ก.พ.ร.มอบรางวัลเลิศรัฐ ชูองค์กรต้นแบบเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

นนทบุรี 18 ก.ย. – สำนักงาน ก.พ.ร. จัดงานเสวนาวิชาการและพิธีมอบรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2567 โดยมีผลงานที่โดดเด่นจากหน่วยงานภาครัฐที่ได้รับการยกย่องในฐานะหน่วยงานต้นแบบที่มีผลการทำงานที่เป็นเลิศ ซึ่งปีนี้กรมอนามัย สำนักงานอาหารและยา และสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) คว้ารางวัลเกียรติยศเลิศรัฐไปครอง


สำนักงาน ก.พ.ร. การจัดงานเสวนาวิชาการและพิธีมอบรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2567 ตามแนวคิด “Transforming Public Service for Sustainability: พลิกโฉมบริการภาครัฐ สู่ความยั่งยืน” ณ ห้องรอยัล อิมแพคเมืองทองธานี โดยมีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ภายในงานมีช่วงเสวนาวิชาการที่น่าสนใจ 2 หัวข้อ ประกอบด้วย หัวข้อแรก “พลิกโฉมกฎหมายอำนวยความสะดวก ยกระดับบริการ สร้างความโปร่งใสภาครัฐ” และหัวข้อที่สอง “คิดอย่างยั่งยืนกับองค์กรภาครัฐต้นแบบ” โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน และช่วงพิธีมอบรางวัลเลิศรัฐ ประจำปี 2567 ซึ่งจะเป็นการมอบรางวัลให้กับหน่วยงานภาครัฐที่มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ ในการพัฒนาบริการ การบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม และการพัฒนาองค์กรอย่างโดดเด่น ซึ่งผลงานที่ได้รับรางวัลจะเป็นต้นแบบที่ดีให้แก่หน่วยงานต่าง ๆ ใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาระบบงานของหน่วยงานให้ดียิ่งขึ้นและเกิดความยั่งยืนต่อไป

“รางวัลเลิศรัฐ” (Public Sector Excellence Awards : PSEA) ถือเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศที่มอบให้หน่วยงานที่ได้มุ่งมั่นปฏิบัติราชการจนประสบความสำเร็จมีความเป็นเลิศแห่งหน่วยงานรัฐทั้งปวง แบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ รางวัลเกียรติยศเลิศรัฐ รางวัลเลิศรัฐยอดเยี่ยม และรางวัลเลิศรัฐสาขา สำหรับในปี 2567 มีหน่วยงานที่ได้รับรางวัลเกียรติยศเลิศรัฐ ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้หน่วยงานที่เป็นต้นแบบสร้างคุณค่าจนประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน จำนวน 3 หน่วยงาน ได้แก่ กรมอนามัย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ส่วนรางวัลเลิศรัฐยอดเยี่ยม มอบให้แก่หน่วยงานที่ได้รับรางวัลดีเด่นทั้ง 3 สาขา คือ สาขาบริการภาครัฐ สาขาการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม และสาขาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ จำนวน 1 รางวัล ได้แก่ กรมธนารักษ์ สำหรับรางวัลเลิศรัฐสาขา จะมอบให้แก่หน่วยงานที่มีการพัฒนาโดดเด่นในแต่ละสาขา โดยในปีนี้มีหน่วยงานที่ได้รับรางวัลเลิศรัฐสาขาบริการภาครัฐ จำนวน 1 รางวัล ได้แก่ กรมการแพทย์ โรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานี อย่างไรก็ตาม ในปีนี้มีการมอบรางวัลเกียรติยศ ซึ่งถือเป็นรางวัลพิเศษให้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ได้รับรางวัล United Nations Public Service Awards 2024 สาขา Innovation in Public Institutions ในผลงาน Academic Insight into Action for Pandemic Response


นอกจากนี้ได้มีการมอบรางวัลบริการภาครัฐ โดยมอบให้แก่หน่วยงานที่มีการพัฒนาประสิทธิภาพ การให้บริการประชาชนได้อย่างโดดเด่น รางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ มอบให้แก่หน่วยงานที่มีการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการองค์การไปสู่ความเป็นเลิศ และรางวัลการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วมมอบให้แก่หน่วยงานที่เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารราชการ

