คิกออฟ ขนกากพิษ “วิน โพรเสส” ลอตแรก 7 พันตัน

ระยอง 9 ม.ค. – “เอกนัฏ” คิกออฟ ขนกากพิษ “วิน โพรเสส” จ.ระยอง ลอตแรก 7 พันตัน ออกไปกำจัดในโรงงานสระบุรี ตั้งเป้าครบ 3.3 หมื่นตัน ภายใน เม.ย.68


นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ บริษัท วิน โพรเสส จำกัด อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง เพื่อติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมให้กับประชาชนในพื้นที่ พร้อมกำชับกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) คุมเข้มการขนย้ายตะกรันอะลูมิเนียม หรืออะลูมิเนียมดรอสลอตแรกทั้ง 7,000 ตัน ในทุกขั้นตอน โดยเริ่มขนย้ายออกจากบริษัทฯ แล้วเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2568 เพื่อนำไปบำบัดกำจัดอย่างถูกวิธีตามหลักวิชาการที่บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ซึ่งจากการประเมินของกรมโรงงานฯ พบว่า ในพื้นที่มีกากของเสียตกค้างรวมประมาณ 33,800 ตัน ประกอบด้วย 1) ของเสียเคมีวัตถุและเศษซากของเสียที่ถูกไฟไหม้ 12,600 ตัน 2) กากตะกอนของเสียตกค้างในอาคารและรางระบายน้ำ 4,600 ตัน 3) กากตะกอนผิวดินที่เกิดการปนเปื้อนจากเหตุไฟไหม้ 5,900 ตัน และ 4) น้ำเสียเคมีวัตถุ 10,700 ตัน ซึ่งต้องใช้งบประมาณในการบำบัดกำจัดสูง ไม่สามารถดำเนินการในคราวเดียว ประกอบกับจากการสำรวจพื้นที่พบว่ามีอะลูมิเนียมดรอสประมาณ 7,000 ตัน ซึ่งเป็นกากของเสียที่สร้างปัญหาเรื่องกลิ่นรบกวนชาวบ้านในพื้นที่มากที่สุด กระทรวงอุตสาหกรรมจึงแถลงต่อศาลจังหวัดระยองขอเบิกเงินที่บริษัท วิน โพรเสส จำกัด วางไว้ต่อศาลจำนวน 4.9 ล้านบาท มาใช้ในการบำบัดกำจัดอะลูมิเนียมดรอสก่อนเป็นลำดับแรกเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ โดยมีกำหนดการแล้วเสร็จภายในวันที่ 26 เมษายนนี้

“ภายหลังการบำบัดกำจัดกากของเสียระยะต่อไป จะทำการบำบัดของเสียเคมีวัตถุและเศษซากของเสียที่ถูกไฟไหม้ โดยเฉพาะสารเคมีที่บรรจุอยู่ในถัง IBC และถุงบิ๊กแบ็กที่อยู่นอกอาคารปริมาณ 2,600 ตัน รวมถึงวัตถุอันตรายในบ่อซีเมนต์อีกกว่า 1,400 ตัน และกากของเสียที่เหลืออื่น ๆ ทั้งหมดด้วย นอกจากนี้ กระทรวงฯ จะเสนอร่างพระราชบัญญัติกากอุตสาหกรรม พ.ศ. … ที่ได้ยกร่างแล้วเสร็จต่อรัฐสภา ซึ่งผมเชื่อมั่นว่า ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้จะอุดรอยรั่วและยกระดับมาตรการทางกฎหมายที่ครอบคลุมการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมและขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั้งระบบอย่างเข้มงวด รัดกุม ป้องกันการกระทำผิดแบบครบวงจร และสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที ซึ่งจะเป็นการปฏิรูปอุตสาหกรรมไทยให้เกิดความสมดุลต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” นายเอกนัฏ กล่าว


นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากการประเมินตัวเลขค่าใช้จ่ายในการบำบัดกำจัดอลูมิเนียมดรอส รวมค่าขนส่งจะอยู่ที่ประมาณตันละ 10,000 บาท ทำให้ค่าใช้จ่ายในการบำบัดกำจัดอลูมิเนียมดรอสทั้งหมด 7,000 ตัน สูงถึง 70 ล้านบาท กระทรวงอุตสาหกรรมจึงได้ผนึกกำลังร่วมกับบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ผ่านการดำเนินกิจกรรม “อุตสาหกรรมรวมใจ” ทำการขนย้ายอะลูมิเนียมดรอสไปบำบัดกำจัดโดยใช้เป็นวัตถุดิบผสมร่วมกับดินอลูมินาในกระบวนการเผา เพื่อผลิตปูนซีเมนต์ซึ่งใช้อุณหภูมิสูงกว่า 1,400 องศาเซลเซียส ประกอบกับบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) มีระบบบริหารจัดการและระบบบำบัดมลพิษประสิทธิภาพสูง ทำให้มั่นใจได้ว่าสามารถบำบัดกำจัดอลูมิเนียมดรอสได้ทั้งหมดอย่างปลอดภัย ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนโดยรอบโรงงาน ด้วยงบประมาณเพียง 4 ล้านบาท ซึ่งนอกจากจะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ได้แล้ว ยังสามารถลดการใช้งบประมาณของภาครัฐลงได้กว่า 66 ล้านบาท

