ปลายปี 68 ทุกโครงการบนถนน “พระราม 2” เสร็จ พร้อมเปิดให้ใช้บริการ

กรุงเทพ 17 ก.พ. – “สุริยะ” มั่นใจปลายปีนี้ทุกโครงการบนถนน “พระราม 2” เสร็จ! พร้อมเปิดให้ใช้บริการ สั่ง ทล.คุมเข้มทุกสัญญาก่อสร้าง-ลงพื้นที่กำจัดฝุ่น PM2.5 พร้อมเผยผลสอบเครนทรุดคาดใช้เวลาอีก 1 เดือน ได้ข้อสรุป


นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้างบนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) ว่า ในปัจจุบันถนนพระราม 2 โครงการก่อสร้างมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันตก ซึ่งเป็นโครงการภายใต้ความรับผิดชอบโดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ล่าสุดความก้าวหน้าภาพรวมอยู่ที่ 87.06% ซึ่งทุกสัญญางานด้านโยธาจะแล้วเสร็จภายในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2568 และจะพิจารณาแนวทางในการเปิดให้ประชาชนใช้บริการต่อไป

ขณะที่โครงการทางพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 82 สายบางขุนเทียน – เอกชัย – บ้านแพ้ว (M82) ระยะทาง 25 กิโลเมตร ในขณะนี้ช่วงบางขุนเทียน – เอกชัย จำนวน 3 สัญญา มีความคืบหน้าแล้ว 98.42% และช่วงเอกชัย – บ้านแพ้ว จำนวน 10 สัญญา มีความคืบหน้าแล้ว 70.60% ซึ่งในส่วนของงานโยธาคาดแล้วเสร็จในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2568 ส่วนงานระบบอยู่ระหว่างคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน คาดได้ข้อสรุปภายในปี 2568 – 2569 และจะเริ่มก่อสร้าง รวมถึงดำเนินการงานด้านระบบปี 2569 คาดแล้วเสร็จปี 2571 เพื่อให้ประชาชนได้ใช้บริการต่อไป ทั้งนี้ ระหว่างที่ดำเนินการงานระบบจะเปิดให้ประชาชนวิ่งผ่าน โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมผ่านทาง


นายสุริยะ กล่าวต่อถึงโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก โดยทั้งหมดมี 5 สัญญา ซึ่งความก้าวหน้าการก่อสร้าง ณ เดือนมกราคม 2568 แบ่งเป็น สัญญาที่ 1 คืบหน้า 81.70% สัญญาที่ 2 คืบหน้า 94.72% สัญญาที่ 3 คืบหน้า 83.78% สัญญาที่ 4 เสร็จสิ้นพร้อมเปิดให้บริการแล้ว และสัญญาที่ 5 คืบหน้า 2.69% โดยทุกสัญญานั้นยังคงดำเนินการเร็วกว่าแผนเล็กน้อย และอยู่ในขั้นตอนของการเร่งรัดดำเนินการอย่างเต็มความสามารถ โดยการเพิ่มกำลังคนและเครื่องจักร เพื่อให้สามารถก่อสร้างเป็นไปตามแผน เบื้องต้นมุ่งหวังให้ภายในปี 2568 จะเปิดให้ประชาชนได้ใช้บริการ พร้อมย้ำทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยและต้องไม่มีผลกระทบต่อผู้ใช้ทางอย่างเด็ดขาด

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า สืบเนื่องมาจากการก่อสร้างที่มีจำนวนมากบริเวณถนนพระราม 2 จึงมีความเสี่ยงต่อปัญหาฝุ่น PM 2.5 ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด โดยได้สั่งการให้ ทล. นำรถบรรทุกน้ำออกพรมถนนและพื้นที่เกาะกลางที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พร้อมทั้งฉีดล้างทำความสะอาดผิวจราจรช่องทางหลักและคู่ขนาน รวมถึงงานล้างทำความสะอาดและเก็บเศษดินบริเวณแนวแบริเออร์คอนกรีตและแผงผ้าใบ ทั้งนี้ หากระดับปริมาณฝุ่น PM 2.5 มีค่าเกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จะต้องดำเนินการปล่อยฝอยละอองน้ำความดันสูง เพื่อดักจับฝุ่นละอองทั่วทุกพื้นที่ที่มีความเสี่ยง