สำหรับผลงานได้รับรางวัลในปีนี้จะเห็นได้ว่ามีความโดดเด่นในหลายๆ ด้าน อาทิ
1.) การนำนวัตกรรมมาใช้ทำงานและยกระดับการให้บริการ รวมถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เช่น โรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานี กรมการแพทย์ ร่วมมือกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง พัฒนาและสร้างหุ่นยนต์ผสมยาเคมีบำบัดต้นแบบขึ้นเพื่อให้ประเทศไทยสามารถผลิตหุ่นผสมยาได้เองในราคาไม่แพง มีประสิทธิภาพ ปลอดภัยกับผู้ปฏิบัติงาน ทำให้ระยะเวลารอคอยในการให้ยาเคมีบำบัดน้อยกว่า 6 สัปดาห์ เพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 80.44 เป็นร้อยละ 96.25จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำหุ่นยนต์ต้นแบบอัจฉริยะ มาช่วยรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์ด้วยสารรังสีไอโอดีน แห่งแรกของไทยและของโลกเพิ่มความปลอดภัยทางรังสีแก่บุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วยด้วยระยะเวลาที่สั้นและเร็วที่สุด ฯลฯ
2.) การขับเคลื่อนองค์การโดยใช้ข้อมูล ใช้ข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ในการพัฒนานโยบายและให้บริการกับประชาชน เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า บริหารจัดการข้อมูลนิติบุคคลขนาดใหญ่ ให้รองรับปริมาณการขอเอกสารทางทะเบียนที่มากกว่า ๑๐ ล้านคำขอต่อปี เพื่อบริการที่สะดวกรวดเร็ว ข้อมูลที่ทันสมัย พร้อมใช้และปลอดภัย รวมถึงกรมวิชาการเกษตร ที่ได้พัฒนาระบบข้อมูลให้เป็นดิจิทัล (Digitize Data) ทั้งข้อมูลที่ใช้ภายในหน่วยงานและข้อมูลที่จะเผยแพร่สู่หน่วยงานภายนอก/สาธารณะ เพื่อนำไปสู่การเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ (Open Data) เช่น โครงการพัฒนาระบบการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก (Big Data Analytics) ด้านการเกษตรจากฐานข้อมูลที่สำคัญ
3.) การพัฒนาไปสู่องค์การดิจิทัล หน่วยงานได้ให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีไปใช้
ในการยกระดับประสิทธิภาพการให้บริการและการบริหารจัดการเพิ่มมากขึ้น เช่น กรมทรัพย์สินทางปัญญา พัฒนาการยื่นคําขอจดทะเบียนและต่ออายุการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าแบบเร่งด่วน (Fast Track) รวมทั้งการชําระค่าธรรมเนียมการยื่นคําขอดังกล่าว สามารถยื่นผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e- Filing)
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า พัฒนางานของ DBD “3 ปรับ 5 เปิด” ปรับข้อมูลเป็นดิจิทัลตั้งแต่ต้นทาง
ผ่านระบบจดทะเบียนธุรกิจออนไลน์ e-Registration และการเปิดภาครัฐ (Government Open Data)
ในรูปแบบข้อมูลดิจิทัลที่เข้าถึงและใช้ได้เสรี ไม่จำกัดแพลตฟอร์ม ไม่เสียค่าใช้จ่าย
4) การออกแบบการให้บริการเฉพาะบุคคล เช่น โรงพยาบาลปางมะผ้า โรงพยาบาลขนาด 30 เตียง อยู่ติดชายแดนไทย – พม่า ผู้รับบริการส่วนใหญ่เป็นชาติพันธุ์ ได้นำแนวคิด Smart Hospital ในพื้นที่ห่างไกล  มาพัฒนาการบริการสะดวก รวดเร็ว มีคุณภาพ ลดความเหลื่อมล้ำ พัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอปางมะผ้า โดยใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพด้วยการให้ความสำคัญผู้รับบริการ นำมาออกแบบระบบ การบริการหรือผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่เริ่มต้นจนส่งมอบในรูปแบบ End to end ส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงาน
และสร้างความพึงพอใจ ผู้รับบริการ
5.) การพัฒนาไปสู่ภาครัฐระบบเปิด โดยมีรูปแบบจัดตั้งคณะทำงานร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อเน้นการจัดการและนำข้อมูลมาวิเคราะห์ และเชื่อมโยงและเผยแพร่ข้อมูลผ่านอิเล็กทรอนิกส์ เช่น สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า พัฒนาฐานข้อมูล oracle 12C และ Economic Index Dashboard
ที่ทำให้ข้อมูลมีความถูกต้อง แม่นยำ ครบถ้วน ในทุกมิติ รวมถึงกรมธนารักษ์ นำแนวคิดภาครัฐระบบเปิด
เพื่อนำมาสู่การแก้ไขปัญหาชุมชนในการโต้แย้งกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุ  
 การมอบรางวัลเลิศรัฐให้แก่หน่วยงานภาครัฐ นับเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของการพัฒนาระบบราชการ
ที่สะท้อนความสำเร็จในการพัฒนาการให้บริการและการพัฒนาองค์การของภาครัฐ เพื่อไปสู่ความเป็นเลิศ
ในการปฏิบัติราชการ ที่สามารถปรับเปลี่ยนแนวคิดและวิธีการ เพื่อนำไปสู่การพลิกโฉมการบริการที่มีมาตรฐาน และตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างยั่งยืน.-513-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้เสียหายรวมตัวถามความคืบหน้าซื้อขายทอง จากร้านดังแล้วไม่ได้ทอง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ผู้เสียหายกว่า 30 ราย บุกทวงถามความคืบหน้าคดีซื้อขายทอง จากร้านชื่อดังแล้วไม่ได้ทอง ยอดความเสียหายพุ่งกว่า 700 ล้านบาท พ้อเดือดร้อนอย่างหนัก ผู้เสียหายจากการซื้อขายทองคำรายย่อยจากทั่วประเทศกว่า 30 ราย จากการซื้อขายกับร้านทองชื่อดัง ย่านเยาวราช พร้อมนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เข้าติดตามความคืบหน้าคดีฉ้อโกงซื้อขายทองคำ ที่ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการสอบสวนกลาง นายปานเทพ เปิดเผยว่า ขณะนี้รวมมูลค่าความเสียหายจาการซื้อขายทองคำกับร้านทองชื่อดัง พุ่งไปกว่า 700 ล้านบาทแล้ว โดยกลุ่มผู้เสียหายมีหลายรูปแบบ ทั้งกลุ่มที่ซื้อทอง กลุ่มที่ฝากเงิน และกลุ่มที่ซื้อทองและฝากเงิน นอกจากนี้จะยื่นคำร้องขอให้สอบสวนเพิ่มเติมสอบกับ 8 บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและบริษัทในเครือ พิจารณาดำเนินคดีความอาญากับผู้เกี่ยวข้องในคดีที่ผู้เสียหาย ซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร กับบริษัทดังกล่าว และต้องการให้ออกหมายจับผู้กี่ยวข้องทั้งหมด เนื่องจากกลัวจะมีการหลบหนี ส่วนการอ้างโฆษณาว่า ร้านรับซื้อทองคำให้ราคาสูงกว่าร้านอื่น การซื้อขายแต่ไม่ได้ทอง มองว่ามีเจตนาชัดเจนอยู่แล้ว การอ้างขาดสภาพคล่อง แต่ยังเปิดแอปพลิเคชั่นให้ประชาชนมาซื้อขายทองคำต่อได้อย่างไร ส่วนที่ผ่านมาทางร้านมีความพยายามเคลียร์กับผู้เสียหายรายย่อย มีการจ่ายเงินคืนไปแล้วบางรายไม่ถึงล้านบาท และตอนนี้ไม่สามารถติดต่อได้แล้ว มองว่าเป็นแทคติกที่ต้องการเปลี่ยนเป็นสัญญา เพื่อหลีกเลี่ยงจากคดีอาญาเป็นคดีแพ่งแทน […]

