กรุงเทพฯ 17 ก.ย. – “พิชัย” โชว์วิชั่น 10 ยุทธศาสตร์การค้า-ส่งออก ฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย บนเวทีสัมมนาใหญ่สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เตรียมคุยแบงก์ชาติดูแลเงินบาทแข็งค่า ด้านหอการค้าไทยกระทุ้งรัฐปกป้องสินค้าไทย คาดเงินช่วยกลุ่มเปราะบางกระตุ้น GDP 0.2 – 0.3%
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานมอบ 40 โล่รางวัลสมาคมการค้าดีเด่นประจำปี 2567 เพื่อเชิดชูเกียรติสมาคมการค้าและผู้บริหารสมาคมการค้าที่มีผลงานโดดเด่น พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ “ยุทธศาสตร์การค้าและการส่งออกของไทย” ในงานสัมมนาใหญ่สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประจำปี 2024 ช่วงค่ำวานนี้ (16 ก.ย.)
นายพิชัย กล่าวว่า ทุกวันนี้โลกเปลี่ยนเร็วมาก ต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของโลก มีสิ่งที่ต้องระวังหลายเรื่อง เช่น 1.เรื่องการใช้ระบบ AI ในทางที่ผิด 2.เรื่องสภาวะอากาศที่แรงสุดขั้ว และเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 3.การแบ่งขั้วแบ่งฝ่ายของโลก เช่น รัสเซีย-ยูเครน 4.เรื่อง Cyber Security ที่เป็นปัญหามากขึ้น 5.ความขัดแย้งระหว่างประเทศที่เป็นวงกว้างขึ้น 6.เรื่องโอกาสทางเศรษฐกิจ รัฐต้องช่วยให้คนไม่ตายจน ต้องให้คนได้มีโอกาสทางเศรษฐกิจ 7.เรื่องเงินเฟ้อ 8.เรื่องการบังคับให้โยกย้ายถิ่นฐาน 9.เรื่องเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ปีนี้เศรษฐกิจโลกไม่ค่อยดี การเจริญเติบโตทั้งโลกเฉลี่ย 2% ต้องทำให้เศรษฐกิจไทยโตสวนเศรษฐกิจโลกให้ได้ และ 10.เรื่องมลภาวะ
ซึ่งตนได้มีการแถลงถึงทิศทางและนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ผ่านกรอบ 10 นโยบายสำคัญ ในการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย ประกอบด้วย นโยบายลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ,การบริหารให้เกิดความสมดุลระหว่างผู้บริโภค เกษตรกรและผู้ประกอบการ ,การทำงานเชิงรุก เชื่อมโยงสินค้าไปตลาดโลกได้,การแก้ข้อจำกัดปรับปรุงข้อกฎหมายที่ล้าสมัย เร่งแก้ไขสิ่งที่เป็นอุปสรรค โดยเฉพาะการค้าออนไลน์ที่โตขึ้นเรื่อยๆ, ร่วมขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจฐานราก,เร่งผลักดันการส่งออกให้ตัวเลขเป็นบวกขึ้นจาก 7-8 เดือนแรกการส่งออกเติบโตถึง 3.8% แต่จะทำอย่างไรให้ขยายโตต่อไป , การเร่งเจรจา FTA ,ร่วมมือนักธุรกิจไทยไปบุกต่างประเทศ, ปรับโครงสร้างการส่งออกให้ทันสมัย เช่น เรื่อง PCB (แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์) ต้องเร่งให้เกิดมากขึ้น โดยปีที่แล้วมีการลงทุนแล้วกว่า 150,000 ล้านบาท ,ส่งเสริมสินค้าที่รักษ์โลก การส่งเสริมตลาดเทรดคาร์บอนเครดิต
“วันที่ 25-29 กันยายนนี้ จะมี International Live Commerce Expo 2024 พาอินฟลูฯ จากจีนมาไลฟ์ขายสินค้าไทย และเรื่องการค้ากับจีนจะร่วมมือกัน การขายสินค้าต้องมีมาตรฐาน มี มอก. อย. เราต้องทำดีกับทุกประเทศ ให้มีการลงทุนจากจีนและอเมริกามาไทยเยอะๆ และกับอินเดียก็เป็นโอกาสการค้าและการลงทุน” นายพิชัย กล่าว
ก่อนหน้านี้นายพิชัย ระบุเตรียมนัดหารือกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เรื่องการ การลดดอกเบี้ย เนื่องจากเงินเฟ้อลดลง และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก็เตรียมลดดอกเบี้ย, เรื่องดูแลเงินบาทที่แข็งค่าเร็วมาอยู่ที่ 33 บาท/ดอลลาร์ โดยแข็งค่าขึ้นถึง 5-6% ภายในเดือนเดียวกระทบอย่างมากกับผู้ส่งออกและการเพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ สำหรับเงินบาท เช้านี้อ่อนค่ามาอยู่ที่ระดับประมาณ 33.28-33.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หลังจากวานนี้ เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 19 เดือน ที่ 33.16 บาทต่อดอลลาร์ โดยตลาดรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด สัปดาห์นี้โดยคาดลดดอกเบี้ยหรือไม่
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าไทยกล่าวว่าเห็นด้วยกับ นโยบายรัฐบาล ทั้ง 10 ข้อ และมีมุมมองเสริมเพิ่มเติมเพื่อเร่งฟื้นเศรษฐกิจไทยในระยะสั้น โดยต้องเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 67 และ 68 ให้กระจายไปทุกภูมิภาค และเห็นด้วยกับรัฐบาลที่มีความชัดเจนในกลุ่มเปราะบางแล้วว่าน่าจะแจกได้ทันทีภายในเดือนกันยายน 2567 คาดใช้เม็ดเงินประมาณ 1.45 แสนล้านบาท ซึ่งสินค้าที่ผลิตในประเทศน่าจะได้รับอนิสงค์มากขึ้น จึงประเมินเบื้องต้นว่าเม็ดเงินดังกล่าวจะช่วยเพิ่ม GDP ได้อีก 0.2-0.3%
นอกจากนี้ ต้องเร่งแก้ไขปัญหาสินค้าไม่ได้คุณภาพทะลักเข้ามาตีตลาดไทย ต้องหารือกับทางการจีน เพื่อควบคุมมาตรฐานของสินค้า ให้ได้มาตรฐานของฝั่งไทย ทั้ง มอก. อย. ในขณะที่กรมศุลกากรต้องเข้มงวดในการตรวจสอบและสกัดสินค้าจากต่างประเทศที่นำเข้ามาอย่างละเอียด มีมาตรการที่บังคับให้แพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์ต่างชาติจำเป็นต้องเสียภาษีทั้ง VATและภาษีรายได้ (จากยอดขาย ไม่ใช่กำไร) เพื่อทำให้สามารถจัดเก็บรายได้เข้าภาครัฐตามที่ควรจะเป็น การตรวจสอบการใช้ระบบชำระเงินPaymentต่างชาติซึ่งที่ผ่านมาเม็ดเงินจำนวนมากไหลออกนอกประเทศจากระบบชำระเงินของต่างชาติ ต้องให้เข้าสู่ระบบที่ถูกต้องและอยู่ภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงส่งเสริม การใช้ชิ้นส่วนท้องถิ่น หรือ Local Content ของประเทศไทย. -511-สำนักข่าวไทย