ด้านนายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง เผยต่อถึงโครงการก่อสร้าง M82 มีความคืบหน้า ดังนี้ แยกต่างระดับ บางขุนเทียน – เอกชัย สัญญา 1 คืบหน้า 98.13% คาดเสร็จ เดือนมีนาคม 2568 สัญญา 2 คืบหน้า 98.41% คาดเสร็จเดือนกุมภาพันธ์ 2568 สัญญา 3 คืบหน้า 98.73% คาดเสร็จเดือนกุมภาพันธ์ 2568 สำหรับช่วงเอกชัย – บ้านแพ้ว สัญญา 1 คืบหน้า 78.66% คาดเสร็จเดือนพฤศจิกายน 2568 สัญญา 2 คืบหน้า 73.44% คาดเสร็จเดือนสิงหาคม 2568 สัญญา 3 คืบหน้า 77.21% คาดเสร็จเดือนสิงหาคม 2568 สัญญา 4 คืบหน้า 55.53% คาดเสร็จเดือนพฤศจิกายน 2568 สัญญา 5 คืบหน้า 82.96% คาดเสร็จเดือนสิงหาคม 2568 สัญญา 6 คืบหน้า 54.84% คาดเสร็จเดือนพฤศจิกายน 2568 สัญญา 7 คืบหน้า 45.94% คาดเสร็จเดือนพฤศจิกายน 2568 สัญญา 8 คืบหน้า 77.98% คาดเสร็จเดือนสิงหาคม 2568 สัญญา 9 คืบหน้า 87.78% คาดเสร็จเดือนสิงหาคม 2568 สัญญา 10 คืบหน้า 71.65% คาดเสร็จเดือนพฤศจิกายน 2568 และโครงการบ้านแพ้ว คืบหน้า 80.93% คาดเสร็จเดือนพฤศจิกายน 2568


สำหรับความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีคานปูน (Segment) และโครงสร้างเหล็ก (Launching Gantry Crane) ซึ่งเป็นส่วนประกอบของโครงการก่อสร้าง M82 ที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงมุ่งเน้นการวิเคราะห์ข้อมูลทางวิศวกรรมอย่างละเอียดรอบด้าน พิจารณาจากหลักฐานและการวิเคราะห์ทางเทคนิค การให้ถ้อยคำของพยานบุคคลในช่วงเวลาเกิดเหตุ และปัจจัยที่เกี่ยวข้องในทุกด้าน

ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ ได้ตั้งข้อสันนิษฐานไว้ 2 ประการ ได้แก่ 1) ภาวะไม่ปลอดภัยที่ตัวโครงสร้างเหล็ก (Launching Gantry Crane) และ 2) การกระทำที่ไม่ปลอดภัยที่มาจากการควบคุมการทำงานโดยบุคคล ซึ่งล่าสุดคณะกรรมการฯ ได้สรุปเบื้องต้นแล้วว่า เกิดจากการกระทำที่ไม่ปลอดภัยที่มาจากการควบคุมการทำงานโดยบุคคล โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการสอบสวนพยานเพิ่มเติม คาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ภายใน 1 เดือน เพื่อให้ผลการสอบสวนมีความถูกต้อง เป็นประโยชน์ต่อการป้องกันอุบัติเหตุในอนาคต และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน. -513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบกสดุดีทหารกล้า จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ ขอพระราชทานยศทหารเลื่อนขั้นอย่างสมเกียรติ วันที่ 30 ก.ค. 68 กองทัพบกร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและส่วนราชราชการพื้นที่ จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพทหารกล้าที่สละชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ จากเหตุการณ์พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยใน พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มอบให้คณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก ร่วมเป็นเกียรติในพิธีพระราชทานเพลิงศพของทหารหาญ จำนวน 4 นาย ดังนี้ 1.ส.อ.จิรายุ สิงห์อ้น ตำแหน่งพลลาดตระเวน กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6 (ร้อย ลว.ไกล 6) กองพลทหารราบที่ 6 ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ (25 ก.ค.68) ณ วัดตลาดราชมงคล อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด โดยมี พล.อ. ณัฐวุฒิ นาคะนคร รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีพระราชเพลิงศพ โดยกองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ขั้น ขอพระราชทานยศทหารเป็นร้อยโท […]

