สนข.ยืนยันความพร้อมใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐด้านขนส่ง 1 ต.ค.นี้

กรุงเทพฯ 29 ก.ย.-สนข.
ยืนยันความพร้อมผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใช้บริการระบบขนส่งที่เข้าร่วมโครงการ
1 ตุลาคมนี้
นำร่องรถไฟและบขส. ส่วนรถเมล์ ขสมก. ที่จะตามมา วันที่
17 ตุลาคม หลังแจกบัตรในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลรวม
7 จังหวัด


นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร หรือ สนข.ยืนยันถึงความพร้อม
การใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับระบบขนส่งที่เข้าร่วมโครงการฯตั้งแต่ในวันที่
1 ตุลาคมนี้ว่า สำหรับบริการรถไฟโดยสารและรถโดยสาร
ของบริษัทขนส่ง จำกัด หรือ บขส.สามารถใช้ได้ ส่วนวันที่
17 ตุลาคม 2560
ผู้มีสิทธิที่ลงทะเบียนใน
7 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี
พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ นครปฐม และสมุทรสาคร จำนวนประมาณ
1.3 ล้านคน
ซึ่งจะได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (แบบ
Hybrid 2 Chips เพื่อรวมข้อมูลเหมือนตั๋วร่วมบัตรแมงมุม
เพื่อใช้ชำระค่าสินค้าและค่าโดยสารตามรายการและวงเงินที่กำหนด
โดยเฉพาะค่าโดยสารรถเมล์ขสมก.และ ระบบรถไฟฟ้า ที่จะตามมาในอนาคต

สนข.
มั่นใจในความพร้อม
เนื่องจากที่ผ่านมาได้มีการควบคุมคุณภาพของบัตรที่ผลิตเป็นอย่างดี  โดยเฉพาะการใช้งานที่ต้องมีการอ่านข้อมูลในบัตร
ต้องทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนปัญหาความขัดข้องนั้น ขอให้มีความระมัดระวังโดยเฉพาะของระบบรถเมล์โดยสาร
ขสมก.
ที่ต้องให้ผู้โดยสารแตะบัตรที่เครื่องอ่านซึ่งมีให้ใช้งานทั้งระบบที่ติดกับตัวรถ
และระบบโมบายโดยพนักงานเก็บค่าโดยสาร
ก็ขอให้มีการซักซ้อมพนักงานและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจเพื่อให้เกิดความคล่องตัว
ในระหว่างการใช้บริการ
ผู้อำนวยการสนข. กล่าว


สำหรับความพร้อมของหน่วยงาน
ที่เป็นผู้ให้บริการระบบขนส่งเหล่านี้ เริ่มจากการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท.
ล่าสุด นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รักษาการผู้ว่าการรฟท. ระบุว่า ในส่วนของร.ฟ.ท.ร่วมกับ
ธนาคารกรุงไทยติดตั้งเครื่อง  
EDC ประจำสถานีรถไฟทุกแห่ง
444 สถานี จำนวน 534 เครื่อง
เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการใช้งานสำหรับประชาชนที่ลงทะเบียนผู้ที่รายได้น้อยที่ถือบัตร
สามารถนำบัตรมาใช้สิทธิ์ขึ้นรถไฟชั้น
3 ทุกขบวน
ทดแทนโครงการรถไฟฟรีเพื่อประชาชน และการติดตั้งเครื่อง
EDC ได้อบรม แนะนำ
วิธีการใช้งานให้กับเจ้าหน้าประจำสถานี เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารที่ถือบัตรสวัสดิการมาใช้บริการเครื่องชำระเงินดังกล่าวที่ช่องจำหน่ายตั๋วทุกสถานีทั่วประเทศ
ขณะนี้ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องแล้วเสร็จพร้อมใช้งานทุกสถานี
โดยสถานีกรุงเทพได้ติดตั้งมากที่สุด จำนวน
22 เครื่อง เนื่องจากเป็นสถานีหลักและมีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก
ส่วนสถานีอื่น ๆ ได้ติดตั้งจำนวนเครื่องตามความเหมาะสมกับสถานี
เพื่อรองรับประชาชนที่มาใช้บริการ สำหรับการออกตั๋วโดยสารโดยชำระเงินผ่านเครื่อง
EDC จะต้องดำเนินการที่สถานีรถไฟเท่านั้น
ส่วนป้ายหยุดรถต่าง ๆ ไม่สามารถออกตั๋วได้ เนื่องจากไม่มีระบบการออกตั๋วออนไลน์ คาดว่าเมื่อเปิดใช้งานแล้วจะมีผู้ใช้บริการรถไฟที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้มีรายได้น้อยมากขึ้น
โดยรถไฟใช้บริการได้จำนวน
500 บาทต่อเดือน