ทรูประกาศชดเชยลูกค้าจากเหตุขัดข้อง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – ทรูประกาศชดเชยสำหรับลูกค้า กรณีเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายในวันนี้ ทรูแจ้งว่าขออภัยเป็นอย่างยิ่งในเหตุขัดข้องของระบบเครือข่ายที่เกิดขึ้น ขณะนี้บริการต่างๆ ทั้งวอยซ์และดาต้ากำลังกลับมาให้บริการเต็มประสิทธิภาพได้ในทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ บริษัทขอชดเชยให้ผู้ใช้งานระบบรายเดือนและเติมเงินที่ได้รับผลกระทบจากสาเหตุเครือข่ายขัดข้อง ทั้งนี้ ผู้ใช้งานในระบบเครือข่ายทรูที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับ SMS แจ้งถึงรายละเอียดการชดเชยต่อไป โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา คณะผู้บริหารของบริษัทได้เข้าพบ กสทช.เพื่อชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว รวมทั้งแนวทางในการป้องกันเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต. -511- สำนักข่าวไทย

ปลาติดเชื้อจากสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกก

เชียงราย 22 พ.ค. – วิกฤติน้ำกก หลังพบสารหนู-สารเคมีปนเปื้อนจากการทำเหมืองแร่ ลุกลามไปแม่น้ำสายและแม่น้ำโขงแล้ว ล่าสุดตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ส่วนช้างอาบน้ำในน้ำกกมีผื่นและตุ่มใส ติดเชื้อจนเกิดแผล หลังจากมีการตรวจสอบหาสารหนู และสารเคมีอื่นๆ ในแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง ทำให้พบว่ามีปริมาณเกินกว่ามาตรฐานหมายเท่าตัว จากการทำเหมืองแร่ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และตรวจพบปลาในแม่น้ำมีอาการผิดปกติที่ผิวหนัง ซึ่งทางกรมประมงได้ติดตามการติดเชื้อของปลาในแม่น้ำทั้ง 3 สาย โดยนำปลาที่ชาวประมงพื้นบ้านจับได้จากแม่น้ำกก แม่น้ำสาย และแม่น้ำโขง นำมาตวรจสอบหาสารตกค้าง และเชื้อโรคที่ปลาได้รับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อสู่มนุษย์ หากนำไปบริโภค นายสมเกียรติ เขื่อนเชียงสา นายกสมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต เปิดเผยว่าสมาคมพยายามจะมอนิเตอร์ปลาในแม่น้ำกก แม่น้ำรวก แม่น้ำโขง เพื่อติดตามว่ามีการติดเชื้อแพร่กระจายไปถึงไหนบ้าง เพื่อจะเก็บตัวอย่างรีบส่งให้กับทางกรมประมง ในการตรวจหาสาเหตุภายในของปลาว่ามีเชื้ออะไรบ้าง ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำ ซึ่งขณะนี้เกิดความวิตก และกังวลใจของชาวประมงที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ที่ต้องหาปลาในแมน้ำ เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นการค้าขายปลาเกิดผลกระทบ ทางเศรษฐกิจในชุมชน คนไม่นิยมปลาจากแม่น้ำ ทำให้ขาดรายได้เลี้ยงชีพ นอกจากนี้ที่บ้านรวมมิตร ตำบลแม่ยาว อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย พบว่าน้ำในแม่น้ำกกมีลักษณะขุ่นจัด เมื่อเทียบกับลำห้วยสาขาที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ซึ่งมีน้ำใสกว่ามาก เทศบาลตำบลแม่ยาวได้เร่งติดตั้งป้ายเตือนประชาชน […]

จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย

สุราษฎร์ธานี 22 พ.ค.- จับแล้ว! มือฆ่ารัดคอพยาบาลสาวเกาะสมุย ตร.เค้นสอบ สารภาพก่อเหตุจริงก่อนขโมยรถผู้ตายหนี ความคืบหน้าคดีคนร้ายฆ่าเปลือยพยาบาลสาววัย 36 ปี ในหอพัก 2 ชั้น พื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และขโมยรถยนต์ผู้เสียชีวิตไปด้วย ซึ่งผู้ต้องสงสัยคือแฟนของผู้ช่วยพยาบาลที่อยู่ห้องติดกับผู้เสียชีวิต โดยศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้ออกหมายจับนายสุวัฒน์ อายุ 30 ปี ความผิดฐาน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนหรือรับของโจร ล่าสุด มีรายงานว่าชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด สามารถจับกุมคนร้ายได้แล้ว เบื้องต้นรับว่า เป็นบุคคลตามภาพจากกล้องวงจรปิดที่ขับรถยนต์ของพยาบาลสาวไปจอดในห้างฯ และก่อเหตุฆ่าพยาบาลสาวก่อนขโมยรถยนต์ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนถึงเหตุจูงใจ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศาลพิพากษาคดีแตงโม จบไหม… หรือไปต่อ ?

