สน.พหลโยธิน 4 ก.ค. – คุมตัว 2 ผู้ต้องหาปล้นเงิน 3.4 ล้านบาท กลางห้างดัง ฝากขัง ด้านตำรวจต่อจิ๊กซอว์แก๊งนี้ได้หมดแล้ว ใครทำหน้าที่อะไร ที่แท้ “เสือปุ่น” เป็นแฟนเก่า “น.ส.นานา” 1 ใน 7 ผู้ต้องหาที่ถูกจับ ถูกชวนมาร่วมปล้น
ตำรวจ สน.พหลโยธิน คุมตัวนายอนันต์ชัย หรือไอซ์ และนายนนทวัฒน์ หรือสอง ผู้ต้องหาในคดีปล้นเงิน 3.4 ล้านบาท กลางศูนย์การค้าย่านลาดพร้าว ไปขออำนาจศาลอาญาฝากขังผัดแรก โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวท้ายคำร้อง เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ มีอัตราโทษสูง และเกรงผู้ต้องหาจะหลบหนี
นายไอซ์ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า คดีนี้ตนได้ให้การกับตำรวจไปหมดแล้วและให้การปฏิเสธ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนวางแผน และไม่รู้เห็นเกี่ยวข้องอะไรกับเหตุการณ์ปล้นครั้งนี้ เช่นเดียวกับกลุ่มผู้เสียหายตนก็ไม่ทราบว่ามีเงินสีเทาหรือไม่ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าในวันนั้นเหมือนถูกโดนหลอกไปก่อเหตุหรือไม่ นายไอซ์ ยอมรับว่าน่าจะถูกหลอกไป ตอนนี้ตนเครียดและกังวลอย่างมาก ส่วนนายสอง บอกกับผู้สื่อข่าวเพียงแค่ว่า ขอไปให้การในชั้นศาล แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนไม่รู้เรื่องและตนเองก็ไม่มีอาวุธปืนด้วย ถ้าศาลให้ประกันตัวตนก็จะยื่นประกัน ตอนนี้ตนรู้สึกเครียดและกังวลในเรื่องการดำเนินคดีเช่นเดียวกัน
สำหรับเรื่องเงินส่วนแบ่งนั้น ทั้งนายไอซ์และนายสอง ยืนยันยังไม่ได้เงินส่วนแบ่งแต่อย่างใด เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามทิ้งท้ายว่าอยากฝากอะไรถึงเสือปุ่นและผู้ต้องหาที่เหลือที่ยังลอยนวลหรือไม่ ทั้งสองคนไม่ตอบคำถามอะไร ซึ่งจากการสังเกตของผู้สื่อข่าว เห็นได้แน่ชัดว่าทั้งสองคนมีสีหน้าและอาการที่เครียดอย่างมาก
มีรายงานจากทีมสืบสวน ว่าคดีนี้มีนายเฌอพัชญ์ หรือหนาว เป็นตัวการใหญ่สุด โดยนายหนาวรู้จักกับนายเต้ ผู้เสียหายเป็นอย่างดี จากการเคยซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีด้วยกัน และคาดว่านายหนาว น่าจะรู้ว่ากลุ่มผู้เสียหายมีเงินสีเทาตามที่ให้การกล่าวอ้าง
นายหนาวจึงคิดจะวางแผนปล้นเงินจากกลุ่มผู้เสียหาย จึงได้ชักชวน น.ส.นานา ที่เคยร่วมกันก่อเหตุกรรโชกทรัพย์ท้องที่ สน.โคกคราม มาร่วมก่อเหตุครั้งนี้ จากนั้น น.ส.นานา ได้ไปชักชวนเสือปุ่น ซึ่งเคยเป็นแฟนเก่าของ น.ส.นานา มาร่วมก่อเหตุอีกที นั่นจึงเป็นเหตุทำให้นายหนาวอ้างว่าไม่รู้จักกับเสือปุ่น
เมื่อรวมกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ 7 คน ตามที่ถูกออกหมายจับและทั้งหมดก็สมรู้ร่วมคิดวางแผน ร่วมกันก่อเหตุ ซึ่งสวนทางกับสิ่งที่ผู้ต้องหาให้การกับพนักงานสอบสวนและบอกกับผู้สื่อข่าวที่อ้างว่าไม่รู้เห็นแผนการปล้นดังกล่าว
เมื่อก่อเหตุเสร็จ ทั้งหมดก็ได้มาแบ่งส่วนแบ่งกัน โดยคาดการณ์ว่า ด้วยความที่นายหนาว และ น.ส.นานา เป็นหัวโจกใหญ่ที่รู้จักกับผู้เสียหายและเป็นคนวางแผนล่อลวงการปล้นครั้งนี้ เลยทำให้นายหนาว และ น.ส.นานา ได้เงินส่วนแบ่งไปมากถึง 1.9 ล้านบาท ส่วนพวกเสือปุ่นที่มาร่วมก่อเหตุปล้นครั้งนี้ ก็ได้เงินส่วนแบ่งไป 1.5 ล้านบาท
สำหรับตัวนายไอซ์ ซึ่งเป็นคนขับรถ Honda คันก่อเหตุนั้น เบื้องต้นพบว่าได้เงินค่าจ้างจำนวน 1,000 บาท ส่วนนายสอง เชื่อว่าได้เงินค่าจ้างเช่นเดียวกัน แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่ยอมปริปากให้การประเด็นดังกล่าว ทั้งนี้ คาดว่าที่นายหนาวกับพวกกล้าที่จะก่อเหตุ อาจเป็นเพราะคิดว่าเงินที่ปล้นจากผู้เสียหายเป็นเงินสีเทา จึงอาจจะทำให้ผู้เสียหายไม่กล้าที่จะแจ้งความกับตำรวจ แต่เชื่อว่า สาเหตุที่ผู้เสียหายตัดสินใจแจ้งความ เป็นเพราะเงินที่ถูกปล้นมีจำนวนมากและเป็นการแก้แค้นผู้ก่อเหตุ
คดีนี้ชุดสืบนครบาลยังคงเร่งไล่ล่าติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับอีก 3 ราย คือนายวรวัฒน์ หรือปุ่น หรือเสือปุ่น, นายบอล และนายรุ่งนิรันดร์ หรือโบ้ ซึ่งตอนนี้ยังไม่พบว่าหลบหนีออกนอกประเทศ และคาดว่าทั้งสามคนน่าจะหลบหนีไปด้วยกัน.-415-สำนักข่าวไทย