ส่วนบริการรถโดยสาร นายจิรศักดิ์ เยาว์วัชสกุล
กรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส.กล่าวว่า บขส. ได้ประสานธนาคารกรุงไทย ติดตั้งเครื่อง
EDC ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ
ทั้ง
3 แห่ง (จตุจักร, เอกมัย,ถนนบรมราชชนนี)
และสถานีเดินรถของ บขส. ทั่วประเทศ รวม
121 จุด
เพื่ออำนวยความสะดวกในการจองซื้อตั๋วโดยสารแก่ผู้ถือบัตรดังกล่าว  ซึ่งเงื่อนไขของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในการใช้สิทธิโดยสารรถของ
บขส. ต้องยื่นบัตรแสดงตนในการซื้อตั๋วโดยสารและต้องเป็นผู้เดินทางเองเท่านั้น
,สามารถซื้อตั๋วรถโดยสาร
บขส. ภายในวงเงิน
500 บาทต่อเดือน
กรณีที่ค่าโดยสารเกินวงเงินที่ได้รับต้องจ่ายส่วนต่างเป็นเงินสดเท่านั้น
,สามารถเดินทางไปกับรถโดยสาร
บขส. ได้ทุกมาตรฐาน ทุกเส้นทางสามารถใช้ร่วมกับสิทธิลดหย่อนอื่น ๆ
แต่เมื่อซื้อตั๋วโดยสารแล้วไม่สามารถคืนตั๋วแต่สามารถเลื่อนการเดินทางได้ภายใต้เงื่อนไขที่บขส.กำหนด
และผู้ใช้สิทธิ์สามารถซื้อตั๋วโดยสารได้ที่ช่องจำหน่ายตั๋วของ บขส. ณ
สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ ที่จตุจักร
,เอกมัย,ถนนบรมราชชนนี)
และที่ทำการสถานีเดินรถ บขส.ทั่วประเทศ จำนวน
121 จุด

นายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการ ผู้อำนวยการ ขสมก.
กล่าวว่า ขสมก.ได้ติดตั้งระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (
E-Ticket) ได้จำนวน 200 คัน อีก 600 คัน
เพื่อให้สอดคล้องกับการออกบัตรสวัสดิการ
ขสมก.ได้ใช้เครื่องอ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์มือถือ แบบโมบาย โฟน และทาง
ขสมก.จะติดตั้งเครื่องอ่านบัตร
E-ticket ให้ครบ 800 คัน ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2560
หลังจากนั้นติดตั้งอีก
1,500 คัน ในเดือนธันวาคมนี้ และครบ 2,600 คัน ในเดือนมิถุนายน
2561 สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ
จะต้องนำบัตรมาแตะที่เครื่องอ่านบัตรในขณะที่ขึ้นและลงรถโดยสาร
เป็นการตัดค่าโดยสารอย่างอัตโนมัติ ซึ่งรถโดยสารทั้ง
800 คัน
จะติดสติ๊กเกอร์สีเขียวข้อความ “รถคันนี้ใช้ระบบเก็บเงินอัตโนมัติ”
แทนที่ข้อความ “รถเมล์ฟรีจากภาษีประชาชน” ที่กระจกด้านหน้า ด้านข้าง
และด้านหลังรถโดยสาร


ส่วนระบบรถไฟฟ้า บัตรดังกล่าวจะเชื่อมต่อเข้ากับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์
รถไฟฟ้าสายสีม่วง และรถเมล์ทั้ง
2,600 คัน ภายในเดือนมีนาคม ปี 2561 ก่อนจะเชื่อมต่อเข้ากับรถไฟฟ้าบีทีเอส
รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ในกลางปี
2561