ทบ.ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบก ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน ประชาคมโลกต้องเห็นความเสียหาย ทั้งบ้านเรือน-โรงเรียน-โรงพยาบาล เร็วๆ นี้ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ เข้าดูพื้นที่บริเวณจุดปะทะ บริเวณช่องอานม้า จ.อุบลราชธานีว่า จุดที่ฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศลงไปดูพื้นที่ปฏิบัติการทางทหาร บริเวณจุดที่เคยมีการปะทะกันนั้น เป็นบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี จึงเห็นมีภาพปรากฏถึงความเสียหายที่เกิดจากการใช้อาวุธจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งคงเป็นเรื่องปกติ เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในบริบทของพื้นที่ทางยุทธการ และบริเวณนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายทางทหาร สำหรับฝ่ายไทยมีแผนจะจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน โดยฝ่ายไทยจะไม่เน้นการสร้างภาพลวงแบบฉาบฉวย แต่จะเน้นสื่อสารเชิงคุณภาพ สิ่งที่จำเป็นจะต้องสื่อถึงประชาคมโลกคือ ความเสียหายต่อบ้านเรือน โรงเรียน โรงพยาบาล ที่ฝ่ายทหารกัมพูชาจงใจพุ่งเป้าโจมตีไปยังเป้าหมายเหล่านั้น จนมีพลเรือน ประชาชน เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ลึกไกลเข้ามาภายในประเทศไทย และห่างจากพื้นที่สู้รบเข้ามาในไทยไกลมากถึง 10-30 กิโลเมตร พล.ต.วินธัย กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย รวมถึงขัดต่อหลักปฏิบัติทางทหารตามกฎหมายสากล และหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเจตนาละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับ ที่ห้ามการโจมตีพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ กองทัพบกไทยขอยืนยันอีกครั้งว่า เราปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเป็นหลักเท่านั้น และยึดมั่นในกติกาสากล โดยขอย้ำว่า ฝ่ายไทยไม่ได้รุกรานใคร แต่เรามีสิทธิชอบธรรมในการปกป้องประชาชนและผืนแผ่นดินของเรา.-313.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก

ทำเนียบ 30 ก.ค.-โฆษกรัฐบาล เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก พร้อมประณามกัมพูชาละเมิดมนุษยธรรมร้ายแรง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ประณามการกระทำของรัฐบาลและกองทัพกัมพูชาอย่างรุนแรง กรณีการใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายที่เป็นสถานพยาบาลของไทยในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรมขั้นพื้นฐานและเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน พร้อมกันนี้นายจิรายุ ยังเปิดภาพโรงพยาบาลบางส่วนที่ได้รับความเสียหาย ได้แก่ โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) คำโปรย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โคก, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซำเม็ง “ประเทศไทยขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกจับตามองและประณามการกระทำดังกล่าว ซึ่งต่างจากประเทศไทยที่ยึดมั่นในหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด โดยปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียแก่พลเรือ” โฆษกรัฐบาล ระบุ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. พบว่า จากการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายของกัมพูชา ได้ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 15 ราย ในพื้นที่จ.อุบลราชธานี และศรีสะเกษ บาดเจ็บสาหัส 12 […]

เหตุพลุระเบิด เสียชีวิตเพิ่มเป็น 10 คน

สุพรรณบุรี 30 ก.ค. – เหตุพลุระเบิด จ.สุพรรณบุรี พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ที่โรงพยาบาล รวมเสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย คืบหน้าเหตุพลุระเบิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี ล่าสุด พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผู้บังคับการภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิต จำนวน 10 ราย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 9 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ขณะนี้ได้สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงประสานชุด EOD เข้าเก็บกู้ดินปืน เนื่องจากตรวจสอบพบหลุมขนาดใหญ่สีดำจำนวน 2 หลุม และดินปืนจำนวนหนึ่ง อีกทั้งยังพบร่างผู้เสียชีวิต ชิ้นส่วนจำนวนหนึ่งบริเวณที่เกิดเหตุ ส่วนข้อมูลการตรวจสอบ พบว่าบ้านหลังนี้มีการลักลอบผลิตพลุไล่นก.-สำนักข่าวไทย