นายพรยศ กลั่นกรอง อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า การขนย้ายจะคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของประชาชนเป็นสำคัญ โดยการยกถุงบิ๊กแบ็กที่บรรจุอลูมิเนียมดรอส บรรทุกโดยรถโรลออฟพ่วงที่ขึ้นทะเบียนและได้รับอนุญาตให้ขนส่งวัตถุอันตราย บรรทุกจำนวน 17 ถุงต่อคัน จำนวน 4-5 คันต่อวัน รวมจะทำการขนย้ายปริมาณ 115 ตันต่อวัน ซึ่งจะใช้เวลาในการขนย้ายและทำการบำบัดกำจัดอลูมิเนียมดรอสทั้งสิ้นประมาณ 60 วัน โดยรถโรลออฟพ่วงทุกคันมีการใช้ระบบติดตามจีพีเอส และมีระบบติดตามและตรวจสอบการขนย้ายอลูมิเนียมดรอสเฉพาะกิจ ปิดคลุมรถด้วยแผ่นพลาสติกรัดตรึงด้วยเชือกทุกด้าน เพื่อป้องกันการหกรั่วไหลและป้องกันน้ำอย่างมิดชิด จึงสามารถมั่นใจได้ว่าการขนย้ายและการบำบัดกำจัดอลูมิเนียมดรอสทั้งหมดจะดำเนินการเป็นไปตามแผนการที่วางไว้ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยที่เข้มงวด. -517-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนาม ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 29 ก.ค.-เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทตาเหมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มีการปะทะรุนแรง และก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุในลักษณะต่างๆ เช่น การขึ้นมาร้องเพลง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ก็เชิญชวนให้คนไทยมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม โดยยืนยันว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย และได้รับความสนใจจากประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งนี้ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่เกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ด้วยเหตุว่ากัมพูชาพยายามจะเข้ามายึดพื้นที่ปราสาท ซึ่งเป็นจุดสูงได้เปรียบในเชิงจุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะเกิดเหตุปะทะในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และนำมาสู่การเจรจาหยุดยิงโดยรัฐบาล 2 ประเทศ เมื่อวานนี้ จนกระทั่งมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างฝ่ายทหารในพื้นที่ 2 ประเทศในวันนี้ และทำให้เสียงปืนสงบลง.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์หลังข้อตกลงหยุดยิง หลายพื้นที่ยังปะทะเดือด

29 ก.ค.- ย้อนดูไทม์ไลน์ เหตุปะทะในหลายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ถูกกำหนดในเวลาเที่ยงคืน สมรภูมิสำคัญตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม เดือดถึงขีดสุด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการแย่งชิงพื้นที่ ยิ่ง 30 นาทีสุดท้ายก่อนเดดไลน์ ทหารหน่วยรบพิเศษของไทย เข้าปะทะ “กองกำลัง BHQ” ที่เสริมกำลังเข้ามาอย่างดุเดือด ก่อนที่ไทยจะยึดประสาทตาควายไว้ได้ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง แต่ปรากฏว่าเสียงปืนและระเบิด สงบลงหลังเส้นตายหยุดยิงเพียงไม่นาน ตลอดทั้งคืน ไทยยังถูกกัมพูชา ยิงยั่วยุ ยาวจนถึงเช้า ภาพนี้ทหารไทยได้ถ่ายเวลาจากนาฬิกา ในเวลา 06.29 น. ขณะได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ฝั่งกัมพูชาระดมยิงใส่ฝั่งไทยไว้เป็นหลักฐานว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี ว่าหลังจากมีการหยุดยิง ในเวลา 00.00 น. แล้ว พบว่าในพื้นที่ภูมะเขือ ถูกก่อกวน โดยฝ่ายทหารกัมพูชา มีการยิงปะทะตอบโต้จากทั้งสองฝ่ายจนถึงเช้า พื้นที่ซำแต มีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงเวลา 05.30 น. เนื่องจากทหารกัมพูชาไม่ยอมหยุด […]

ทหารม้าคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา ในพื้นที่ซำแต หลังยอมจำนน

ศรีสะเกษ 29 ก.ค.-ทบ. เผยคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา หลังทหารม้า เข้ากวาดล้างที่มั่นเขมร พื้นที่ซำแต จ.ศรีสะเกษ หลังยอมจำนน จนท.ปลดอาวุธ ยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลเคร่งครัด ก่อนจะดำเนินการตามกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป วันนี้ (29 กรกฎาคม 2568) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานผลการควบคุมตัวทหารกัมพูชา จำนวน 18 นาย สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ ซำแต อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักและอาวุธวิถีโค้ง ยิงเข้ามาในเขตพื้นที่ของไทย ฝ่ายไทยจึงได้ใช้ หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจเข้าทำการตอบโต้และกวาดล้างที่มั่นของฝ่ายกัมพูชา จากการปฏิบัติดังกล่าว พบมีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งยอมจำนนโดยไม่มีท่าทีหรือลักษณะจะคุกคามฝ่ายไทย ทางหน่วยจึงดำเนินการปลดอาวุธและควบคุมตัวตามขั้นตอน โดยยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลอย่างเคร่งครัด มีจำนวน 18 นาย ชั้นยศ ร้อยตรี 1 นาย, จ่าสิบโท 2 นาย, สิบเอก 12 นาย, สิบโท […]