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางบัตรสวัสดิการของประชาชน
ในส่วนของธนาคารออมสินมีผู้ผ่านคุณสมบัติ
3.5  ล้านราย
แจกบัตรสวัสดิการไปแล้ว
1 ล้านราย สำหรับ ธ.ก.ส. มีผู้ผ่านคุณสมบัติ 6.16 ล้านราย
รับบัตรสวัสดิการไปแล้ว 
2.77 ล้านรายสำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังข้อเท็จจริง​ปมทุ่นระเบิดช่องบก

กองทัพบก 22 ก.ค.- ทบ.​ เชิญ​ผู้ช่วยทูตทหาร​ 47 ประเทศ​ รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​-กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ พบ เป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​วางใหม่​ โดยมีหลายชาติ สนใจรับฟังขณะ​ พลจัตวา​ ฮอม​ คิม ผู้ช่วยทูตทหารดัมพูชา ร่วมด้วย กองบัญชาการ​กองทัพ​บก​ เชิญผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำประเทศไทย​ รับฟังการชี้แจงสถานการณ์​ชายแดนไทย​-กัมพูชา​ ถึงข้อเท็จจริงกรณีไทยโดนรุกล้ำอธิปไตย​ และมีการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ ทำให้ทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย​ และมีการตรวจสอบว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่​ ที่วางในเขตไทย​ ซึ่งขัดต่ออนุสัญญา​ออตตาวา​ ที่ทั้งไทยและกัมพูชาเป็นประเทศภาคี​ที่ให้สัตยาบัน​​ บรรดาทูต​ทหาร​ ทยอยเดินทางมายังห้อง ศรีสิทธิสงคราม​ ภายในกองทัพบก ตั้งแต่เวลา​ 13.20 น.​ อาทิทูตทหารจากเวียดนาม เมียนมา อินเดีย ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ อังกฤษ บูรไน ออสเตเรีย สหรัฐอเมริกา อินโดนิเซีย จีน กัมพูชา เยอรมันนี แคนนาดา […]

พายุวิภากระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านอาหารถล่ม

จันทบุรี 22 ก.ค. – พายุกระหน่ำจันทบุรี ซัดหลังคาร้านข้าวมันไก่ถล่ม กระแทกหลังแม่เจ้าของร้านได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่ภูเก็ตพายุถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต หลังคาร้านข้าวมันไก่ บริเวณตลาดศิริการ อ.เมือง จ.จันทบุรี ถูกพายุพัดร่วงลงมาทั้งแผง ท่ามกลางความตื่นตระหนกของลูกค้าและพนักงานในร้าน เหตุดังกล่าวเกิดช่วงเที่ยงพอดี จึงมีลูกค้ามานั่งกินข้าวเต็มร้าน กระทั่งมีฝนเทลงมา ทางร้านและลูกค้าจึงช่วยกันขนย้ายโต๊ะเก้าอี้เข้าข้างในเพื่อหลบฝน ก่อนพายุจะซัดเข้ามาอย่างรุนแรง จนหลังคาถล่ม เบื้องต้นไม่มีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ มีเพียงแม่เจ้าของร้านข้าวมันไก่อีกร้าน ที่อยู่ติดกัน ถูกหลังคากระแทกหลังได้รับบาดเจ็บ นำส่งโรงพยาบาลแล้ว พนักงานร้านข้าวมันไก่ บอกว่า ปกติบริเวณนี้มีฝนตกบ่อย หลังคาแข็งแรงดี ไม่ได้ชำรุดอะไร แต่วันนี้ ลมแรงมาก มาแบบวูบเดียว พัดหลังคาลอยขึ้นก่อนพังลงมา ทั้งนี้ลมพายุได้พัดหลังคาของตึกที่อยู่ในละแวกร้านข้าวมันไก่พังเสียหายจำนวน 15 คูหา เบื้องต้นกำลังทหารและตำรวจ ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว พายุโซนร้อนวิภาถล่มภูเก็ต ป้ายล้ม-ต้นไม้ทับสาวจีนเสียชีวิต ที่หน้าหาดเกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ หอบข้าวของวิ่งหนีลมพายุ จังหวะนั้นต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกลมพัดโค่นลงมา ในคลิปจะได้ยินเสียงคนพูดว่า “เห็นไหม คน ๆ อยู่ใต้นั้น” หลังเหตุการณ์สงบ […]

