18 ก.ย. – สภาหอการค้าฯ-สมาคมผู้นำนักธุรกิจญี่ปุ่น (Keizai Doyukai) จัดงาน “The 50th ASEAN-Japan Business Meeting” 6-8 พ.ย.67 ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ญี่ปุ่น และอาเซียน
นายกลินท์ สารสิน ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ร่วมกับ Keizai Doyukai (สมาคมผู้นำนักธุรกิจญี่ปุ่น) กำหนดจัดงาน “The 50th ASEAN-Japan Business Meeting” (AJBM) ระหว่างวันที่ 6-8 พฤศจิกายน 2567 ณ โรงแรม The Okura Prestige กรุงเทพมหานคร โดยเป็นเวทีสำคัญที่ผู้นำธุรกิจจากประเทศ ในกลุ่มอาเซียนและญี่ปุ่นมาร่วมหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน รวมถึงพัฒนาความร่วมมือด้านต่างๆ ที่สำคัญ ทั้งนี้ การประชุมนี้เริ่มต้นเมื่อ 50 ปีที่แล้ว ในปี 2517 ที่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยมีสมาคม Keizai Doyukai เป็นผู้ริเริ่ม และมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริม ความมั่นคงและการพัฒนาของภูมิภาคเอเชียตะวันออกผ่านการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจระหว่าง ภาคเอกชน ซึ่ง AJBM ถูกจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยหมุนเวียนเป็นเจ้าภาพระหว่างประเทศสมาชิก โดยตัวอย่างความสำเร็จของ AJBM ที่มีส่วนร่วมส่งเสริมและผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ระหว่างอาเซียนและญี่ปุ่น ในช่วง 49 ปีที่ผ่านมา อาทิ การส่งเสริมการค้าและการลงทุน : ความร่วมมือทางเศรษฐกิจผ่านข้อตกลง AJCEP (ASEAN-Japan Comprehensive Economic Partnership) ช่วยลดภาษีและส่งเสริมการเติบโตในภูมิภาค, การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน: สนับสนุนการลงทุนด้านคมนาคม พลังงาน และการเชื่อมต่อดิจิทัล, การสนับสนุนธุรกิจ SME: ส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ผ่านการเงินและให้คำปรึกษา และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์: เพิ่มขีดความสามารถแรงงานด้านเทคโนโลยีและการจัดการ
การประชุม AJBM ครั้งนี้ที่ประเทศไทย จะช่วยสานต่อความสำเร็จ เพื่อสร้างความร่วมมือและร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียนและญี่ปุ่น ให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน ทั้งนี้ในวันที่ 7 พฤศจิกายน จะมีการสัมมนาเต็มวัน และในวันที่ 8 พฤศจิกายน จะมีกิจกรรม Thai Tourism Showcase ที่ผู้เข้าร่วมจากต่างประเทศจะมีโอกาสท่องเที่ยวและสัมผัสวัฒนธรรมไทยอีกด้วย
ดร.วิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ในโอกาสครบรอบ 50 ปีของ AJBM ถูกจัดขึ้นภายใต้ธีม “Building Resilient Partnerships for Sustainable Futures” หมายถึงการสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่งและยั่งยืนเพื่ออนาคตที่ดีกว่า สะท้อนถึงความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วน ระหว่างอาเซียนและญี่ปุ่นมาตลอดห้าทศวรรษที่ผ่านมา โดยจะมีการหารือในประเด็นสำคัญ เช่น ความ มั่นคงทางอาหาร (Food Security) การเคลื่อนย้าย (Mobility) และการท่องเที่ยว (Tourism)
นายเกษมสิทธิ์ ปฐมศักดิ์ รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวเสริมว่า The 50th ASEAN-Japan Business Meeting” (AJBM) ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของผู้เข้าร่วมงาน ในการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ร่วมกับวิทยากร ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการต่อยอด แนวคิดและการสร้างเครือข่ายระหว่างภาคธุรกิจ ภาครัฐ นักวิชาการ และองค์กรภาคประชาสังคม หลังจบประชุม จะมีการจัดทำ Whitepaper เอกสารรวบรวมประเด็นสำคัญและข้อเสนอแนะจาก ที่ประชุมสำหรับผู้สัมมนาได้นำไปใช้ต่อ รวมถึงให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปพิจารณาและดำเนินการ ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมโยงการทำงานระหว่างภาคเอกชนกับภาครัฐ ก่อให้เกิดการ ขับเคลื่อนนโยบายที่มีประสิทธิภาพ และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุนในภูมิภาค. -516-สำนักข่าวไทย