ตลาดหลักทรัพย์ฯ 7 ต.ค. – ผจก.ตลท.ชี้กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง หนุนโครงสร้างนักลงทุนสถาบันเข้มแข็ง ดึงดูดนักลงทุนไทยและต่างชาติ ด้านบริษัทจัดการกองทุน เผยจ่ายปันผลครั้งแรก ก.พ.68
นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง หรือ VAYU1 ที่เริ่มซื้อขายใน ตลาดหลักทรัพย์ฯ วันนี้เป็นวันแรกว่า ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดี นับเป็นเครื่องมือสําคัญในการส่งเสริมการออมและการลงทุนของประชาชน อีกทั้งยังเป็นกลไกในการเสริมสร้างสภาพคล่องและเสถียรภาพให้กับตลาดทุนไทย กองทุนนี้จะช่วยให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงการลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนชั้นนําได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนในบริษัทที่มีการกํากับดูแลกิจการที่ดีและให้ความสําคัญกับสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการลงทุนอย่างยั่งยืนทั่วโลก นอกจากนี้ การจ่ายเงินปันผลอย่างสมํ่าเสมอในอัตราที่น่าสนใจจะช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนในระยะยาว การที่กองทุนวายุภักษ์เข้ามาลงทุนและจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับตลาดหุ้นไทย ซึ่งการมีกองทุนขนาดใหญ่เช่นนี้จะช่วยพัฒนาโครงสร้างนักลงทุนสถาบันในประเทศให้มีความเข้มแข็ง อีกทั้งยังอาจช่วยดึงดูดนักลงทุนกลุ่มต่างๆ ให้พิจารณาการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมทําหน้าที่เป็นตลาดรองที่มีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการซื้อขายหน่วยลงทุนของกองทุนวายุภักษ์ โดยตลาดหลักทรัพย์มุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบการซื้อขายให้มีสภาพคล่องและประสิทธิภาพสูงสุด ควบคู่ไปกับการสร้างความเชื่อมั่นในตลาดทุนไทย เพื่อประโยชน์ของผู้ลงทุนทุกราย
ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคตลาดทุนในครั้งนี้ จะเป็นอีกก้าวสําคัญในการพัฒนาตลาดทุนไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน และเป็นส่วนสําคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง กล่าวว่า การตอบรับการเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. ของกองทุนฯ อย่างล้นหลาม สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในการบริหารจัดการ และผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ที่แข็งแกร่งในระยะยาว สำหรับเงินที่ได้จากการเสนอขายหน่วยลงทุนประเภท ก. กองทุนฯ ได้เริ่มนำไปลงทุนในหลักทรัพย์ต่าง ๆ ภายใต้กรอบนโยบายการลงทุนของกองทุนฯ แล้ว โดยเน้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวแก่ผู้ถือหน่วยลงทุน ทั้งนี้จะมีการจ่ายเงินปันผลปีละ 2 ครั้ง สำหรับครั้งแรกคาดว่าจะจ่ายเงินปันผลได้ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2568 และยังคุ้มครองเงินต้นถ้าถือครบเงื่อนไข
สำหรับภาพรวมการลงทุนในขณะนี้มองว่าดีขึ้น จากปัจตัยภายนอก ทั้งแนวโน้มดอกเบี้ยลดลง และมาตรการสนับสนุนตลาดทุนของจีน ส่วนปัจจัยภายใน การเมืองมีเสถียรภาพ เศรษฐกิจฟื้นตัว โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ทำให้เชื่อว่าจากนี้ไปตลาดจะอยู่ในภาวะที่เหมาะสมสำหรับการลงทุน. -516-สำนักข่าวไทย