รถบรรทุกพุ่งชน จยย.พ่วงข้างรับส่ง นร. ตาย 3 เจ็บ 6

พระนครศรีอยุธยา 22 ก.ค. – สลด รถบรรทุก 6 ล้อ พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 6 คน เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 6 ล้อ ทะเบียนพระนครศรีอยุธยา พุ่งชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างรับส่งนักเรียน โรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ ก่อนตกลงไปในร่องน้ำ บนถนนชนบทเลียบคลองระพีพัฒน์ หมู่ 5 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอัดกับรั้วบ้านจนรถพังยับ มีผู้ติดอยู่ในรถ 2 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์ตัดช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คนออกมา แต่ผู้โดยสารเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพรถเสียหายยับเยิน คนบนรถ 7 คน เป็นนักเรียนโรงเรียนวัดมณฑลประสิทธิ์ 6 คน ผู้ปกครอง 1 คน บาดเจ็บทั้งหมด เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลวังน้อย และมีนักเรียน 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ จุดกิตติวังน้อย […]

โฆษก ทบ. เผยนานาชาติเข้าใจไทยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด

กองทัพบก 22 ก.ค.- โฆษก ทบ. เผยเคลียร์ปมทุ่นระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ขณะผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชานั่งนิ่งไม่โต้แย้ง – ให้กองทัพภาคที่ 2 ประเมินสถานการณ์หลังคนไทยนัดรวมตัวปราสาทตาเมือนธม ปลายเดือนนี้ พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหาร รับฟังคำชี้แจง​สถานการณ์​ชายแดน​ไทย​- กัมพูชา​ หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดบาดเจ็บ​ 3 นาย​ ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟังและมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ในเรื่องข้อเท็จจริง พลตรีวินธัย เปิดเผยว่า ทูตทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันใช่หรือไม่ ซึ่งทางเรา ก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก คือทำให้เป็นทางการ ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องของการละเมิด บูรณภาพดินแดน และเอ็มโอยู 2543 และอนุสัญญาออตตาวา ด้วยหรือไม่ พลตรีวินธัย ระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญา ที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหา […]

ข่าวแนะนำ

พายุวิภาทำเชียงรายอ่วม-รพ.เทิง งดรับผู้ป่วยชั่วคราว

เชียงราย 23 ก.ค. – พายุวิภาทำ อ.เทิง จ.เชียงราย อ่วม น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร โรงพยาบาลเทิง ประกาศงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไปชั่วคราว รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ด้านนายอำเภอสั่งการเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุวิภา ทำให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรหลายอำเภอใน จ.เชียงราย โดยเฉพาะ อ.เทิง สถานที่ราชการ ได้แก่ สภ.เทิง ศาลจังหวัด และโรงพยาบาลเทิง เกิดน้ำท่วมขัง โรงพยาบาลต้องงดให้บริการผู้ป่วยทั่วไป รับเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น ขณะที่สถานการณ์โดยทั่วไปยังมีฝนตกหนัก นายอำเภอเทิงลงพื้นที่ สั่งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายของขึ้นที่สูง อพยพผู้ป่วยและผู้สูงอายุไปยังที่ปลอดภัย ส่วนถนนพหลโยธิน ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย น้ำป่าจากดอยโป่งพระบาทไหล่เอ่อท่วมถนนด้านขาขึ้น การสัญจรเป็นไปอย่างยากลำบาก ภาพรวมสถานการณ์ จ.เชียงราย เบื้องต้นมีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 5 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 100 ครัวเรือน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

มท.2 รับกังวล จ.น่าน ที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม.

