มาใช้ นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือในการค้นหาโอกาสทางนวัตกรรมใหม่ ๆ โดยใช้ความเชี่ยวชาญของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการนำโซลูชันที่พัฒนาโดยทีมงานที่มีประสบการณ์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อนำเสนอให้แก่ลูกค้าของ Nasdaq ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ใช้งาน ซึ่งจะเป็นการย้ำความแข็งแกร่งในความสามารถทางเทคโนโลยีของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของ Nasdaq อีกด้วย โดย ตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ใช้ระบบซื้อขายที่พัฒนาร่วมกับ Nasdaq มาตั้งแต่ปี 2566 ซึ่งเป็นเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เป็นมาตรฐานสากล.-516-สำนักข่าวไทย