23 พ.ค. – วันนี้มีความเคลื่อนไหวของคดีที่หลายๆ คนติดตามกัน คือคดีการเสียชีวิตของแตงโม ที่ศาลจังหวัดนนทบุรียกฟ้อง หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปอีก จะจบลงแค่นี้หรือไม่ ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

ศาลอุทธรณ์ สั่งจำคุก “เดวิด” 1 เดือน คดีทำร้ายหมอ

ภูเก็ต 23 พ.ค. – ศาลอุทธรณ์ภาค 8 กลับคำพิพากษา จำคุก “เดวิด” ทำร้ายร่างกายหมอ 1 เดือน ไม่รอลงอาญา ชี้เป็นการกระทำร้ายแรง ส่วนจำเลย พบเดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว กรณี พญ.ธารดาว หรือ หมอปาย ยื่นฟ้อง นายเดวิด ชาวสวิตเซอร์แลนด์ เจ้าของปางช้างในจังหวัดภูเก็ต ในคดีทำร้ายร่างกาย โดยใช้เท้าเตะเข้าที่บริเวณด้านหลังของหมอปาย ขณะนั่งเล่นอยู่กับเพื่อนที่บริเวณหน้าบันไดวิลลาหรู ชายหาดยามู ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2567 ล่าสุดวันนี้ (23 พ.ค.68) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ในฐานะทนายความคดีดังกล่าว เปิดเผยว่าวันนี้ ศาลอุทธรณ์ภาค 8 มีคำพิพากษากลับ ให้นายเดวิด มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391 ถือเป็นการกระทำที่ร้ายแรง จำคุก 1 เดือน โดยไม่รอลงอาญา อย่างไรก็ตามคดีนี้ […]

กสทช.สั่ง “ทรู” ทบทวนมาตรการเยียวยา เหตุสัญญาณขัดข้อง

กรุงเทพฯ 23 พ.ค. – สำนักงาน กสทช. สั่ง “ทรู” ทบทวนมาตรการเยียวยาผู้ใช้บริการ จากเหตุสัญญาณขัดข้อง ห้ามคิดค่าบริการช่วงเวลาที่ลูกค้าใช้งานไม่ได้-ให้เพิ่มดาต้ามากกว่า 10 GB-โทรฟรีมากกว่า 100 นาที ไม่จำกัด ภายใน 24 ชม. แยกเยียวยาลูกค้ารายเดือน-เติมเงิน นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ได้เชิญบริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (TUC) เข้าร่วมประชุมด่วนในวันนี้ โดยสำนักงาน กสทช. ได้สั่งการให้บริษัท ทรูฯ ทบทวนมาตรการเยียวยาชดเชยผู้ใช้บริการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ และอินเทอร์เน็ตขัดข้อง ไม่สามารถใช้งานได้เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา หลังจากบริษัท ทรูฯ […]

ทีมค้นหาจุดธูปขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดทางหาร่างแรงงานพลัดตกหลุม

23 พ.ค. – ทีมกู้ภัยพบสัญญาณดี คล้ายร่างคนงานที่ตกหลุมเจาะเสาเข็มรถไฟฟ้าสายสีส้ม อยู่ที่ความลึก 11.5 เมตร แต่เกิดดินลั่นก่อน ทำให้ไม่สามารถงมต่อได้ จึงขึ้นมาปรับแผนกันใหม่ พร้อมจุดธูปขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเปิดทาง เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ทีมค้นหาร่างแรงงานที่พลัดตกหลุมลึก 19 เมตร โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม จุดธูป ขอขมาตามความเชื่อ เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดทางให้เจอร่างของนายศราวุฒิ คนงานซึ่งถูกดินสไลด์ทับจนพลัดตกลงไปภายในหลุมเจาะเสาเข็มลึก 19 เมตร ของโครงการก่อสร้างสถานีหลานหลวง (OR06) ซึ่งเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย  เยื้องซอยหลานหลวง 8 แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. โดยวันนี้เข้าสู่วันที่ 5 ของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โดยล่าสุด ทีมค้นหา USAR และกู้ภัยได้ทำการตรวจสอบบางจุด พบว่าสัญญาณคล้ายร่างกายมนุษย์ ที่ระดับความลึก 11.5 เมตร โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างทำการพิสูจน์ทราบ โดยหากตรวจสอบว่า วัตถุหรือสิ่งที่พบคือร่างของมนุษย์จริงเจ้าหน้าที่จะวางแผนทำการเคลื่อนย้าย มีรายงานว่าทีมกู้ภัยที่ห้อยสลิงลงไป ได้หย่อนตัวลงไปในโคลน ความลึกระดับคอแล้ว จากนั้นได้ใช้มือคลำลงไปลักษณะเหมือนโดนเสื้อ หรือ ผ้า คล้ายกับร่างมนุษย์ แต่จังหวะนั้นแผ่นชีทพลายลั่น […]