ก.มหาดไทย 23 ก.ค.-มหาดไทย ถกวอรูมติดตามสถานการณ์ “พายุวิภา” ห่วงพื้นที่เหนือ-อีสาน พื้นที่ราบเชิงเขา เสี่ยงน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ด้าน มท.2 กำชับพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม-ความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน เผยเตรียมลงพื้นที่เชียงราย-น่าน รับกังวลน่านที่สุด เหตุ 1 ชม. น้ำขึ้น 30 ซม. สั่ง ปภ.-กรมชลฯ เร่งสูบน้ำ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยแห่งชาติหรือ บกปภ.ช. ประชุมตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์พายุ “วิภา” โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ร่วมรับฟัง และมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ เข้าร่วมประชุมติดตามสถานการณ์ ได้ติดตามภาพรวมสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทั้งจังหวัดแถบภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ให้หลายจังหวัดจากอิทธิพลพายุวิภาในที่ประชุม กล่าวว่า ได้มีการรายงานสถานการณ์เป็นรายพื้นที่ ประกอบด้วยพื้นที่ติดภูเขา ที่ราบเชิงเขา โดยให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และการตรวจสอบสภาพดินที่ได้รับการสะสมของปริมาณฝนที่ตกลงมา ซึ่งมีลักษณะอุ้มน้ำ และความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำป่าไหลหลาก […]

ฝนถล่มน่าน น้ำเริ่มท่วมหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นรวดเร็ว

น่าน 23 ก.ค.-อิทธิพลจากพายุวิภา ทำให้ฝนถล่มน่านอย่างหนัก ปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตร น้ำเริ่มท่วมในหลายพื้นที่ และน้ำน่านเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จ.น่าน ขณะนี้ฝนตกหนักต่อเนื่องมาเกือบ 20 ชั่วโมงแล้ว และหลายพื้นที่โดยเฉพาะทางตอนเหนือวัดปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรเกือบ 20 สถานี ส่งผลให้ระดับน้ำน่านเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยชั่วโมงละ 30 เซนติเมตร แม้ว่าระดับน้ำน่านยังต่ำกว่าตลิ่งอยู่มาก แต่ฝนที่ตกหนักติดต่อกันมาทั้งคืน โดยเฉพาะทางตอนเหนือของเมืองทั้งที่ปัว บ่อเกลือ เฉลิมพระเกียรติ ท่าวังผา และอีกหลายอำเภอ ซึ่งจากข้อมูลปริมาณน้ำฝนจากสถานีวัดของมูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก ในจังหวัดน่าน เมื่อเช้านี้พบปริมาณฝนสะสมเกิน 200 มิลลิเมตรถึง 18 สถานี สูงสุดอยู่ที่สถานีต้นน้ำน้ำกอนฝั่งซ้าย ตำบลพญาแก้ว อำเภอเชียงกลาง สูงถึง 291 มิลลิเมตร นั่นทำให้บางพื้นที่ลุ่มต่ำเริ่มมีน้ำเข้าท่วมพื้นที่แล้ว อย่างที่อำเภอท่าวังผา เริ่มมีน้ำทะลักเข้ามาแล้ว รวมทั้งระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยที่สถานีวัดระดับน้ำ n64 บ้านผาขวาง เหนือเมืองน่านไป 30 กิโลเมตร เพิ่มเป็น 7 เมตร […]

เตือนเฝ้าระวังดินถล่มใน 21 จังหวัด แม้ “วิภา” อ่อนกำลัง

กรุงเทพฯ 23 ก.ค.-กรมทรัพยากรธรณี แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังดินถล่มในพื้นที่ 21 จังหวัด จากผลกระทบพายุ “วิภา” แม้ขณะนี้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำแล้ว แต่อิทธิพลของร่องมรสุมยังคงส่งผลให้หลายพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันตกมีฝนตกหนักต่อเนื่อง นายพิชิต สมบัติมาก อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า กรมฯ ยังคงเปิดศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย (War Room) เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 หรือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยมีเป้าหมายเพื่อประเมินความเสี่ยง วิเคราะห์ข้อมูล และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ จากการวิเคราะห์ข้อมูลฝนสะสมควบคู่กับแบบจำลองธรณีพิบัติภัย พบว่า มีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มกระจายอยู่ใน 21 จังหวัด ได้แก่ -ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำปาง ตาก อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: เลย อุดรธานี หนองคาย-ภาคตะวันออก: จันทบุรี ตราด-ภาคตะวันตก: กาญจนบุรี ราชบุรี-ภาคใต้ฝั่งตะวันตก: ระนอง พังงา […]